บุญอยู่เบื้องหลัง
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ มีนาคม พ.ศ.
๒๕๕๕ (๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.)
งานบุญวันอาทิตย์ ณ ห้องแก้วสารพัดนึก
ปรับกาย
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะจ๊ะ
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกาย ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย
ปรับท่านั่งของเราให้ถูกส่วน
ขยับเนื้อขยับตัวให้ดี ให้เลือดลมในตัวของเราเดินได้สะดวก จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย
ปรับใจ
ผ่อนคลาย
แล้วรวมใจกลับเข้าไปสู่ภายในอย่างง่ายๆ เบาๆ สบายๆ อย่าไปตั้งใจเกินไป ต้องสบาย
ต้องผ่อนคลาย ต้องทำใจให้ใสๆ ให้บริสุทธิ์ ให้เยือกเย็น ต้องทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง
ไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ ต้องคลายความผูกพัน
ใจจะได้รวมได้ง่าย หยุด นิ่ง นุ่มได้อย่างง่ายๆ
วางใจ
แล้วนำใจกลับไปสู่ที่ตั้งศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ในกลางท้องของเราอย่างง่ายๆ ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ
นึกถึงบุญ
สำหรับผู้มาใหม่ให้ทำใจนิ่งๆ
นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ แล้วนึกถึงบุญทุกบุญที่เราได้ทำผ่านมา ไม่ว่าบุญที่เราทำทางโลก
สงเคราะห์โลก หรือบุญในทางธรรม ที่ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นต้น นึกถึงบุญทุกๆ
บุญด้วยใจที่เบิกบาน แช่มชื่น ว่าเราได้เกิดมาในชาตินี้
เราไม่ได้ประมาทในการดำเนินชีวิต ทุกอนุวินาทีที่ว่างเว้นจากการทำมาหากิน
ทำมาค้าขาย เราก็นำมาสร้างบารมีในทุกๆ บุญ ทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา เป็นต้น
โดยเฉพาะบุญช่วงใกล้ๆ
นี้ คือ บุญตักบาตรพระในเส้นทางที่เราจะได้อัญเชิญพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองคำไปประดิษฐานที่วัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ ซึ่งผ่านมาแล้ว ๔ ครั้ง รวมทั้งวันนี้ ให้นึกถึงบุญทุกๆ
บุญดังกล่าวด้วยใจที่เบิกบาน ที่แช่มชื่น
นึกถึงบุญที่เราทำได้อย่างง่ายๆ
แล้วเราปลื้มมากที่สุดก่อน เดี๋ยวความปลื้มนี้จะไปดึงดูดบุญทุกๆ บุญที่เราทำผ่านมา
ให้มารวมเป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นดวงบุญใสๆ
กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ใสบริสุทธิ์เหมือนเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิเลย
อย่างน้อยก็ใสเหมือนน้ำใสๆ เหมือนน้ำแข็งใสๆ หรือเหมือนกระจกใสๆ สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวันหรือยิ่งกว่านั้น
อย่างน้อยก็เหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ จะใสๆ บริสุทธิ์
บุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขความสำเร็จ
ดวงบุญนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา
ตั้งแต่เราเป็นปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า บุญนี้เป็นเรื่องที่สำคัญทีเดียว
ทั้งในมนุษย์ ในเทวโลก ในปรโลก ล้วนต้องใช้บุญทั้งสิ้น
บุญถ้าใช้ไปก็มีวันหมด จึงต้องสั่งสมบุญบ่อยๆ จะมีรูปสมบัติ
ทรัพย์สมบัติ หรือคุณสมบัติ ก็ต้องอาศัยบุญ จะมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิญาณ
ก็อาศัยบุญ สู่เทวโลกก็อาศัยบุญที่เราสั่งสมเอาไว้ บุญธาตุนี้สำคัญทีเดียว
จะบรรลุมรรคผลนิพพานก็ต้องอาศัยบุญที่กลั่นจิตให้บริสุทธิ์
จนกระทั่งสว่างไสวอยู่ในกลางกาย หรือจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรมก็ต้องอาศัยบุญเช่นเดียวกัน
แต่ต้องมีปริมาณมากๆ
วันคืนที่ผ่านไปนี้
ลูกทุกคนได้ดำเนินชีวิตอย่างถูกหลักวิชชาของบัณฑิตนักปราชญ์ในทุกยุคทุกสมัย
ได้ใช้วันเวลาและทุกสิ่งเป็นไปเพื่อการสั่งสมบุญบารมี ให้นึกถึงบุญนี้
นึกอย่างเบาๆ สบายๆ เป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ให้รวมใจหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ อย่างเบาๆ สบายๆ กลางดวงบุญใสๆ ให้ใจของเราหยุดในหยุด
นิ่งในนิ่ง อย่างเบาๆ สบายๆ อย่าไปตั้งใจเกินไป ต้องค่อยๆ ประคองใจให้หยุดนิ่ง
นุ่ม เบา สบาย จะประคองใจด้วยบริกรรมภาวนาไปด้วยก็ได้ สัมมาอะระหังๆๆ
บริกรรมนิมิต
ให้ตรึกนึกถึงดวงใส
ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ อย่างเบาๆ สบายๆ ต้องเบาๆ สบายๆ ต้องผ่อนคลาย ใจเย็นๆ
อย่าไปตั้งใจเกินไป ค่อยๆ ประคองใจให้หยุด ให้นิ่งๆ นุ่มๆ
อย่าไปบีบเปลือกตา
ปรือๆ ตานิดหน่อย ในระดับกล้ามเนื้อผ่อนคลายบริเวณเปลือกตา สบายๆ ให้ใจใส นิ่งๆ
นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ
ใจจะถูกส่วนเอง
ถ้าเราทำถูกต้อง ถูกวิธี
เดี๋ยวใจจะถูกส่วนเอง เวลาถูกส่วนใจจะหลุดจากสภาวะหยาบๆ หลุดออกจากกายมนุษย์หยาบ
อาการคล้ายๆ กับร่างกายเราหายไป เหมือนไม่มีตัวตน เหมือนอยู่ในที่โล่งๆ ว่างๆ
กลางอวกาศโล่งๆ
ถ้าเรานิ่งเฉยๆ
ต่อไป ใจจะยิ่งโล่งว่างหนักเข้าไปอีก แล้วใจจะเคลื่อนเข้าไปสู่ภายใน เร็วบ้าง
ช้าบ้าง แล้วแต่บางคนละเอียดมากหรือละเอียดน้อย จะนิ่ง นุ่ม เบา สบาย
หลุดจากกายหยาบไปเลย หลุดเข้าไปสู่ภายในที่ไม่มีขอบเขต แล้วแสงสว่างจะเกิดขึ้นเองเมื่อจิตของเราบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น
จากใจที่หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ อย่างเดียว ก็จะสบายเข้าไปเรื่อยๆ
ให้นิ่งเฉยๆ
ไปเรื่อยๆ แม้บางครั้งถ้าใจเราละเอียดมากมันจะโล่งว่างเร็ว แล้วเหมือนมีแรงดึงดูดเข้าไปสู่ภายใน
อย่าตกใจนะจ๊ะ ไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น จะไม่เห็นภาพที่เราไม่อยากดู
แต่จะเห็นภาพที่เรามีความปลื้มปีติสุขหล่อเลี้ยงใจตลอดเวลา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
ให้ทำเฉยๆ
นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ต้องใจเย็นๆ ต้องสบายๆ
พอแสงสว่างเกิดขึ้นเดี๋ยวการเห็นภาพภายในอีกมิติหนึ่งจะเกิดขึ้นกับตัวของเราเอง
ซึ่งเป็นการเห็นที่แตกต่างจากที่เราเคยเห็นด้วยตามนุษย์หยาบ คือ
เห็นพร้อมกับมีความปีติสุขหล่อเลี้ยงใจอย่างไม่มีประมาณทีเดียว
ให้นิ่งๆ
นะลูกนะ นิ่งๆ เฉยๆ ต้องเบาๆ ต้องผ่อนคลาย ทำใจให้โล่งๆ ว่างๆ ตรึกนึกถึงดวงบุญใสๆ
แต่ถ้านึกแล้วอดที่จะตั้งใจมากไม่ได้ ก็อย่าไปเค้นภาพให้ชัดขึ้น ให้วางใจนิ่งเฉยๆ
แม้เห็นภาพไม่ชัดเจนอย่างที่เราต้องการก็ตาม ต้องเฉยๆ
มีให้ดูกี่เปอร์เซ็นต์ก็ดูไปอย่างนั้นไปก่อน ดูเฉยๆ ทำใจให้ soft soft นุ่มๆ นิ่งๆ เบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ใจเย็นๆ
ประคองใจอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ก่อนที่เราจะนึกน้อมเอาบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษ บุพการีผู้ที่เป็นที่รักของเรา
ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว หรือแผ่ไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย ต้องนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ
ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ
(ปฏิบัติธรรม)
นึกอุทิศบุญ
คราวนี้เราก็นึกถึงบุญทุกบุญที่เราทำผ่านมา
โดยเฉพาะบุญตักบาตรในวันนี้ นึกด้วยใจที่นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ นึกอุทิศบุญนี้ แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้แก่บรรพบุรุษ
บุพการี หมู่ญาติผู้เป็นที่รักของเรา ที่ละจากโลกนี้ไปแล้ว
นึกอุทิศบุญนี้ไปให้ท่านเหล่านั้น ที่ท่านมีทุกข์มากท่านจะได้ทุกข์น้อย
ที่มีทุกข์น้อยจะได้พ้นทุกข์ ที่มีสุขน้อยจะได้มีสุขมาก ที่มีสุขมากอยู่แล้ว จะได้มากเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ให้นึกถึงชื่อ ภาพ หน้าตา ตัวท่าน หรือนึกรวมๆ ไปอย่างนั้น
แล้วเราจะได้อาราธนามหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน
มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เป็นต้น ให้คุมบุญนี้ไปถึงท่านเหล่านั้น
ท่านจะได้อาราธนาพระนิพพานคุมบุญ ซ้อนบุญศักดิ์สิทธิ์ไปยังท่านเหล่านั้น
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565