ปีใหม่สร้างบารมีให้เข้มข้นขึ้น
วันอังคารที่ ๑ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ (๑๓.๓๐ น.)
ห้องแก้วสารพัดนึก วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย ปรับใจ
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา
ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ทำใจให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น
ให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใสไร้กังวลในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม
ให้ทิ้งทุกอย่างปล่อยวางทุกสิ่ง
การวางใจ
แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบาๆ
สบายๆ ให้ใจหยุดในหยุด นิ่งในนิ่งอย่างเบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ ค่อยๆ
ประคองใจให้หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ให้นิ่งในนิ่ง
นุ่มในนุ่มอย่างเบาๆ สบายๆ
จะตรึกนึกถึงดวงใส หยุดอยู่ในกลางดวงใส หรือจะตรึกนึกถึงองค์พระใสๆ
ก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่งที่เราคุ้นเคย แต่ต้องนึกอย่างเบาๆ สบายๆ
นึกได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นไปก่อน พร้อมกับประคองใจให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ
ว่า สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง สัมมาอะระหัง เรื่อยไปอย่างสบายๆ
ให้ใจหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ใจใสๆ ใจเย็นๆ
ประคองใจไปเรื่อยๆ ให้ใจของเราหยุดเป็นจุดเดียวกันกับศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ให้ได้ เพราะตำแหน่งนี้สำคัญจะเป็นตำแหน่งที่จะทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้จริง ความบริสุทธิ์
แล้วก็ความรู้แจ้งทั้งปวง หยุดให้นิ่งอยู่ที่ตรงนี้อย่างสบายๆ กลั่นจิตกลั่นใจของเราให้ใสๆ
ให้ใจนิ่งๆ เสียก่อน ประคองไปเรื่อยๆ
ส่วนใครที่เข้าถึงแสงสว่างได้แล้ว หรือเห็นดวงแก้วภายใน องค์พระภายใน
หรือกายภายใน เป็นต้น เราหยุดได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว ก็หยุดนิ่งเข้าไปต่อไปเรื่อยๆ
นิ่งๆ นุ่มๆ ไปอย่างสบายๆ
พอเราหลุดพ้นจากความมืดของใจได้ในระดับหนึ่งแล้ว
ความสว่างจึงปรากฏเกิดขึ้นมา ทำให้เราเห็นดวง เห็นองค์พระ เห็นกายภายใน
หรือเห็นตัวของเราเองอยู่ข้างในได้ชัดเท่าที่ความละเอียดของใจจะให้ได้ ชัดแค่ไหนก็เอาแค่นั้นไปก่อน อย่าไปเร่งรีบอย่างผิดวิธีนะจ๊ะ
ให้ดูไปเฉยๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น พอเรามาถึงจุดในระดับที่เห็น
ความเห็นได้เกิดขึ้นแล้ว เห็นแจ้งภายในในระดับเบื้องต้นได้แล้ว
รักษาตรงนี้เอาไว้ให้ดี
ขึ้นปีใหม่ต้องสร้างบารมีให้เข้มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา
วันนี้เป็นวันที่ชาวโลกเขาสมมติว่า เป็นวันขึ้นปีใหม่ เราจะต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยใจที่ใสๆ ที่บริสุทธิ์
ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกระแสธารแห่งบุญหล่อเลี้ยงใจของเรา เพื่อชีวิตของเราจะได้สดใสไปตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะหมู่คณะของเราทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วว่า เราเกิดมาสร้างบารมี มาทำพระนิพพานให้แจ้ง
และเป้าหมายเราจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
เพราะฉะนั้นเราจะต้องมุ่งมั่นตั้งใจสั่งสมบุญให้ดียิ่งขึ้นกว่าปีที่ผ่านๆ มา
และให้ยิ่งยวดกว่าชาวโลกทั้งหลาย
ปีที่ผ่านมาตลอดทั้งปีเราได้สั่งสมบุญกันมาตลอด ทั้งทาน ทั้งศีล
ทั้งภาวนา เป็นต้น ทำอย่างตลอดต่อเนื่องเรื่อยมา แต่บางท่านบางครั้งก็ยังไม่สมบูรณ์
ปีนี้ต้องให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา
นึกทบทวนบุญ
โดยเริ่มต้นในวันนี้ทบทวนว่า เราจะต้องปรับปรุงแก้ไขอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องการสร้างบารมีของเรา
ปีนี้ต้องให้เข้มข้นกว่าปีที่ผ่านมา ในระดับที่มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจกันไปทุกวันทุกคืน
เราจะเห็นว่าวันเวลา มันผ่านไปเร็วเหลือเกิน เพราะฉะนั้นปีนี้จะต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้แหละ
ทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา
ให้มันเข้มข้นเหมือนพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในกาลก่อนทุกพระองค์ทุกท่านต่างก็เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการสร้างบารมีทั้ง
๑๐ ประการ เราก็จะต้องอย่างน้อยก็ต้องได้อย่างนั้น กลั่นจิตกลั่นใจให้ใสๆ
ในการทำใจให้หยุดให้นิ่ง
ถ้าใจใสสะอาดบริสุทธิ์เราก็จะได้นึกทบทวนบุญในวันนี้
ตั้งแต่เช้าที่เรามาตักบาตร มาอยู่ธุดงค์ มาตักบาตร มาบูชาข้าวพระ
ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่ภิกษุสามเณรผู้ประพฤติธรรม
เราจะได้นึกถึงบุญนี้มารวมเป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของเรา
เป็นดวงบุญใสๆ ให้ใจเรานิ่งๆ นุ่มๆ อยู่ในกลางดวงบุญนี้ ให้ใสๆ ประคองไปเรื่อยๆ
ให้ใสๆ เพราะทุกบุญเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา ตั้งแต่เป็นปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้าจนถึงจุดหมายปลายทาง
คือ ที่สุดแห่งธรรม เราต้องใช้บุญกันไปทุกวันทุกคืน
อาราธนาพระนิพพานคุมบุญ
ฉะนั้น นึกถึงบุญตรงนี้ให้ดี ให้นิ่งๆ นุ่มๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ
มหาปูชนียาจารย์จะได้อาราธนาพระนิพพานมาคุมบุญให้กับเรา มากลั่นจิตกลั่นใจให้ใสๆ ทับทวีบุญของเราให้เนื่องติดไปหมดทุกๆ
กาย แล้วก็ซ้อนความปรารถนาของเราให้หนาแน่นขึ้นไปเรื่อยๆ
อีกทั้งจะเอาบุญนี้ไปตัดรอนวิบากกรรมวิบากมารอุปสรรคต่างๆ
นานาในชีวิตของเราให้หนักเป็นเบา เบาเป็นหาย ร้ายกลายเป็นดี ดีแล้วก็ดีเลิศยิ่งๆ
ขึ้นไป เราจะเอาบุญนี้เชื่อมสายสมบัติ ทั้งคุณสมบัติ รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญสุข มรรคผลนิพพาน วิชาธรรมกาย เพราะฉะนั้นนิ่งกันให้ดี
ให้นิ่ง นุ่ม เบา สบาย อย่าให้ใจหลุดจากกลางนะ แต่ต้องสบายๆ ให้ใจนิ่งๆ นุ่มๆ
ให้ดี ในขณะที่มหาปูชนียาจารย์กำลังคุมบุญ กำลังอาราธนาพระนิพพานลงซ้อน ลงคุมบุญ
เราจะอธิษฐานจิตอะไรก็เอาตอนที่ใจใสๆ เห็นดวงใสๆ ยิ่งดี
หรือองค์พระใสๆ จะยิ่งเร็วแรง หรือจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลก็ต้องเอาตอนนี้แหละ
ตอนที่ใจเราเกลี้ยงๆ ใสๆ ยิ่งใส ยิ่งสว่าง ยิ่งมีอานุภาพมาก จะอธิษฐานจิต
หรือจะอุทิศบุญให้กับหมู่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ก็ต้องเอาตอนนี้นะ ตอนที่นิ่งๆ
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565