กายสบาย ใจสบาย บุญเก่าก็ได้ช่อง
จันทร์ที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
Link ไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิใน youtube
ง่ายแต่ลึก 4 |EP.23| : กายสบายใจสบาย บุญเก่าก็ได้ช่อง
หลับตาเป็น จะเห็นภาพภายใน
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ต้องสบาย อย่ามองข้ามการหลับตานะ ถ้าเราหลับตาเป็น เดี๋ยวจะเห็นภาพภายในได้ง่ายหลับตาพอสบายๆ อย่าไปบีบเปลือกตา อย่ากดลูกนัยน์ตา ปรือๆ นิดๆ พอสบายๆ สบายแค่ไหน เราก็เอาแค่นั้น
ปรับกายใจให้สบาย
ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายทั้งเนื้อทั้งตัวให้สบาย ต้องสบายๆ ตรงไหนไม่สบาย เราก็ขยับให้เลือดลมในตัวของเราเดินได้สะดวก หาจุดสบายให้เจอทั้งกายและใจ สบายตรงไหนก็เอาตรงนั้นไปก่อน ที่สบายทั้งร่างกายและจิตใจ
ใจจะสบายได้ ต้องไม่เกาะ ไม่เกี่ยว ไม่เหนี่ยว ไม่รั้งเรื่องอะไรเลย ไม่มีความอยากได้ อยากเห็น อยากมีอะไรทั้งสิ้นเฉยๆ นิ่งๆ เกลี้ยงๆ
ต้องสบายนะ สบายตรงไหนเอาตรงนั้นไปก่อน จะไกลตัว ใกล้ตัว หรือกลางตัวก็ตามที่รู้สึกสบาย พอไม่สบายตอนช่วงไหน ทิ้งไปเลย ให้พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่อย่างง่ายๆ อย่าไปเสียดายสิ่งที่เราทำได้ดีมาก่อนหน้านี้
ให้เริ่มต้นใหม่อย่างง่ายๆ ตรงจุดที่สบาย เป้าหมายสุดท้ายของเรา คือ ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ เพราะฉะนั้นสบายตรงไหนเอาตรงนั้นก่อน เดี๋ยวมันก็จะค่อยๆ สบายเพิ่มขึ้นๆ จนกระทั่งตอนสุดท้ายมันจะไปลงที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ ไปเองเลย
กายสบายใจสบาย บุญเก่าก็ได้ช่อง
ลูกทุกรูปมีบุญเก่ามาก ถ้ามีบุญน้อยมาบวชรุ่นนี้ไม่ได้ บุญที่เคยบวช เคยปฏิบัติธรรม เคยเข้าถึงธรรม มีผังนี้อยู่ แต่คอยจังหวะที่กายสบาย ใจสบาย บุญนี้ก็จะได้ช่องส่งผล ให้ใจลูกหยุดนิ่งดิ่งเข้าไปสู่ภายใน วื้ดจึ๊กลงไปอย่างง่ายๆ แล้วก็จะเข้าถึงธรรมภายในได้ เพราะเคยเข้าถึงมาก่อน แต่เราลืมไปแล้ว เรานึกไม่ออก แล้วก็ไม่เคยจะนึกมาก่อน
บุญนี้มีอยู่ จึงทำให้เราได้มาบวช มาฝึกตน ทนหิว บำเพ็ญตบะ เป็นพระแท้ อยู่ครบพรรษา อยู่รับกฐิน เดินธุดงค์ไปพัฒนาวัดร้างเป็นวัดรุ่ง กระทั่งมาสู่โครงการกองพันเนื้อนาบุญที่จะไปเดินธรรมยาตรา กตัญญูบูชาพระผู้ปราบมาร มหาปูชนียาจารย์ เพราะฉะนั้นบุญเก่าแม้มี แต่ต้องได้ช่องส่งผล จะส่งผลได้
ต่อเมื่อกายสบายและใจสบาย
๔ ส.
ต้องมีสติ สบาย อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนั่ง นอน ยืน เดินแล้วก็หมั่นสังเกตอารมณ์ สังเกตใจของเรา
วันไหนที่นั่งได้ดี เพราะใจเราใส ใจเราสบาย ใจเราเป็นบุญ เป็นกุศล อารมณ์ไม่อยาก ไม่ขุ่นมัว ให้สังเกต แล้วเราก็ปรับตรงนั้น ทั้งอารมณ์แล้วก็ใจของเราจนกระทั่งมีความพร้อม พอมีความพร้อมใจก็จะหยุดนิ่งอย่างง่ายๆ ให้สังเกตให้ดี
ถ้ารักที่จะเข้าถึงธรรมต้องหมั่นสังเกต ไม่สังเกตไม่ได้ เช่น สมมติว่า เรานั่งไปแล้วมีความสุข เราก็นิ่งไปเรื่อยๆ แต่มีบางช่วงความสุขนั้นลดลง หรือความสบายกายสบายใจลดลง แม้เราทำต่อไป มันก็ลดลงไปอีก เราก็ต้องสังเกตดูเพราะอะไร แล้วให้เริ่มต้นใหม่ หาจุดที่สบายใหม่ทั้งกายและใจ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะสมความปรารถนา
บุญเก่าได้ช่อง ใจก็จะหยุดนิ่งได้ง่าย ตัวก็จะโปร่ง โล่ง เบา สบาย จะขยาย จะยืด จะย่อ จะหด หรือว่าหล่นตกจากที่สูงบ้าง มันก็เป็นไปเอง หรือเห็นภาพภายในต่างๆ ก็ปรากฏเกิดขึ้นเองได้อย่างง่ายๆ เพราะฉะนั้นปรับตรงนี้นะ ปรับกาย
ปรับใจให้สบาย ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ
ถ้าเราถนัดหรือชอบนึกภาพไปด้วย รู้สึกจะทำให้ใจอยู่กับเนื้อกับตัวได้ง่าย ก็ให้กำหนดบริกรรมนิมิตที่เราถนัด ที่เราชอบจะเป็นดวง จะเป็นองค์พระ หรือพระเดชพระคุณหลวงปู่ก็ได้ อยู่ในกลางกายอย่างง่ายๆ นึกได้แค่ไหน ก็เอาแค่นั้นไปก่อน
อย่าไปเร่งอย่างผิดวิธี คือ พยายามไปบีบ ไปเค้น ไปเน้นอย่างนั้นไม่ใช่นะ มีให้ดูแค่ไหน นึกได้แค่ไหนเราก็เอาแค่นั้นไปก่อน นึกได้รัวๆ รางๆ ก็รัวๆ รางๆ ไปก่อน ชัดขึ้นมา ๕ เปอร์เซ็นต์ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ก็รักษาใจอย่างนั้นไปเรื่อยๆ ถ้าเราถนัดอย่างนี้ก็นึกอย่างนี้นะ
ถ้าภาพมันเกิดขึ้นมาเอง จะเป็นดวง เป็นกาย เป็นองค์พระ
เป็นพระเดชพระคุณหลวงปู่ หรือภาพอะไรก็ตาม มีให้ดูแค่ไหน ดูแค่นั้นไปก่อน ตามใจท่านไปก่อน เดี๋ยวท่านก็จะตามใจเราบ้าง
เช่น เราเห็นองค์พระ ๕ เปอร์เซ็นต์ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เราก็ดูไปเรื่อยๆ แค่นั้น ตามใจท่าน ท่านให้ดูแค่ ๕ เปอร์เซ็นต์ เราก็ดู ๕ เปอร์เซ็นต์ ท่านให้เห็น ๑๐ เปอร์เซ็นต์ เราก็ดู ๑๐ เปอร์เซ็นต์
๒๐, ๓๐, ๔๐, ๕๐ เราก็ดูไปเรื่อยๆ ตามใจท่าน
พอเราทำอย่างนี้บ่อยๆ ซ้ำๆ เดี๋ยวท่านก็จะตามใจเรา
คือความปรารถนาของเราอยากเห็นท่านชัดใสแจ่ม ท่านก็จะชัดใสแจ่มให้ เมื่อใจเราพร้อมอย่างนี้นะ ต้องทำให้ถูกใจท่าน เดี๋ยวท่านก็จะทำให้ถูกใจเรา เพราะฉะนั้นมีให้ดูแค่ไหนก็ดูแค่นั้น ไปก่อนอย่างสบายๆ
ต้องสบายนะลูกนะ ต้องสบาย มีความมืดให้ดูก็ต้องดูความมืดไปอย่างสบายๆ ใหม่ๆ ก็อาจจะมืดมาก ต่อมาก็มืดม่วงขึ้นมา ลดลง แล้วก็ค่อยๆ มืดน้อยลง กระทั่งสลัวๆ อย่างนี้ ก็มีนะ เราก็ดูไปเรื่อยๆ มืดมาเราก็ดูไป
พอใจนิ่งนุ่มเบาสบายถูกส่วน ความสว่างก็จะมาแทนที่ มีให้ดูแค่แสงสว่างเหมือนฟ้าสางๆ เหมือนตอนรุ่งอรุณ เราก็ดูไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็จะแจ้งขึ้น สว่างขึ้นไปเรื่อยๆ ต้องทำให้ง่ายๆ อย่างนี้ ถ้าเราทำได้วันนี้เราก็เข้าถึงวันนี้ ถ้าเราทำอย่างถูกหลักวิชชา ฝึกให้หนักอย่างถูกหลักวิชชา ทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน เดี๋ยวก็สมปรารถนา
ถ้าใครชอบภาวนา สัมมาอะระหัง ไปด้วย เราก็ภาวนาไป ชอบอย่างไหนเอาอย่างนั้น ที่ทำให้เราสบายกายสบายใจนะอย่างนี้ให้ต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ กันไปนะ
วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2565