ก. ไก่แก้วกู่ก้อง กังวาน
ข. ขับเสียงเอ้กขาน เจื่อยแจ้ว
ค. คนฟังเสียงหวาน คล้ายมรรค แปดเฮย
ง. ง่วงหายหมดแล้ว ลุกขึ้นภาวนา
ตะวันธรรม
หลับในอู่ทะเลบุญ
วันศุกร์ที่ ๔ ตุลาคมคม พ.ศ. ๒๕๔๕
Link ไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิใน youtube
ง่ายแต่ลึก 1 |EP.22| : หลับในอู่ทะเลบุญ
ปรับกาย
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ ในอิริยาบถนอนพักผ่อน
เราคุ้นเคยกับการนอนวันละ ๖ ชั่วโมงบ้าง ๗ - ๘ ชั่วโมงบ้าง คุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กๆ
เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไม่ได้หลับจำนวนชั่วโมงขนาดนี้
มีความรู้สึกว่าเหมือนกับเราพักผ่อนไม่เต็มที่เลยกลายเป็นความกังวลไป จริงๆ
แล้วการหลับแบบนี้ ยังไม่ใช่เป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์ บางครั้งเรายังฝัน
ตื่นมายังเมื่อย ยังซึม ยังมึนก็มี
ปรับใจ
การหลับที่สมบูรณ์ คือ
ใจต้องหลับอยู่ในกลางสมาธิ อยู่ในกลางอู่แห่งทะเลบุญที่โล่งๆ
ว่างๆ ลื่นไหลเข้ากลาง มีความสว่าง มีดวง มีองค์พระ เราอยู่กับตรงนั้นไปเถอะ
แล้วลืมไปเลยว่า เวลาผ่านไปกี่ชั่วโมงเหลืออีกกี่ชั่วโมงเราจะหลับแบบปกติ
ไม่ต้องไปคำนึงถึง พอตื่นมาตอนเช้า เราสังเกตดูจะเห็นได้ว่ามันไม่มึน ไม่ซึม
ไม่เมื่อย ไม่งง นั่นแหละคือการหลับที่สมบูรณ์
เป็นการหลับแบบลึก
หลับลึกๆ ที่มีการตื่นตัวภายใน เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ชาวโลกไม่รู้จัก
แต่มีอยู่จริงในมนุษย์ทุกๆ คน
เหลือแต่เพียงเขาไม่รู้จักแล้วก็ไม่เฉลียวใจว่ามีสิ่งนี้ ซึ่งเป็นสิ่งดีๆ
อยู่ในตัวของตัว ไม่มีใครไปบอก ไม่มีความรู้
จุดแห่งความบริสุทธิ์
เพราะฉะนั้นเมื่อเรามาถึงจุดแหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เมื่อเราจะหลับด้วยวิธีการใหม่ คือหลับแต่ตา แต่ตื่นตัวภายใน ในชั่วโมงที่เราจะต้องนอนหลับพักผ่อนแต่ว่ามันมีความสว่างโพลงภายใน
ใจเกลี้ยงเกลา เราก็ควรจะปล่อยมันไป ตามใจ อย่าไปฝืนประสบการณ์
แล้วเดี๋ยวจะมีสิ่งดีๆ ที่น่าศึกษา เพิ่มพูนความรู้ประสบการณ์ภายในมากยิ่งขึ้น
ซึ่งจะเป็นอุปการะในการที่จะศึกษาวิชชาธรรมกายต่อไป
หลับใหลไม่ใช่หลับลึก
เพราะฉะนั้นอย่าไปวิตกกังวลถึงการหลับพักผ่อนที่ไม่เป็นไปตามปกติของมนุษย์ธรรมดา
มนุษย์ธรรมดาหลับเพราะมีกิเลสเข้าไปบังคับครอบงำ หลับก็ตื้นๆ หลับแล้วก็ยังฝัน
ตื่นมาก็ยังมึน ยังซึมอยู่ ยังไม่สดชื่น เหมือนนอนไม่พอสักที มนุษย์หลับแบบนั้น เขาเรียกว่าหลับใหล
แต่นี่ไม่ใช่ หลับลึกที่มีการตื่นตัวภายใน ให้รู้จักกันอย่างนี้
เพราะฉะนั้นถ้ามีประสบการณ์อย่างนี้
ฝึกต่อไป หยุดต่อไปนิ่งไปเรื่อยๆ ให้วันกับคืนเป็นเหมือนหนึ่งเดียวกัน
กลางวันคือ กลางคืน กลางคืนคือ กลางวัน เป็นผู้ที่มีราตรีเดียว
สว่างโพลงภายในอย่างนี้ ส่วนใครที่ยังไม่ถึงจุดนี้ก็ฝึกต่อไปนะลูกนะ
ฝึกหยุดฝึกนิ่ง พอหยุดนิ่งถูกส่วน เดี๋ยวก็ได้ทุกคน
คืนนี้ก็เช่นเคย
ใครเหนื่อย ใครเพลีย ใครง่วง ใครตึง ก็ปล่อยให้หลับไปเลยในกลางอู่แห่งทะเลบุญ
ใครเมื่อยก็ขยับ ฟุ้งหยาบก็ลืมตาแล้วค่อยว่ากันใหม่ ทำอย่างนี้
ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวคืนนี้ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
สาธุชน ปี พ.ศ. ๒๕๔๕ : บ้านแก้วเรือนทองของคุณยาย
สภาธรรมกายสากล
: ๑๙.๐๐
- ๒๐.๓๐ น.
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565