หยุด เป็นตัวสำเร็จให้ จำไว้
หยุด นิ่งดิ่งภายใน กายแก้ว
หยุด ในหยุดต่อไป เรื่อยเรื่อย
หยุด อย่างนี้คลาดแคล้ว บ่วงแร้วพญามาร
ตะวันธรรม
หลักสูตรชีวิต
วันอาทิตย์ที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ .๒๕๕๑
Link ไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิใน youtube
ง่ายแต่ลึก 2 |EP.4| : หลักสูตรชีวิต
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ให้มีความรู้สึกว่าสบาย
ทำใจให้เบิกบาน แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใสไร้กังวลในทุกสิ่ง
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ให้ปลด ปล่อย วาง ทำใจให้ว่างๆ
นึกถึงบุญที่ทำผ่านมา
แล้วก็นึกถึงบุญทุกบุญที่เราทำผ่านมาให้ติดเป็นนิสัยเลยบุญบารมีความดีที่เราทำผ่านมาตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
เราสร้างบุญบารมีความดีเรื่อยมาเลยในทุกๆ บุญ ทุกๆ บารมี ทุกๆ ความดี
มารวมเป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างสบายๆ
ดวงบุญนั้นกลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว
ใสบริสุทธิ์ เหมือนเพชรที่เจียระไนแล้วไม่มีตำหนิเลย หรือใสยิ่งกว่านี้
ใสเกินใสเกินความใสใดๆ ทั้งสิ้น ที่เราเคยเห็นในโลก
แล้วก็สว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แต่ว่าไม่แสบตา ไม่เคืองตา
ไม่จ้าตาคล้ายๆ กับเรามองดูพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ จะเป็นแสงที่ใสเย็น สบาย
ฝึกให้ติดเป็นนิสัยเลยนะ เพราะเราจะต้องใช้ดวงบุญนี้ไปจนกว่าจะถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
เราจะไปนึกในตอนนั้น เดี๋ยวมันจะไม่ทันกัน
ต้องหมั่นฝึก หมั่นนึก
หมั่นคิดถึงบุญที่เราได้ทำผ่านมาจนถึงปัจจุบันชาติที่ล่าสุด มารวมเป็นดวงบุญใสๆ
ติดอยู่ในกลางกาย เพราะที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นั้น เป็นที่มาเกิด ไปเกิด ที่หลับ
ที่ตื่น ไปสู่อายตนนิพพาน ดังที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมาแล้ว
หลักสูตรชีวิตก่อนเดินทางไปสู่ปรโลก
ตอนนี้เรามาเกิดแล้ว
สั่งสมบุญเอาไว้แล้ว แต่ตอนจะไปเกิด ก็ต้องทำให้เป็น ถ้าทำไม่เป็น ไม่รู้หลักวิชชา
อันตราย
มีผู้มีบุญหลายท่านทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นชนระดับไหนก็ตามชนชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูง ถ้าไม่เคยหมั่นนึกถึงบุญ
หรือไม่รู้จักหลักสูตรของชีวิตก่อนเดินทางไปสู่ปรโลกว่า
ใจใสไปดี
ใจหมองไปไม่ดี (ไปอบาย) ถ้าไม่รู้ตรงนี้ก็จะทำไม่เป็น
ใจใส
คือ การนึกถึงความดีที่เราทำ
ใจหมอง
เพราะนึกถึงสิ่งที่เราดำเนินชีวิตผิดพลาดที่เรา
ทำไม่ดีในอดีตมาฉายให้เห็น
ไม่ว่าเราจะมีความรู้หรือ
ไม่มีก็ตาม
ถ้าไม่รู้หลักสูตรของชีวิตก่อนเดินทางไปสู่ปรโลก
จะทำไม่เป็น ยิ่งโดยเฉพาะช่วงสุดท้ายของชีวิต มันมีโรคภัยไข้เจ็บ
บางคนก็ทุกข์ทรมานมาก บางคนก็ปานกลาง บางคนก็น้อย ไม่เหมือนกัน
แต่จะทุกข์ทรมานน้อย มาก ปานกลาง หรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ต้องรู้จักหลักวิชชา
ถ้าไม่รู้ก็ทำไม่เป็น ถ้าทำไม่เป็นอันตราย
อันตรายอย่างไร แม้สั่งสมบุญมามาก
ถ้าเราไม่หมั่นนึกเพราะไม่เข้าใจ ตอนตายใหม่ๆ
เมื่อความทุกขเวทนาครอบงำใจก็จะพัวพันอยู่กับความทุกข์ ความเจ็บป่วย
ตอนนั้นมันจะขาดสติ เวลากายละเอียดหลุดไปจากกายหยาบ ก็จะอยู่ที่บ้านบ้าง
หรือนึกถึงใครก็จะไปตรงนั้น วนเวียนอยู่ ๗ วัน
แล้วก็จะมีเจ้าหน้าที่จากยมโลกมาพาไปตามกำลังแห่งวิบากกรรมที่เราทำเอาไว้
ตรงนี้แหละสิ่งที่เราทำเป็นอาจิณก็จะได้ช่องก่อน
ถ้าดื่มเหล้าสูบบุหรี่เป็นอาจิณกรรม เจ้าหน้าที่เขาจะพาไปในยมโลกของมหานรกขุม ๕
ก่อน อันนี้ในกรณีที่ถ้าเราทำบุญกับบาปควบคู่กันไป โดยไม่รู้ว่าบาปเป็นอย่างไร
หรือทำบุญก็ทำไปอย่างนั้นเอง หรือทำไปตามหน้าที่บ้าง หรือนานๆ
ก็จะมีศรัทธาสักทีหนึ่ง หรือทำบุญสงเคราะห์โลกเป็นส่วนใหญ่ ตายใหม่ๆ
ก็จะไปอย่างนี้
ทีนี้เวลาไปนี่
มันไปด้วยลักษณะที่ไม่มีเสื้อผ้า มีแต่เครื่องพันธนาการ และถูกควบคุมตัวไป
ตอนนั้นก็จะตกอกตกใจ อกสั่นขวัญแขวน ถูกนำตัวมาอยู่ที่หน้าลานพิพากษา
ตรงนั้นมีสิ่งแวดล้อมที่เห็นแล้วน่าสยอง น่าสะพรึงกลัว ใจยิ่งหมอง
หดหู่หนักเข้าไปอีก
พอถึงคราวประกาศชื่อ
ตัวก็เดินตามเขาไปในสภาพที่เปลือยเปล่า มีคนคุม มีเครื่องพันธนาการ
ไปหวาดเสียวอีกไปนั่งอยู่ตรงหน้าบัลลังก์
ถ้าโชคดีเขาฉายเรื่องบุญมาให้ดูก่อนพอระลึกได้เป็นภาพขึ้นมา
บุญถึงจะส่งผลนำเราหลุดออกมาก่อน จึงจะมารับบุญที่เขาอุทิศไปให้
ซึ่งมันมีที่เก็บอยู่ ที่ว่าบุญไปคอยอยู่ที่ยมโลก แล้วถึงจะมีขั้นตอนกันออกมา กว่าจะหลุดออกมาจากตรงนั้นได้
เพราะบุญส่งผลในภายหลัง มันก๊อกสั่นขวัญแขวน
กว่าจะเดินทางไปสู่เทวโลกตามกำลังแห่งบุญ ก็ต้องผ่านขั้นตอนตรงนั้นก่อน
ซึ่งเราไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น
จะเห็นว่านรกสวรรค์นี่
มันเกี่ยวข้องกับตัวเรา ไม่ใช่เรื่องไกลตัว จนละเลยไม่ศึกษา
แล้วก็ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวมาศึกษาบ้าง แต่มันเกี่ยวกับตัว ต้องศึกษา
เพราะฉะนั้นหมั่นนึกถึงบุญเอาไว้ทุกวันให้สม่ำเสมอจนติดเป็นนิสัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกทุกๆ
คน เพราะมันเกี่ยวข้องกับตัวของเรา
ดังนั้นในตอนนี้ก็ต้องนึกถึงบุญให้เห็นเป็นดวงใสๆ
แม้ยังเห็นไม่ชัด ก็ให้มีความรู้สึกว่ามีอยู่ไปก่อนว่า เป็นดวงกลมๆใสๆ
เหมือนกับเพชร เหมือนกระจก หรือเหมือนน้ำแข็งใสๆซึ่งเรานึกง่าย
เพราะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกับการนึกการเห็น นึกง่ายๆ อย่างนั้นไปก่อน
ไม่ชัดเจนก็ไม่เป็นไร ให้คุ้นเคย นึกบ่อยๆมันก็คุ้นเคย แล้วก็จะชัดเจนขึ้นมาเอง
จากการนึกเห็นก็จะเห็นได้จริงๆ ในภายหลังเมื่อใจหยุดนิ่งได้ถูกส่วน
นี่คือสิ่งที่ลูกทุกคนต้องฝึกฝนด้วยตนเอง
เพราะทำแทนกันไม่ได้ เราต้องหายใจเอง เราต้องรับประทานเอง
ปฏิบัติธรรมะก็ต้องปฏิบัติเอง นึกถึงดวงบุญก็ต้องนึกเอง
จนกระทั่งคุ้นเคยแล้วก็ชินติดเป็นอุปนิสัย กระทั่งกลายเป็นขันธสันดาน
ติดอยู่กับตัวเราเป็นอัตโนมัติ เหมือนเราอาบน้ำ ล้างหน้า
แปรงฟันหรือเหมือนลมหายใจเข้าออกที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีใครมาตักเตือนเรา
ตอนนี้ก็ให้ตามระลึกนึกถึงบุญโดยนึกเป็นภาพรวมไปก่อนว่า
บุญทั้งหมดมารวมเป็นดวงอย่างนี้ หรือจะเริ่มต้นจากบุญที่เรานึกได้ง่าย
ประทับใจในบุญใดก่อน ที่นึกทีไรแล้วปลื้มทุกที นึกถึงบุญนั้น
หรือการกระทำที่ประทับใจนั้นก่อน พอความปลื้มเกิดขึ้นมันก็จะไปดึงดูดบุญอื่นๆ ทุกๆ
บุญที่เราระลึกไม่ได้ ให้มารวมเป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในกลางกาย
ซึ่งจะเป็นหลักยึดของใจเรา
เมื่อใจมีความปลื้มปีติในบุญในความดีที่เราทำ
ความสงบกายสงบใจก็จะเกิดขึ้นเอง ซึ่งจะนำมาซึ่งการหยุดนิ่ง ใจก็จะหยุดนิ่งอยู่ภายใน
ก็จะหยุดไปเรื่อยๆ อยู่กับเนื้อกับตัวในตำแหน่งที่ถูกต้อง
ตำแหน่งที่เป็นแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ ความสุข ความสำเร็จในชีวิต
ความรอบรู้ในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตเป็นต้น
ตอนนี้เราก็นึกถึงดวงบุญอย่างสบายๆ
คล้ายๆ กับเรานึกถึงสิ่งที่เราชอบ นึกเพลินๆ เมื่อใจเราเพลิดเพลินอยู่ในบุญใจก็จะใสๆ
และยิ่งเราประคองใจด้วยบริกรรมภาวนาสัมมา อะระหัง ไปด้วย
ใจก็จะยิ่งอยู่กับเนื้อกับตัว ยิ่งหยุดยิ่งนิ่ง อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ไปเอง
ต่างคนต่างประคับประคองใจกันไปนิ่งๆ ให้ใจใสๆ ใจสบาย
หลวงพ่อธัมมชโย
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2565