เหตุการณ์วันตรัสรู้
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ( ๐๙.๐๐ - ๑๑.๐๐ น)
สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปให้ตั้งใจให้แน่แน่ว มุ่งตรงต่อหนทางของพระนิพพานกันทุกๆ คนนะลูกนะ
ให้นั่งขัดสมาธิโดยเอาขาขวาทับขาซ้าย
มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบายๆ
หลับตาของเราเบาๆ
หลับตาค่อนลูก อย่าถึงกับปิดสนิท พอสบายๆ คล้ายๆ กับตอนที่เราใกล้จะหลับ อย่าไปบีบเปลือกตา
อย่ากดลูกนัยน์ตา
แล้วก็ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดี
ให้มีความรู้สึกว่านั่งสบายๆ จะได้ไม่ปวด ไม่เมื่อย แล้วก็ทำใจของเราให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น
ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ไร้กังวลในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ
หรือเรื่องอะไรก็ตาม
ปรับใจ
ให้ปลด
ให้ปล่อย ให้วาง ทำใจของเราให้ว่างๆ ให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น
แล้วก็สมมติว่า
ภายในร่างกายของเรานั้นปราศจากอวัยวะ ไม่มีปอด ตับ ม้าม ไต หัวใจ เป็นต้น ไม่มีอวัยวะภายใน
เป็นที่โล่งๆ ว่างๆ เป็นปล่อง เป็นช่อง เป็นโพรง กลวงเหมือนลูกโป่งที่เราอัดลมเข้าไป
กลวงภายในคล้ายๆ ท่อแก้ว ท่อเพชรใสๆ
วางใจ
แล้วเราก็น้อมใจของเรานั้นมาหยุดนิ่งๆ
ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ โดยสมมติว่า เราหยิบเส้นด้ายขึ้นมา ๒ เส้น เรานำมาขึงให้ตึงจากสะดือทะลุไปด้านหลังเส้นหนึ่ง
จากด้านขวาทะลุไปด้านซ้ายอีกเส้นหนึ่ง ให้เส้นด้ายทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดของเส้นด้ายทั้งสองจะเล็กเท่ากับปลายเข็ม
เหนือจุดตัดนี้ขึ้นมา ๒ นิ้วมือ ซึ่งอยู่ประมาณกลางท้องของเรา ตรงนี้เรียกว่า ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ฐานที่ ๗ ที่เกิด ที่ดับ ที่หลับ
ที่ตื่น
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นที่เกิด ที่หลับ และก็ที่ตื่น
เวลา
มาเกิด กายละเอียดเราจะเข้าปากช่องจมูกของบิดา
และไปตามฐานต่างๆ แล้วก็ไปตั้งมั่นอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของบิดา พอถูกส่วนก็ดึงดูดให้ไปหามารดาเพื่อประกอบธาตุธรรมส่วนหยาบ
แล้วก็เคลื่อนจากบิดาจากฐานที่ ๗ ไปออกทางปากช่องจมูก เข้าไปสู่มารดา แล้วก็ไปตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ของมารดา ธาตุหยาบก็ห่อหุ้มแล้วก็หล่อเลี้ยงด้วยธาตุของมารดา เรียกว่า เรามาเกิด
เวลา
ไปเกิดใหม่ หรือตาย ก็จะต้องเริ่มต้นที่ฐานที่
๗ ตรงนี้ แล้วก็เคลื่อนย้ายไปฐานต่างๆ ตาม
ฐานที่
๖ ที่ระดับสะดือ
ฐานที่
๕ ที่ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือก
ฐานที่
๔ ที่เพดานปากที่อาหารสำลัก
ฐานที่
๓ ที่กลางกั๊กของศีรษะในระดับเดียวกับหัวตาของเรา
ฐานที่
๒ ที่หัวตา
ฐานที่
๑ ก็ออกทางปากช่องจมูก ไปแสวงหาที่เกิดใหม่
ไม่ว่าจะตายแบบไหนก็ตาม
ก็จะต้องเป็นอย่างนี้ นี่ก็เป็นที่ดับ
เป็นที่หลับ หลับก็ตรงนี้ ใจจะมาอยู่ตรงนี้
ที่ตื่น ก็ตื่นตรงนี้
เกิด ดับ หลับ ตื่นอยู่ที่ฐานที่ ๗ นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่จะไปสู่อายตนนิพพาน
ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านเริ่มต้นอยู่ที่ตรงนี้ คือ เอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้
ถ้าจะต้องไปเกิด
มาเกิด ก็ต้องเดินออกไปจากฐานที่ ๗, ๖, ๕, ๔, ๓, ๒, ๑ แต่ถ้าจะไม่ไปเกิดแบบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทั้งหลาย ก็จะต้องเดินในเข้าไป คำว่า เดินในเข้าไป ก็คือ ใจจะต้องมาหยุดนิ่งอยู่ที่ฐานที่
๗ ใจที่แวบไปแวบมาจะต้องมาหยุดนิ่งๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หยุดนิ่งอยู่ตรงนี้
ดวงปฐมมรรค
พอถูกส่วนก็จะตกศูนย์ไปที่ฐานที่
๖ แล้วก็จะไปยกดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบลอยขึ้นมาเป็นดวงใสๆ
โตเท่ากับฟองไข่แดงของไก่ ใสบริสุทธิ์ ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
พระผู้ปราบมาร ท่านเรียกว่า ดวงธัมมานุสปัสนาสติปัฏฐาน
หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
ดวงปฐมมรรค แปลว่า หนทางเบื้องต้น หรือจุดเริ่มต้นที่จะไปสู่อายตนนิพพาน
ไปสู่ความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย ในเส้นทางของพระอริยเจ้า ที่เรียกว่า
อริยมรรค
เป็นเส้นทางสายกลางภายใน
ที่นอกเหนือจากเส้นทางสายกลางภายนอก จะเป็นดวงใสๆ อย่างนี้ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้วกายสิทธิ์
แต่ว่าใสเกินใส อย่างน้อยก็ใสเหมือนน้ำใสๆ เหมือนกระจกใสๆ บ้าง
กระจกคันฉ่องที่ส่องเงาหน้า ใสเหมือนเพชรบ้าง ใสเกินใสใดๆ ทั้งสิ้นที่มีอยู่ในโลกนี้บ้าง
แล้วแต่ความละเอียด
ขนาดของปฐมมรรคหรือธัมมานุสปัสนาสติปัฏฐาน
อย่างเล็กเหมือนดวงดาวในอากาศ อย่างกลางเหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่เหมือนพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน
หรือใหญ่กว่านั้นตามกำลังบารมีจะใสบริสุทธิ์ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่จะไปสู่อายตนนิพพาน
ถ้าปฏิบัติธรรม คือ เจริญสมาธิภาวนา ยังเข้าถึงดวงปฐมมรรคนี้ไม่ได้ก็ไปนิพพานไม่ถูก
แต่ถ้าปฏิบัติธรรมเจริญสมาธิภาวนาจะด้วยวิธีการใดก็ตาม เมื่อใจหยุดนิ่งถูกส่วนแล้ว
ก็จะต้องเข้าถึงดวงปฐมมรรคดังกล่าวนี้ จึงจะไปสู่อายตนนิพพานนี้ได้
เพราะได้เข้าถึงจุดเริ่มต้น คือ ดวงปฐมมรรค ซึ่งจะเป็นดวงใสๆ อยู่ภายในตรงนี้
จะใสบริสุทธิ์ ที่มาพร้อมกับความสุขที่แท้จริง ความสุขที่ยิ่งใหญ่ ไม่มีขอบเขต
ไม่มีประมาณ มาพร้อมกับความบริสุทธิ์ สงัดจากกามและอกุศลธรรมทั้งปวง จิตจะตั้งมั่น
นิ่ง แน่น มีความสุขมาก
เพราะฉะนั้น ใจจะต้องมาตั้งอยู่ตรงนี้เพื่อให้เข้าถึงดวงปฐมมรรค ถ้าเราจะต้องการไม่ให้เกิดอีกต้องทำอย่างนี้
จะไปสวดอ้อนวอนใครก็แล้วแต่เพื่อไม่ให้เกิดนั้นมันเป็นไปไม่ได้ จะไม่เกิดมีเพียงประการเดียว
เมื่อเราเบื่อหน่ายความทุกข์ของชีวิต ก็คือต้องช่วยตัวเราเองด้วยการทำใจหยุดนิ่งดังกล่าว
ใครก็ทำแทนกันไม่ได้
เมื่อได้เข้าถึงดวงปฐมมรรคอย่างนี้แล้วล่ะก็
มั่นใจแน่ว่า เราจะไปสู่อายตนนิพพานได้ เหมือนพระบรมศาสดาที่ได้ตรัสรู้ธรรม ท่านก็เริ่มต้นอย่างนี้
ใจหยุดนิ่งอยู่ที่ดวงใสๆ ที่ใต้ต้นโพธิ์ ควงไม้พระศรีมหาโพธิ์ ไม่ต้องผ่านขั้นตอนของการเรียนรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ
ที่มีอยู่ในยุคนั้น
แม้ว่าจะบำเพ็ญทุกรกิริยาก็ดี
หรือประกอบตนให้พัวพันไปด้วยกามสุขก็ดี ก็ผ่านมาทั้งหมด
ผ่านมากระทั่งการเจริญสมาธิได้สมาบัติ ๘ แต่ก็เป็นรูปฌานกับอรูปฌานของฤๅษีภายนอก ยังไม่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์จึงทิ้งทุกอย่างหมด
แล้วก็มาเริ่มหยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้ โดยระลึกนึกถึงย้อนหลัง เมื่อพระองค์อายุได้ ๗
ชันษา ใต้ต้นหว้าในวันแรกนาขวัญได้ทำใจหยุดนิ่ง แล้วก็เข้าถึงดวงปฐมมรรค
ความสุขอันยิ่งใหญ่นั้นพระองค์ไม่มีวันลืมเลือนเลย
เพราะฉะนั้นก็นึกย้อนหลังว่า น่าจะเป็นหนทางที่ถูกต้อง เพราะจิตบริสุทธิ์ตั้งมั่น ไม่ง่อนแง่น
ไม่คลอนแคลนเลย แล้วในที่สุดก็หยุดในหยุดต่อไป หยุดนิ่งไปเรื่อยๆ
ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือไปจากนี้ แล้วก็ปล่อยชีวิต แล้วด้วย ว่าเนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไปเหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน
ถ้าไม่พ้นทุกข์ก็จะไม่ลุกจากที่
ดวงธรรมภายใน
แล้วก็หยุดนิ่งเรื่อยไป
หยุดนิ่งตามลำดับ ใจก็เคลื่อนเข้าไปสู่ภายในดวงปฐมมรรค ก็ไปเห็นผังของชีวิตซึ่งมีมาอยู่ดั้งเดิม
เป็นของมันอย่างนั้นมาดั้งเดิมแต่ไม่รู้ว่ามี แล้วก็หยุดนิ่งไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้
หยุดในกลางดวงปฐมมรรค
ก็เข้าถึง ดวงศีล
หยุดในกลางดวงศีล
ก็เข้าถึง ดวงสมาธิ
หยุดในกลางดวงสมาธิ
ก็เข้าถึง ดวงปัญญา
หยุดอยู่ในกลางดวงปัญญา
ก็เข้าถึง ดวงวิมุตติ
หยุดอยู่ในกลางดวงวิมุตติ
ก็เข้าถึง ดวงวิมุตติญาณทัสสนะ
คือ
ดวงธรรมต่างๆ ที่มีลักษณะกลมรอบตัวเหมือนกัน จะผุดผ่านเกิดขึ้นมาตรงกลาง ของดวงเดิม
เหมือนจุดศูนย์กลางของดวงขยายออกมาเป็นดวงซ้อนๆ กัน เป็นดวงธรรมต่างๆ ซ้อนกันอยู่ภายใน
เป็นเครื่องกลั่นกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ ให้หลุดพ้นจากภาวะหยาบ กิเลสหยาบ ให้ไปถึงกายที่ละเอียดขึ้นไปเรื่อยๆ
กายในกาย
ธรรมทั้งหมด
๑ ชุด มี ๖ ดวงนี้ จะเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างกายต่อกาย ซึ่งมีทั้งหมด ๑๘ กาย ซ้อนกันอยู่ภายใน
เรียกว่า กายในกาย ให้ตามเห็นกายในกายเข้าไปเรื่อยๆ
กายแรกคือ
กายมนุษย์หยาบ กายที่ ๒ คือ กายมนุษย์ละเอียด หน้าตาเหมือนตัวเรา ท่านหญิงก็เหมือนกับท่านหญิง
ท่านชายก็เหมือนกับท่านชาย บางทีก็เรียกว่า กายฝัน
บางทีก็เรียกว่า กายไปเกิดมาเกิด เพราะหน้าเหมือนตัวเรา
เป็นแต่เพียงอยู่ในวัยเจริญกว่า สดใส จะนั่งขัดสมาธิ ทำสมาธิอยู่ภายใน
ในกลางกายมนุษย์ละเอียดก็จะมี
กายทิพย์ ซ้อนอยู่
เป็นกายที่โตขึ้นไปเรื่อยๆ กายทิพย์ ก็จะมีเครื่องประดับ มีทั้งกายทิพย์หยาบ
กายทิพย์ละเอียด
กายรูปพรหมหยาบ กายรูปพรหมละเอียด ซ้อนอยู่ในกายทิพย์ก็มีเครื่องประดับที่ประณีตติดตัวละเอียดขึ้นไปเรื่อยๆ
กายอรูปพรหมหยาบ-ละเอียด ก็ซ้อนอยู่ใน กายรูปพรหมหยาบ-ละเอียด มีเครื่องประดับที่ประณีตและสวยงามมาก
ในกลางกายอรูปพรหมหยาบ-ละเอียด
ก็จะเข้าถึงพระธรรมกายของ กายธรรมโคตรภู
หน้าตักหย่อนกว่า ๕ วา นิดหน่อย เป็นกายที่สวยงามกว่ากายอรูปพรหม สวยงามกว่ากายพรหม
หรือกายทิพย์ มนุษย์ต่างๆ เพราะประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ เกตุดอกบัวตูม
เหมือนดอกบัวสัตตบงกช ไม่ใหญ่ไม่เล็กตั้งอยู่บนจอมกระหม่อม บนพระเศียรของท่าน ที่มีเส้นพระศก
เส้นผมขดเวียนเป็นทักษิณาวรรต ตามเข็มนาฬิกาเรียงรายการเป็นระเบียบ บนพระวารกายที่ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษ
กายธรรมโคตรภู
เป็นกายผู้รู้ ผู้เห็น ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว มีธรรมจักษุ มีญาณทัสนะ เห็นได้รอบตัวทุกทิศทุกทางในเวลาเดียวกัน
แล้วก็รู้ได้รอบตัวด้วยญาณทัสสนะ
ในกลางกายธรรมโคตรภูก็จะมี
กายธรรมพระโสดาบัน หน้าตัก ๕ วา สูง ๕
วา ลักษณะเหมือนกัน ต่างแต่ขนาดและความใสที่บริสุทธิ์ เพราะหลุดพ้นจากกิเลสเพิ่มขึ้น
กายก็ขยายใหญ่ขึ้น ๕ วา สูง ๕ วา
กลางกายธรรมพระโสดาบัน
ก็จะมี กายธรรมพระสกิทาคามี หน้าตัก ๑๐
วา สูง ๑๐ วา รูปร่างเหมือนกัน ต่างแต่ขนาด และความบริสุทธิ์ที่เพิ่มขึ้น
เพราะละกิเลสได้มากขึ้น
ในกลางกายธรรมพระสกิทาคามีหรือพระสกทาคามีก็จะมี
กายธรรมพระอนาคามี หน้าตัก ๑๕ วา สูง ๑๕
วา หน้าตาเหมือนกัน ลักษณะเหมือนกัน ต่างแต่ขนาดและความใส ที่ละกิเลสได้เพิ่มขึ้น
ในกลางกายธรรมพระอนาคามีก็จะมี
กายธรรมพระอรหัต หน้าตัก ๒๐ วา สูง ๒๐
วา ทั้งหยาบละเอียด หน้าตาลักษณะเหมือนกันกับกายธรรมต่างๆ แต่ต่างกันขนาดและความใสบริสุทธิ์
เพราะหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ
กายธรรมอรหัตผล
หน้าตัก ๒๐ วา สูง ๒๐ วา คือ เป้าหมายของชีวิต กายทั้งหมดจะซ้อนกันอยู่ภายใน มีอยู่ในมนุษย์ทุกคนในโลก
ในสรรพสัตว์ทั้งปวงในเทวดา พรหม อรูปพรหมมีหมด แต่ว่าไม่รู้ว่ามี
เพราะฉะนั้น
มีมนุษย์ที่ไหนก็มีพระธรรมกายที่นั่น พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดของตัวเราหรือชาวโลกของสรรพสัตว์ทั้งหลาย
พระพุทธศาสนาเริ่มต้นที่ธรรมกาย
พระพุทธศาสนาเริ่มต้นที่กายธรรม
ตั้งแต่กายธรรมโคตรภูขึ้นไป ถ้าเข้าถึง เรียกว่าเข้าถึง ไตรสรณคมน์ ที่เราได้ยินได้ฟังบ่อยๆ ว่า บรรลุธรรมาพิสมัย ได้เข้าถึงไตรสรณคมน์เท่านั้นเท่านี้
คนเป็นพระอริยบุคคล หมายถึง การเข้าถึงพระธรรมกายที่มีอยู่ในตัวของเรา
แล้วก็ละกิเลสสังโยชน์ได้ไปตามลำดับ
เหตุการณ์วันตรัสรู้
พุทธศาสนาเริ่มจากกายธรรม
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านก็ได้เข้าถึงอย่างนี้ไปตามลำดับ เข้าถึงกายธรรมในวันวิสาขบูชา
ตั้งแต่ปฐมยาม
ได้เข้าถึงกายธรรมพระโสดาบัน
ยามสอง
ยามสาม วิชชาเกิดขึ้น
ยามสุดท้าย
เข้าไปถึงกายธรรมอรหัต หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เพราะท่านเห็นด้วยธรรมจักษุของพระธรรมกาย
และญาณทัสนะ เห็นการถอดเป็นชั้นๆ กระทั่งถึงกายธรรมอรหัตผลก็ได้ดับขันธ์ทั้งหลายได้หมด
ขันธ์ที่มีกิเลสห่อหุ้มหลุดหมด เหลือเพียงกายธรรมอรหัตผลกับกายมนุษย์หยาบเท่านั้น นอกนั้นดับไปหมด
เมื่อทรงพิจารณา ปฏิจจสมุปบาท ด้วยกายธรรมอรหัตผล
ก็หลุดพ้นไปทั้งหมดเลย
เมื่อใครถามว่า
ท่านเป็นมนุษย์รึ เทวดารึ อมนุษย์รึ ท่านบอก ไม่ใช่ ตถาคต คือ ธรรมกาย เพราะหลุดหมด
ดับไปหมดแล้วในทุกกาย ดับเพราะกิเลสหมดในแต่ละกาย จึงสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษกันไปเลย
หมายถึงขันธ์เหล่านั้นไม่สามารถจะดึงดูดให้พระองค์มาบังเกิดขึ้นได้อีก มันดับไปหมดแล้ว
รอคอยแต่วันเวลาที่จะเข้าสู่อายตนนิพพาน เมื่อดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบนั้นดับตามไปแล้วก็หมดเวลาของอายุสังขาร
เมื่อพญามารเอาโรคภัยไข้เจ็บมาถล่มทลายแล้วก็มาถอดกายหยาบ เพราะฉะนั้นข้างในท่านจะเกลี้ยง
จะมีอยู่แค่ ๒ กายเท่านั้น คือ กายธรรมอรหัตผล กับกายมนุษย์หยาบที่ประกอบไปด้วยลักษณะมหาบุรุษ
แล้วเมื่อถึงสัปดาห์ที่
๕ ใต้ต้นอัชชปาลนิโครธ ท่านทบทวน ปฏิจจสมุปบาท
ทบทวนธรรม ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ บรรลุกลับไปกลับมาจึงได้บรรลุเข้าไปถึงกายธรรมอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ฉัพพรรณรังสีจึงเปล่งสว่างเจิดจ้าขึ้น สว่างไสว
นี่จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ ทิพย์ พรหม อรูปพรหมทั้งหลายไม่อาจเข้าใจได้
เพราะเข้าไม่ถึง เมื่อเข้าถึงกายธรรมอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ฉัพพรรณรังสีก็เปล่ง
เมื่อทบทวนความรู้ที่ท่านได้รู้ ได้เห็นในวันตรัสรู้ ท่านได้เข้าถึงกายธรรมอรหัตผล
วันวิสาขบูชา
วันนี้เป็นวันวิสาขบูชา
วันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นวันสำคัญที่เราชาวพุทธจะต้องมาระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ตั้งแต่ท่านประสูติอย่างไร ตรัสรู้อย่างไร ดับขันธปรินิพพานอย่างไร
ด้วยการฝึกใจของเราให้มาหยุดมานิ่งอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ อย่าส่งใจไปที่อื่น ให้ทำความเพียรกันไประลึกทบทวนเรื่องราวของพระองค์ท่าน หรือจะวางใจนิ่งๆ
หยุดไปตามที่พระองค์ได้ทำในวันนี้ เมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปี
ท่านทำอย่างไร
เราทำอย่างนั้น เรียกว่า ปฏิบัติบูชา เป็นการบูชายิ่งกว่าการบูชาใดๆ
เพราะเป็นวัตถุประสงค์ที่พระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็เพื่อปรารถนาที่จะมาสั่งสอนเราและชาวโลก
สรรพสัตว์ทั้งปวงให้หลุดพ้น เช่นเดียวกับพระองค์ไปด้วย พระองค์ทำอย่างไรเราก็จะต้องทำอย่างนั้น
เมื่อท่านเป็นอย่างไรเราก็จะเป็นอย่างนั้น
เพราะฉะนั้น
ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพานก็ที่เดียวกัน ที่ฐานที่ ๗ ตรงนี้ ประสูติภายใน ตรัสรู้
ปรินิพพาน บังเกิดขึ้นด้วยธรรมกายก็ตรงฐานที่ ๗ และดับขันธปรินิพพานก็ตรงนี้
เพราะเหลืออยู่ ๒ กายเท่านั้น กายมนุษย์หยาบกับกายอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ไปถึงคราวจะเข้าอนุปาทิเสสนิพพาน ท่านก็เข้าสมาบัติหยุดในหยุดไปเรื่อยๆ
นิ่งเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถูกส่วนก็ตกศูนย์ดับขันธ์ของกายมนุษย์หยาบ
ดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์หยาบมันดับ ก็เข้าสู่อายตนนิพพาน อนุปาทิเสสนิพพาน มีพระธรรมกายไปปรากฏอยู่ตรงนั้น
สว่างไสว
วันนี้เราก็จะต้องตั้งใจฝึกให้หยุดให้นิ่ง
ให้เข้าถึงธรรมเช่นเดียวกับพระองค์ เวลาที่เหลืออยู่นี้ให้ลูกทุกคนประคองใจให้หยุดให้นิ่ง
เราจะนึกถึงดวงธรรมใสๆ หรือพระแก้วใสๆ แทนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้ นึกอยู่ในกลางท้องของเรา
พร้อมกับประคองใจด้วยบริกรรมภาวนา
สัมมาอะระหังๆๆ อย่างนี้เรื่อยไป จนกว่าใจจะหยุดจะนิ่ง แล้วจะทิ้งคำภาวนาไปเอง เราก็รักษาใจให้หยุดนิ่งอย่างนี้เรื่อยไปจนกว่าจะถึงเวลาสว่าง
ที่เราจะได้ประกอบพิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่ภิกษุสามเณร ผู้ประพฤติธรรมกันต่อไป
เช้านี้ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระธรรมกายในตัวทุกๆ คนนะลูกนะ ต่างคนต่างทำกันไปเงียบๆ
นะจ๊ะ
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2565