แผนผังชีวิต
วันอังคารที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๕ (๑๙.๐๐ - ๒๐.๑๕ น.)
บ้านแก้วเรือนทองของคุณยาย สภาธรรมกายสากล
ปรับกาย
เมื่อเราบูชาพระรัตนตรัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปให้ตั้งใจให้แน่แน่ว มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานกันทุกๆ คนนะลูกนะ
ให้นั่งขัดสมาธิโดยเอาขาขวาทับขาซ้าย
มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย
วางไว้บนหน้าตักพอสบายๆ คนมาใหม่ก็ดูคนข้างเคียงเขานะลูกนะ
หลับตาของเราเบาๆ ค่อนลูก อย่าถึงกับให้ปิดสนิท
พอสบายๆ คล้ายๆ กับตอนที่เราใกล้จะหลับ อย่าไปบีบเปลือกตา อย่ากดลูกนัยน์ตา หลับตาสบายๆ
ปรับใจ
แล้วทำใจให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้สะอาด
บริสุทธิ์ ผ่องใส ไร้กังวลในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ
เรื่องธุรกิจการงาน การศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้
ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ให้ใจว่างๆ จากความคิด หรืออารมณ์ต่างๆ ให้ใจใสบริสุทธิ์กันทุกๆ
คนนะลูกนะ
ร่างกายเราเป็นท่อธารแห่งความบริสุทธิ์
บุญกุศล
คราวนี้เราก็สมมติว่า
ภายในร่างกายของเรา ปราศจากอวัยวะ ปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ ตับ ไต ไส้พุง เป็นต้น
ไม่มีอวัยวะภายในเลย สมมติให้เป็นที่โล่งๆ ว่างๆ เป็นโพรงภายใน กลวงตั้งแต่กะโหลกศีรษะไปถึงในกลางท้อง
กลวงภายในคล้ายๆ ท่อแก้วใสๆ ให้เป็นทางไหลผ่านของกระแสธารแห่งความบริสุทธิ์
ความดีงาม ที่เราได้สั่งสมอบรมมา ตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
ได้สร้างทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี
ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี
อุเบกขาบารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน จนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้
รวมกับอานุภาพอันไม่มีประมาณของพระรัตนตรัย
คือ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ และพระคุณอันยิ่งใหญ่ของบิดามารดา ครูบาอาจารย์
ทั้งหมดรวมเป็นกระแสธารแห่งความบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพมาก ไหลผ่านกลางท่อแก้วใสๆ
ขจัดสิ่งที่เป็นมลทินของใจเราให้หมดสิ้นไป
ไม่ว่าจะเป็นความโลภ ความโกรธ ความหลง อุปกิเลสทั้งหลาย นิวรณ์ทั้ง ๕ วิบัติบาปศักดิ์สิทธิ์
วิบากกรรม วิบากมาร อุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิต ทุกข์ โศก โรค ภัย สิ่งที่ไม่ดีต่างๆ
ให้ละลายหายสูญไปให้หมด
ให้เหลือแต่ความบริสุทธิ์ที่ผุดเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ เป็นดวงใสๆ เหมือนกับเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิ
กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้วกายสิทธิ์ อย่างเล็กเท่ากับดวงดาวในอากาศ
ขนาดกลางก็เท่ากับพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ขนาดใหญ่ก็ขนาดพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน
ปรากฏเกิดขึ้นที่ ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ศูนย์กลางกายฐานที่
๗
สำหรับท่านที่มาใหม่ ยังไม่รู้ว่า ฐานที่
๗ อยู่ที่ตรงไหน ก็ให้สมมติว่า หยิบเส้นด้ายขึ้นมา ๒ เส้น นำมาขึงให้ตึง
จากสะดือทะลุไปด้านหลังเส้นหนึ่ง จากด้านขวาทะลุไปด้านซ้ายอีกเส้นหนึ่ง ให้เส้นด้ายทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท
จุดตัดจะเล็กเท่ากับปลายเข็ม ให้สมมติเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางมาวางซ้อนกัน
แล้วนำไปทาบตรงจุดตัดของเส้นด้ายทั้งสอง สูงขึ้นมา ๒ นิ้วมือ ตรงนี้แหละเรียกว่า ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนต่อเมื่อใจของเราหยุดนิ่งได้สนิท สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว
ถ้าใจยังไม่นิ่งสนิท เราก็จำง่ายๆ
เอาว่า อยู่ที่กลางท้องในตำแหน่งที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ หรือจำง่ายๆ ว่า
อยู่กลางท้อง ที่สุดของลมหายใจเข้าออก ตรงนี้แหละเรียกว่า ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ซึ่งความบริสุทธิ์เบื้องต้นที่เป็นดวงใสๆ อย่างเล็กก็ขนาดดวงดาวในอากาศ อย่างกลางขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
อย่างใหญ่ขนาดพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน จะปรากฏเกิดขึ้นที่ตรงนี้นะจ๊ะ
บริกรรมนิมิต
ให้เอาใจของเราที่แวบไปแวบมา
คิดไปในเรื่องราวต่างๆ เรานำกลับมาหยุดนิ่งๆ หยุดนิ่งๆ อยู่ที่กลางดวงใสๆ เอาใจตรึกนึกถึงดวงใส
หยุดใจอยู่ที่กลางดวงใสๆ
ตรึก คือ
การนึกถึงดวงใสๆ อย่างสบายๆ คล้ายๆ กับเรานึกถึงสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราคุ้นเคย
ไม่ใช่เป็นการเพ่งดวงแก้ว เพ่งลูกแก้ว
ไม่ใช่เป็นการเค้นภาพให้ดวงแก้วทะลักออกมาปรากฏในกลางท้อง
ตรึกนึกถึงดวงใส
ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ ให้ต่อเนื่องกันไป อย่าให้เผลอ ถ้าเผลอเราก็ดึงกลับมาหยุดนิ่งที่กลางดวงใสๆ
ใหม่ อย่างง่ายๆ สบายๆ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
บริกรรมภาวนา
ถ้าหากว่าทำอย่างนี้แล้ว
ยังอดฟุ้งไปในเรื่องราวต่างๆ ไม่ได้ ก็ให้ประกอบบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ อย่าให้ช้า
และอย่าให้เร็วนัก โดยคำภาวนาดังออกมาจากจุดกึ่งกลางของดวงใสๆ ภาวนาในใจว่า สัมมาอะระหังๆๆ
ตรึกนึกถึงดวงใส หยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ ภาวนาอย่างนี้เรื่อยไป กี่ครั้งก็ได้ กี่สิบ
กี่ร้อย กี่พัน กี่หมื่น กี่แสนครั้งก็ได้ จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง
เวลาใจหยุดนิ่งจะทิ้งคำภาวนาสัมมาอะระหังไป
จะมีอาการคล้ายๆ กับเราลืมภาวนาสัมมาอะระหัง แต่ว่าใจไม่ได้ไปฟุ้งในเรื่องอื่น
หรือเกิดความรู้สึกว่า ไม่อยากจะภาวนาสัมมาอะระหังต่อไป อยากจะวางใจเอาไว้เฉยๆ
นิ่งๆ ถ้าเกิดความรู้สึกอย่างนี้ ก็ไม่ต้องย้อนกลับมาภาวนาใหม่ ให้รักษาใจหยุดนิ่งๆ
ที่กลางดวงใสๆ นะลูกนะ
แม้ว่าเราจะเห็นไม่ชัดเจนก็ไม่เป็นไร
หรือไม่เห็น นึกไม่ออก ก็ไม่ต้องไปนึกมัน ทำใจหยุดนิ่งเฉยๆ ตรงกลางท้องที่เรารู้สึกว่า
ตรึกตรงนี้แล้วสบายใจ พึงพอใจ ก็ตรึกไปเฉยๆ จะภาวนา สัมมาอะระหัง
หรือไม่ภาวนาก็ได้นะจ๊ะ ทำอย่างนี้ แค่นี้เท่านั้นแหละ
แผนผังชีวิต
พอหยุดถูกส่วนเข้า
ไม่ช้าเราก็จะพบของจริงที่มีอยู่ในตัวของเรา เป็นแผนผังชีวิตที่ติดมาตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
เราจะเห็นดวงใสๆ เห็นกายใสๆ เห็นองค์พระใสๆ ซ้อนกันอยู่ภายใน
กายละเอียดซ้อนอยู่ในกายที่หยาบกว่า กายใหญ่กว่าซ้อนอยู่ในกายที่เล็กกว่า ๑๘ กาย
ตั้งแต่กายมนุษย์หยาบ-ละเอียด
กายทิพย์หยาบ-ละเอียด กายรูปพรหมหยาบ-ละเอียด กายอรูปพรหมหยาบ-ละเอียด
กายธรรมโคตรภูหยาบ-ละเอียด กายธรรมพระโสดาบันหยาบ-ละเอียด กายธรรมพระสกิทาคามีหรือพระสกทาคามีหยาบ-ละเอียด
กายธรรมพระอนาคามีหยาบ-ละเอียด กายธรรมพระอรหัตหยาบ-ละเอียด ซ้อนกันอยู่ภายในทั้ง
๑๘ กาย จะเห็นไปตามลำดับอย่างนี้ ถ้าผิดจากนี้ไม่ใช่ ถ้าเห็นตามนี้ถูกต้อง
เพราะฉะนั้น ทำตรงนี้ให้ได้เสียก่อนนะลูกนะ
หลังจากนั้นมีเรื่องราวเยอะแยะที่เราจะศึกษาด้วยธรรมกาย ที่เขาเรียกว่า วิชชาธรรมกาย
ตั้งแต่วิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖ ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ วิโมกข์ ๘ เป็นต้น
จะต้องอาศัยกายธรรมนี้แหละ
เพราะฉะนั้น ฝึกหยุด
ฝึกนิ่งตรงนี้ให้ได้เสียก่อน อย่าใจร้อนนะลูกนะ ค่อยๆ ฝึกไป หยุดนิ่งไปเรื่อยๆ ให้ใจใสๆ
ให้ใจบริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว เกลี้ยงเกลาจากอกุศลธรรม มีแต่กุศลธรรมล้วนๆ นั่นแหละจึงจะเข้าถึงแผนผังของชีวิตดังกล่าว
เข้าใจอย่างนี้ดีแล้ว
ต่อจากนี้ไปต่างคนต่างทำกันไปเงียบๆ ถ้าเมื่อยก็ขยับ ถ้าง่วงก็ปล่อยให้มันหลับอยู่ในกลางกาย
ถ้าฟุ้งเราก็ลืมตาขึ้นมาใหม่ หรือจะภาวนา สัมมาอะระหัง ก็ได้นะจ๊ะ
ต่างคนต่างทำกันไปเงียบๆ
อธิฐานจิต
คราวนี้เราก็นึกถึงบุญที่ได้จากธรรมปฏิบัติในวันนี้
มีอานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่ไพศาล นึกถึงบุญนี้ อธิษฐานจิตให้กาย วาจา ใจของเราสะอาด
บริสุทธิ์ หลุดพ้นจากการเป็นบ่าวเป็นทาสของพญามาร จากวิบัติบาปศักดิ์สิทธิ์
วิบากกรรม วิบากมาร อุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิต ทุกข์ โศก โรค ภัย สิ่งที่ไม่ดีต่างๆ
ให้มลายหายสูญไปให้หมด
ให้เรามีกำลังใจในการสร้างบารมี
ในการให้ทาน รักษาศีล หรือเจริญภาวนา ให้ได้ทุกวันทุกคืน ไปจนกระทั่งหมดอายุขัยของเรา
อย่าได้สร้างบารมีครึ่งๆ กลางๆ เลย ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง
ให้สมบัติไหลมาเทมา เป็นสมบัติอัศจรรย์
ทันใช้สร้างบารมีในชาตินี้ อย่างไม่รู้จักหมดจักสิ้น ให้ไหลมาเทมา ทั้งวันทั้งคืน
ทั้งหลับทั้งตื่น ทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน ไม่ว่าจะประกอบอาชีพใดก็ตาม ส่วนตัวก็ดี
บริษัทห้างร้านก็ดี รับราชการก็ดี ศึกษาเล่าเรียนก็ดี
ให้มีแต่ความสำเร็จเป็นอัศจรรย์ ให้ซื้อง่ายขายคล่องกำไรงาม เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ
ค้ำจุนพระพุทธศาสนา ประดุจท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีและมหาอุบาสิกาวิสาขา
จะทำงานบริษัทห้างร้าน
หรือรับราชการก็ให้เจริญรุ่งเรืองสูงยิ่งๆ ขึ้นไป
ให้ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงาน ทั้งผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา จะศึกษาเล่าเรียนก็ให้เป็นบัณฑิต
เป็นนักปราชญ์ จะครองเรือนก็ให้เป็นครอบครัวธรรมกาย เป็นครอบครัวแก้ว
ครอบครัวตัวอย่างของโลก
ให้เป็นที่รักของมนุษย์
ของเทวดาทั้งหลาย ให้หมดหนี้สิน เหลือกินเหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมี
ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อย่าเจ็บ อย่าป่วย อย่าไข้ ใครเจ็บป่วยไข้ก็ให้หายเจ็บ
หายป่วย หายไข้ ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง อายุยืนยาวเป็นร้อยปี
ได้สร้างบารมีกันไปนานๆ
จะประพฤติปฏิบัติธรรม
ก็ให้ปฏิบัติสะดวก ตรัสรู้ธรรมได้รวดเร็วอย่างถูกต้องร่องรอยตรงไปตามความเป็นจริงทุกประการ
ให้รู้แจ้งเห็นแจ้ง แทงตลอดในวิชชาธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธรรมอันใดที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และคุณยายอาจารย์ได้บรรลุ
ขอให้เราจงได้บรรลุธรรมนั้นอย่างถูกต้องร่องรอยตรงไปตามความเป็นจริงทุกประการ
จะไปทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร
ให้มีบุญพิเศษที่จะไปพูดจากับใครก็ขอให้ชนะใจคนหมดทุกๆ คน ถูกอก ถูกใจ
ถูกพระทัยมนุษย์หมดทุกคน ใครได้ยินได้ฟังก็ให้เกิดความปีติ เกิดความเลื่อมใส
ขนพองสยองเกล้า ให้ดีอกดีใจ ให้มีกุศลศรัทธามาสร้างบารมีกับเรา
จะเดินทางไกลไปที่ใด
ก็ให้บุญหล่อเลี้ยงรักษาทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งหลับ ทั้งตื่น ทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน
อัคคีภัย โจรภัย ราชภัย
ภัยทุกชนิดอย่าได้มากล้ำกราย ให้พบปะแต่สิ่งที่ดีงาม
ที่จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
ถ้าเป็นนักบวช ก็ขอให้บวชให้ได้ตลอดชีวิต
ตลอดรอดฝั่ง บวชแล้วก็ขอให้เป็นเนื้อนาบุญ เป็นอายุพระศาสนา บรรลุทั้งปริยัติ
ปฏิบัติ ปฏิเวธ คล่องแคล่วเชี่ยวชาญในเทศนา ศึกษาวิชชาธรรมกายก็ทะลุปรุโปร่ง
จะเป็นครูเขาอาจารย์เขา ก็ขอให้แสดงธรรมไพเราะเบื้องต้น ท่ามกลาง เบื้องปลาย
บริสุทธิ์ บริบูรณ์ ทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ
ที่ตั้งใจจะสร้างมหาวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำก็ดี
ของคุณยายอาจารย์ของเราก็ดี เมื่อตั้งใจแล้วก็ขอให้สมความปรารถนา
ให้สมบัติใหญ่ไหลมาเทมาทุกทิศทุกทาง ทั้งวันทั้งคืน
ทั้งหลับทั้งตื่น ทั้งนั่ง นอน ยืน เดินทีเดียว ได้มาอย่างอัศจรรย์ สมความปรารถนาในทุกสิ่ง
ให้ความปรารถนาของเรานี้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่เกิดจากธรรมปฏิบัติในวันนี้
อุทิศส่วนกุศล
ขอผลบุญนี้จงถึงแก่หมู่ญาติสนิท มิตรสหาย
สัมพันธชน บรรพบุรุษ บุพการีของเราและสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ ที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
ใน ๓๑ ภูมิ ในกามภพ ในรูปภพ อรูปภพ ตลอดแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ในกำเนิดทั้ง
๔ ให้ได้อนุโมทนาสาธุการในกุศลผลบุญที่เราได้อุทิศแบ่งปันไปนี้ ให้อนุโมทนาแล้วก็ให้บอกกันต่อๆ
กันไป ให้ได้อนุโมทนาบุญนี้ อนุโมทนาแล้ว ที่มีทุกข์มากก็ให้ทุกข์น้อย
ที่มีทุกข์น้อยก็ให้พ้นทุกข์ ที่มีสุขน้อยก็ให้สุขมาก
ที่มากแล้วก็ให้มากยิ่งขึ้นไปตามลำดับ
วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2565