แสง ธรรมสว่างล้ำ แสงไหน
แสงส่องออกไปไกล ใหญ่กว้าง
แสงส่องภพภูมิใด เห็นหมด
แสงนี่แหละจักล้าง มืดพ้นมนตร์มาร
ตะวันธรรม
มหาทุคตะ
วันอาทิตย์ที่
๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘
Link ไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิใน youtube
ง่ายแต่ลึก 2 |EP.8| : มหาทุคตะ
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ทำใจให้เบิกบาน แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์
ผ่องใสแล้วก็หยุดใจไปที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา
ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ
แล้วก็ตรึกนึกถึงดวงใส
หยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ หรือตรึกนึกถึงพระแก้วใสๆ หยุดอยู่ในกลางพระแก้วใสๆ
อย่างใดอย่างหนึ่งนะ พร้อมกับประคองใจให้หยุดนิ่ง ด้วยบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหัง
อย่างสบายๆ
ทำใจให้เบิกบาน แช่มชื่น
แล้วก็อย่าไปสนใจอากาศจะอบอ้าวอย่างไร ที่นั่งจะไม่นุ่มก็อย่าไปสนใจ
เราจะต้องฝึกหยุดใจให้ได้ในทุกสภาวะอากาศ
ทุกสถานที่เพราะการหยุดใจนำมาซึ่งความบริสุทธิ์ผ่องใสของใจทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้จริง
และเป็นทางมาแห่งบุญของเราด้วยบุญที่เกิดจากการหยุดใจนี้จะไปดึงดูดทุกๆ
บุญที่เราทำผ่านมาให้มาบังเกิดขึ้นภายในตัวเรา
บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเราในทุกๆ ระดับ
มีบุญมากอุปสรรคก็น้อย มีบุญน้อยอุปสรรคก็มาก
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับบุญและบาปเท่านั้น จับหลักตรงนี้เอาไว้ให้ได้
ตอนนี้เราก็ประคองใจให้หยุดนิ่งให้เข้าถึงดวงธรรมภายในให้ได้
ถ้ายังเข้าไม่ถึง ชีวิตยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่ปลอดภัยอย่างแท้จริง
เราจะต้องมีหลักยึดของใจไว้ตลอดเวลา ภายนอกเคลื่อนไหว ภายในหยุดนิ่ง ข้างนอกแม้เคลื่อนไหวอย่างไรก็ตาม
ข้างในต้องหยุดนิ่ง กิจกรรมในโลกมนุษย์ส่วนใหญ่มักจะเคลื่อนไหว
แต่ใจเราก็อย่าให้ไหวตาม อย่างนี้ชีวิตจึงจะสมบูรณ์ความทุกข์จะได้ไม่ครอบงำใจเรา
แม้ทุกข์มากเราก็จะทุกข์น้อยกว่าคนอื่นเขา ทุกข์น้อยก็จะไม่มีทุกข์
การปฏิบัติธรรม จะต้องทำให้ได้ทุกวัน
อย่าได้ขาดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว ไม่ว่าเราจะเจ็บป่วยไข้
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าก็ตาม อย่าให้สิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติธรรม
การปฏิบัติธรรม คือ กรณียกิจ
กิจที่ควรกระทำหรือต้องทำ เป็นงานที่แท้จริงของชีวิตที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์
นอกนั้นเป็นงานรองลงมา ถ้าเรามัวแต่ทำมาหากินอย่างเดียว
แม้มีทรัพย์เป็นแสนล้านก็จะไม่ได้พบกับความสุขที่แท้จริงเลยมีแต่ความสุขหลอกๆ
ที่มีคนมาพะเน้าพะนอหรือเรามีวัตถุสนองความต้องการของใจได้บ้างแต่มันก็ไม่สมบูรณ์
การปฏิบัติธรรมนี้ แม้ทรัพย์ภายนอกจะน้อย แต่ชีวิตของเราจะเต็มเปี่ยมไม่ได้ชื่อว่าเป็นคนยากจนเลย
เหมือนขอทานคนหนึ่งในสมัยพุทธกาลเรียกว่า
มหาทุคตะ(สุปปพุทธกุฏฐิ) ท่านได้ฟังธรรมจากพระบรมศาสดา
แล้วก็ได้บรรลุธรรมเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ชีวิตก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมีความสุข
มีความเบิกบาน ที่มีพระรัตนตรัยปรากฏในกลางกาย
ความรู้สึกว่า
เราขาดแคลนหรือยากจนมันหมดไป
เหมือนเรามีทรัพย์มากมายมหาศาลกว่าเศรษฐีคนใดในเมืองหรือในโลก มันอิ่มอกอิ่มใจมาก
มีความเบิกบานมาก ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ คับแค้นใจก็หมดสิ้นจากใจ
ไม่มีความรู้สึกชนิดนั้น จนกระทั่งเรื่องนี้ไปถึงท้าวสักกเทวราช
หรือพระอินทร์ผู้ปกครองภพดาวดึงส์ เพราะอาสนะที่เคยนุ่มนวลกลับแข็งกระด้าง
ท่านก็เลยสอดส่องทิพยจักษุลงมาในเมืองมนุษย์
เมื่อทราบว่า
ต้นเหตุเกิดขึ้นเพราะมหาทุคตะได้พ้นจากภาวะความรู้สึกว่ายากจน
แม้ขาดแคลนโลกียทรัพย์ แต่กลับมีความรู้สึกว่าร่ำรวยและรู้สึกว่ายิ่งใหญ่ เบิกบาน
ก็อยากจะไปทดสอบดู ถึงกับต้องลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทั้งๆ ที่ไม่อยากจะลงมา
เพราะในเมืองมนุษย์เป็นสถานที่ที่ไม่เป็นที่บันเทิงของชาวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
เพราะกลิ่นกายของมนุษย์มันเหม็นเหมือนเอาสุนัขเน่ามาผูกคอ
แต่ก็สามารถดึงดูดให้พระอินทร์ผู้ปกครองเทวดาทั้งหลายลงมาเพื่อทดสอบดู
มาเห็นหน้าตามหาทุคตะดูเบิกบาน
ดูไม่ออกเลยว่าเป็นขอทาน หรือเป็นคนยากจนที่สุดในเมือง แต่ก็อยากจะทดลองดูว่า
โดยปกติขอทานทั่วไปจะปรารถนาทรัพย์ ถ้าให้ทรัพย์แค่ปริมาณมากกว่าที่ขอทานเคยได้รับ
ก็จะสร้างความเบิกบานใจแก่ขอทานเป็นอย่างยิ่ง
แต่วันนี้จะทดลองให้ทรัพย์มากกว่านั้นจึงได้กล่าวกับมหาทุคตะผู้ได้บรรลุพระธรรมกายภายในเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวว่า “ขอเพียงท่านมหาทุคตะกล่าวว่า พระรัตนตรัยไม่มีจริงและก็ไม่ดีจริง
อยากจะได้ทรัพย์อะไร เราจะหามาให้”
มหาทุคตะถามกลับไปว่า “ท่านเป็นใคร
ทำไมถึงมาพูดอย่างนี้กับเราผู้เข้าถึงพระรัตนตรัย
ใจเราไม่ได้ง่อนแง่นคลอนแคลนในพระรัตนตรัยเลย
เพราะเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระรัตนตรัย เราหายสงสัยแล้วในการที่ว่า
พระรัตนตรัยมีจริงหรือ ดีจริงไหม เพราะเราเป็นตัวพระรัตนตรัยเอง รู้ว่ามีจริง
แล้วก็ดีจริงๆ”
พระอินทร์เห็นว่าหลบไม่พ้น จึงบอกว่า “เราคือท้าวสักกเทวราช”
มหาทุคตะกล่าวว่า “ท่านก็เป็นถึงพระราชาแห่งเทวดา ก็รู้อยู่ ทำไมมาถามอย่างนี้ ให้ออกไปไกลๆ”
ในที่สุดพระอินทร์ก็เสด็จกลับดาวดึงส์ไปด้วยความปลื้มปีติ
เพราะว่าได้รับคำตอบจากผู้ที่เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ยืนยันอย่างองอาจ
มีปีติและก็เบิกบาน
ความพร้อมไม่มีในโลก
การเข้าถึงพระรัตนตรัยนี้เป็นกรณียกิจ
เป็นงานที่แท้จริงของเราที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เมื่อชีวิตเราจำเป็นจะต้องดำรงอยู่ด้วยปัจจัย
๔ ซึ่งจะต้องได้มาจากการทำมาหากิน เราก็อย่ามัวไปทำมาหากินอย่างเดียว
ควรทำทั้งสองภารกิจกับจิตใจให้ควบคู่กันไป ชีวิตจึงจะสมบูรณ์
ถ้าหากเราจะรอคอยให้ชีวิตมีความพร้อมจะต้องรวยก่อน
ต้องว่างก่อน ต้องปลดกังวลเสียก่อนแล้วค่อยทำ บางทีความตายก็มาพรากเราไปเสียก่อน
เราไม่มีโอกาสจะอยู่ถึงวันที่เราพร้อม แล้วความพร้อมอย่างนั้นมันเป็นความฟุ้งฝัน
บางคนก็ได้มาจริง บางคนก็ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ได้อย่างที่ตัวหวังเอาไว้
เพราะฉะนั้นเราจะต้องพร้อมเสมอในการที่จะทำสองอย่างควบคู่กันไป
วันใดที่เราได้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว
วันนั้นจะเป็นวันมหาปีติ จะมีความสุขที่ยิ่งใหญ่
และการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราไปสู่ภาวะของผู้รู้ บัณฑิต นักปราชญ์
ที่จะดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง เป็นแสงสว่างให้กับทุกๆ คนที่เข้าใกล้
ดังนั้นให้ลูกทุกคนตั้งใจปฏิบัติธรรมทุกวันเลย
อย่าไปคำนึงถึงเรื่องดิน อากาศ ฟ้า ความพร้อม
ความปลอดกังวลจากเครื่องพันธนาการของชีวิต หรือจะไปคอยตอนแก่อะไรอย่างนี้
การทำสมาธิตอนแก่มันสู้ทำตอนมีเรี่ยวมีแรงไม่ได้
เพราะมนุษย์มีข้อจำกัด ตอนเราสูงอายุ
เรามีความพร้อมเรื่องทรัพย์เป็นอิสระทางการเงิน แต่ว่าไม่เป็นอิสระจากโรคภัยไข้เจ็บ
และความอ่อนแอของร่างกาย เพราะสังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
การปฏิบัติธรรมก็ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายด้วยถ้าร่างกายไม่มีความพร้อมจะปฏิบัติธรรมให้ดีเยี่ยมนั้น
ไม่ใช่ง่าย
จะมีผู้เฒ่าบางท่านเท่านั้นที่สมหวังจากการปฏิบัติธรรมในบั้นปลายของชีวิต
แต่ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ประสบความสำเร็จเพราะข้อจำกัดของมนุษย์ ที่สังขารมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
ดีที่สุดก็คือในวัยที่เรายังแข็งแรงอยู่
แม้จะยังไม่เป็นอิสระทางการเงิน หรือความปรารถนาของเราก็ตาม
แต่ความแข็งแรงนี้เป็นลาภอันประเสริฐสำหรับชีวิตของผู้รู้
เมื่อทราบว่าเกิดมาเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ก็จะอาศัยความแข็งแรงประกอบกรณียกิจกิจที่เป็นงานที่แท้จริงของชีวิตในทุกๆ
ภพชาติที่เกิดมาเป็นมนุษย์คือการปฏิบัติธรรม ฝึกใจของเราให้หยุดนิ่ง
เราไม่ได้แล้วใครจะได้
ลูกทุกคนเป็นผู้มีบุญ
ได้มาถึงจุดที่เรามีความพร้อมที่จะปฏิบัติธรรม
เรามีบุญ
ที่รู้ว่าพระรัตนตรัยมีอยู่ในตัวของเราจริงๆ เป็นของดีจริง เราสามารถเข้าถึงได้ด้วยความเพียร
และการทำถูกหลักวิชชา
ลูกมีบุญ
ที่รู้ว่าเราจะเริ่มต้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
เพื่อที่จะเข้าไปถึงพระรัตนตรัยในตัว
มีบุญที่รู้โนฮาว (know-how) หยุดเป็นตัวสำเร็จ ความรู้วิธีการว่า
ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว
มีบุญทุกอย่าง
แม้ติดขัดปัญหาอะไรก็ยังมีครูบาอาจารย์คอยเป็นกัลยาณมิตรให้
คอยตอบคำถามที่เป็นข้อสงสัยในการปฏิบัติธรรมของเรา
ในยามที่เราท้อใจที่ปฏิบัติธรรมไม่ได้ผลทันตาเห็น
ก็ยังมีกัลยาณมิตรคอยปลุกประโลมใจ ให้กำลังใจที่จะให้เรามีความเพียรในการปฏิบัติต่อ
เรามีเพื่อนสหธรรมิกเป็นจำนวนมาก
ที่มีใจแน่วแน่อยากจะเข้าถึงธรรมะในตัว
มีหลายท่านที่มีประสบการณ์ภายในเป็นเครื่องยืนยันว่า
พระรัตนตรัยนั้นมีอยู่ภายในตัวของมนุษย์จริงๆซึ่งเพื่อนสหธรรมิกหรือพี่น้องวงธรรมะของเรานี่แหละ
ก็จะเป็นกำลังใจให้กับเรา
เพราะฉะนั้น ลูกทุกคน จะพูดไม่ได้
หรือไม่ควรแม้แต่จะคิดว่า เรามีบุญน้อย มีวาสนาน้อย
คงจะปฏิบัติเข้าถึงได้ยากเราไม่ควรจะคิดอย่างนี้เลย
ถ้าบุญน้อยเราจะไม่ได้ยินได้ฟังหรือมาอยู่ในหมู่คณะที่เขาปฏิบัติธรรมจนมีประสบการณ์ภายในเป็นเครื่องยืนยันว่าสิ่งดีๆ
นี้มีอยู่จริงๆ ในตัวของเรา
แล้วพี่น้องวงธรรมะของเรานั้นไม่ใช่ว่ามาจากครอบครัวของชาวพุทธอย่างเดียว
ที่มาจากครอบครัวที่ไม่ใช่ชาวพุทธก็มี ที่เป็นกลางๆ ไม่มีศาสนาก็มี
แล้วก็ลงมือปฏิบัติอย่างที่ลูกทุกคนปฏิบัตินี่แหละ แล้วก็เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว
ความเชื่อแม้แตกต่างกันภายนอก
จากการได้ยิน ได้ฟังได้รับการอบรมสั่งสอนมา
ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว เพราะสัจธรรมก็คือสัจธรรม
ความจริงก็คือความจริง ความเชื่อก็คือความเชื่อ
นี่ก็เป็นเครื่องยืนยันว่า
ลูกทุกคนมีบุญเพียงพอที่จะเข้าถึงถ้ามีความเพียรและทำให้ถูกหลักวิชชา ให้มีสติ
สบาย สม่ำเสมอหมั่นสังเกต
แล้วก็สมัครใจที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวให้ได้มีเพียงอย่างนี้แค่นี้เท่านั้น
ลูกทุกคนก็จะต้องสมหวังกันอย่างแน่นอน
เลิกคิดได้แล้วว่า เรามีบุญน้อยวาสนาน้อย หรือว่ามรรคผลนิพพาน หรือการบรรลุธรรมาภิสมัยนั้นมันหมดสมัยไปแล้ว
นั่นมันคำกล่าวของคนเกียจคร้านที่ไม่มีความเพียร
หรือผู้ที่อยู่ในวงเหล้าขี้เมาต่างๆ หรือผู้ที่เพลิดเพลินในโลก ไม่มีความรู้จริง
ก็พูดคุยกันไปอย่างนั้นแต่ธรรมาภิสมัย หรือมรรคผลนิพพาน หรือพระรัตนตรัยในตัว
ไม่ได้เป็นอย่างนั้น สิ่งนี้ยังมีอยู่รอคอยการเข้าถึงเท่านั้น
เพราะฉะนั้นความเพียรและการปฏิบัติอย่างถูกหลักวิชชาจึงจะทำให้สมปรารถนาได้
ถ้าลูกหยุดใจได้
จนกระทั่งเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว จนหายสงสัยแล้วว่า มีจริงและดีจริง อย่างนี้จะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในโลก
จะอยู่ในป่า ป่านั้นก็ร่มรื่น จะอยู่ในภูเขา
ภูเขานั้นก็ร่มรื่นจะอยู่ในถ้ำถ้ำนั้นก็ร่มรื่นถ้าถูกเขาไปปล่อยที่เกาะเกาะนั้นก็ร่มรื่น
อยู่บนเรือเดินสมุทร เรือนั้นก็ร่มรื่น จะอยู่บ้านไหน บ้านนั้นก็ร่มรื่น
จะไปสู่ตระกูลอื่น ตระกูลอื่นก็รุ่งเรือง
เพราะฉะนั้น
การเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวจึงเป็นหลักของชีวิต ฝึกกันให้ได้ ทำกันให้สม่ำเสมอ
สมัครใจที่จะเข้าถึงมีสติคู่กับสบาย สม่ำเสมอ และก็หมั่นสังเกต ทำอย่างนี้
แค่นี้เท่านั้น ลูกก็จะสมปรารถนาอย่างแน่นอน สมัครใจ สติ สบายสม่ำเสมอ สังเกต ก็จะสมปรารถนา
วันอังคารที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2565