วันพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับวันนี้
หากทำดีก็ต้องดีซิลูกเอ๋ย
มันขึ้นอยู่กับเราใช่อื่นเลย
อยากเสบยก็ทำให้ใจสบาย
หากลูกหวังอยากเป็นนักรบกล้า
จงอุตส่าห์ฝึกฝนตนขวนขวาย
ให้นิ่งหยุดถึงจุดได้ธรรมกาย
สิ่งที่หมายจะสมหวังดังตั้งใจ
ตะวันธรรม
ภาวิตา พหุลีกตา
วันจันทร์ที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
Link ไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิใน youtube
ง่ายแต่ลึก 4 |EP.24| : ภาวิตา พหุลีกตา
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ขยับเนื้อขยับตัวให้ดี ต้องผ่อนคลาย ต้องสบายๆ แล้วก็ทำใจให้ใสๆ ใจเย็นๆ ทิ้งทุกอย่าง
ปล่อยวางทุกสิ่ง และก็รวมใจกลับเข้าไปสู่ภายใน ไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ใจแตะตรงกลางไปเบาๆ นิดๆ อย่างสบาย แล้วก็ผ่อนคลาย ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ
ถ้าใจเราใสๆ ใจเย็นๆ จะทำให้เราวางใจได้ถูกส่วนที่กลางกายได้อย่างง่ายๆ จะไม่ติดบริเวณลูกนัยน์ตาหรือศีรษะเลย มันจะลงไปในตรงกลางตัวเลยอย่างง่ายๆ แต่ต้องสบาย ต้องผ่อนคลาย ปรือๆ ตานิดหน่อย เหมือนเราชำเลืองดูศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างง่ายๆ
ต้องง่าย ต้องสบาย ต้องผ่อนคลาย ตรงนี้เราต้องทำให้เป็น มันจะกลับตาลปัตรกับงานหยาบที่เราทำ อย่างนั้นต้องใช้ความหยาบ ต้องต่อสู้ ต้องพยายาม แต่ถ้านั่งหลับตาแล้วมันตรงกันข้าม มันต้องง่าย ถ้ายากไม่ใช่ ต้องผ่อนคลาย ต้องสบาย
ใจถ้ายังวางลงตรงกลางไม่ได้ก็ต้องเอาความสบายก่อน ผ่อนคลายก่อน สบายตรงไหนเราก็เอาตรงนั้นก่อน เช่น สมมติว่า สบายที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เช่น บริเวณเปลือกตาบ้าง จมูกบ้าง ตามฐานต่างๆ เราสบายตรงไหนก็วางตรงนั้นไปก่อน
ถ้าเราผ่อนคลาย เราจะลงตรงกลางได้อย่างง่ายๆ แล้วความรู้สึกของเราจะเปลี่ยนไปเลย เวลาใจวางไว้ในกลางกายได้ มันจะหลุดจากหยาบ แม้ตรงกลางกายเรายังไม่เห็นอะไรก็ตาม แต่ถือว่าเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่มีความเพียร ทำถูกหลักวิชชา ใจจะกลับเข้าไปสู่ภายในได้อย่างง่ายๆ ให้ไปอยู่ในบริเวณกลางกายในกลางท้องของเราก่อนอย่างง่ายๆ เอาตรงนี้ สำหรับบางคนที่จิตยังหยาบอยู่
ภาวิตา พหุลีกตา
แต่ถ้าเราคุ้นเคย มันก็ไม่ยาก แต่แม้ทำได้แล้ว ก็ต้องทำซ้ำๆ คำว่า “ภาวิตา
พหุลีกตา”
ต้องซ้ำๆ บ่อยๆ เนืองๆ ถ้าทำตรงนี้ได้คล่อง เท่ากับเรากำชัยชนะในการที่จะเข้าถึงวิชชาธรรมกาย กำความสำเร็จไว้เลย แค่วางใจไว้ได้ตรงกลาง ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เห็นอะไรก็ตาม
พยายามฝึกตรงนี้ซ้ำๆ แล้วเดี๋ยวจะโล่งเอง มันจะโล่งโปร่ง เบา สบาย ไปตามขั้นตอนของสมาธิ ซึ่งจะทำให้เรารักการปฏิบัติ อยากอยู่กับตัวเอง ไม่อยากเสียเวลาไปในทางที่ไม่เกิดประโยชน์เลย อยากหยุดอยากนิ่งในกลางกาย
แม้โล่ง โปร่ง เบา สบาย ก็ต้องทำซ้ำๆ ฝึกซ้ำๆ จนกระทั่งข้างในมันกลวง โล่ง ว่าง ใจก็เพิ่มความละเอียดมากเข้า สบายกายสบายใจเพิ่ม เดี๋ยวความสว่างก็มาเอง หรือไม่ก็ภาพของดวงใสๆ บ้าง องค์พระใสๆ บ้าง ก็จะมาอย่างเลือนราง ทำให้เรามีความรู้สึกว่า มีอยู่
มีดวงใสๆ อยู่กลางกาย มีองค์พระใสๆ อยู่ในกลางกาย แม้ยังไม่ชัดเจนก็ตาม ก็ถือว่าก็เป็นรางวัลสำหรับผู้ที่ทำความเพียรเพิ่มขึ้น
แม้เลือนรางอย่างนี้ก็ต้องฝึกซ้ำๆ แล้วก็ต้องทำทุกอิริยาบถ ฝึกซ้ำๆ และเมื่อได้รัวๆ รางๆ แล้ว อย่าไปเน้น อย่าไปเค้นแม้ไม่ได้ดั่งใจ ให้รักษาความพึงพอใจในระดับนั้นเอาไว้ก่อน และก็หมั่นชำเลืองดูในอิริยาบถต่างๆ ที่นอกเหนือจากการนั่ง จากรัวๆ รางๆ ก็จะชัดเพิ่มขึ้นๆ ในระดับที่เรายอมรับว่า การเห็นได้เกิดขึ้นภายใน เช่น ชัดเจนเหมือนเราดึงของออกจากที่สลัวมาอยู่กลางแจ้งนิดๆ กระเถิบออกมาสู่กลางแจ้ง เราก็ดูไปเฉยๆ แม้มีความชัดเพิ่มขึ้นจาก ๕ เปอร์เซ็นต์ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ รักษาความพึงพอใจและใจเย็นเอาไว้ให้ดี
เร่งอย่างถูกวิธี คือ พึงพอใจในระดับที่เรามีประสบการณ์ภายใน ในช่วงนั้น ชัดแค่ไหนเอาแค่นั้น แล้วก็ฝึกซ้ำๆ อย่าไปเน้น อย่าไปเค้นภาพ ให้ดูไปอย่างนั้นเรื่อยๆ ทำใจให้สบายๆ เราคงยังรักษาความผ่อนคลายเอาไว้เรื่อยๆ ฝึกซ้ำๆ ความชัดก็จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเอง แม้เพิ่มขึ้นเราก็ต้องยังรักษาความพึงพอใจเอาไว้เท่าที่มีให้ดู
ถ้าเราสามารถรักษาใจเย็นๆ อย่างนี้ได้ความชัดจะเกิดขึ้นเอง จากชัดน้อยก็มาชัดมากขึ้นๆ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ทำบ่อยๆ ควบคู่กับงานหยาบ เพราะเราจะไปคอยความพร้อมว่า ให้งานหยาบเสร็จเสียก่อน อย่างนั้นไม่ได้ต้องควบคู่กันไป พอเราทำซ้ำหนักเข้าๆ ก็จะชัดเพิ่มขึ้น ๗๐ เปอร์เซ็นต์บ้าง ๘๐, ๙๐, ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แม้ชัด ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ยังต้องทำแบบเดิม คือ ดูเฉยๆ
ไม่ว่าจะเป็นดวง เป็นกาย หรือเป็นองค์พระดูเฉยๆ อย่าเพิ่งไปเก็บรายละเอียด เพราะเดี๋ยวเราจะเห็นรายละเอียดเอง ครบหมดเลยมีให้ดูแค่ไหนให้ดูแค่นั้นไปก่อน อย่างสบายๆ และผ่อนคลาย ลูกต้องจำที่แนะนำ และก็เอาไปทำให้ได้ด้วย อย่าตกแม้แต่คำเดียว
เราต้องพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่เมื่อเราทำผิดวิธี และเริ่มต้นใหม่อย่างสบายๆ อย่างนี้แหละ เดี๋ยวมันก็จะกลับไปสู่สภาวะนั้นได้เอง
การทำซ้ำๆ
เป็นเรื่องสำคัญมาก
จะทำให้เราคล่อง
ชำนาญ
และใจติดอยู่กับเนื้อกับตัวอยู่ในกลางกาย
เดี๋ยวความชัด
๑๐๐
เปอร์เซ็นต์ก็มาพร้อมกับความสุข
ความบริสุทธิ์
ความชัดความใส
ความสว่าง
องค์ประกอบก็จะครบเองคือ
จะได้สุขกับเฉยๆ
เฉยอย่างมีความสุข
คือ
ใจนิ่ง
นุ่ม
เบา
สบาย
เห็นภาพ
มีความสุขจนกระทั่งไม่อยากจะเลิกนั่ง
ความชัด
ความใส
ความสว่าง
ความสุข
ความบริสุทธิ์
ก็จะมาพร้อมๆ
กัน
ตอนนี้เราจะสนุกกับการนั่ง เกิดมาชาตินี้มีกำไรแล้ว เรามีที่พึ่งภายใน มีที่ยึดที่เกาะของใจเราแล้ว ที่ทำให้จิตของเราบริสุทธิ์ ธาตุในตัวบริสุทธิ์
พอเราทำซ้ำๆ รายละเอียดก็จะชัดเพิ่มขึ้น ภาพก็จะขยายใหญ่ไปเอง จะเป็นดวง เป็นองค์พระ เป็นอะไรก็แล้วแต่ จะขยายและการเคลื่อนเข้าไปสู่ภายในก็จะเกิดขึ้นเองอย่างง่ายๆ จนกระทั่งมีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ และมีความภาคภูมิใจว่า เราตัดสินใจถูกแล้วที่เราได้ทิ้งทุกอย่างวางทุกสิ่งวิ่งเข้าวัดมาสร้างบารมี ใจจะเป็นใหญ่ในตัว มีความปลื้มอยู่ในตัว มีความรู้สึกเหมือนเราไม่ได้ขาดแคลนอะไรเลย มันอิ่มมันเต็มอยู่ในตัวเลย
ลูกฝึกอย่างนี้ซ้ำๆ ให้ใจใสๆ ใจละเอียด ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
สมาชิกภายในองค์กร : ห้องแก้วสารพัดนึก : ๑๓.๓๐ - ๑๔.๓๐ น.
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565