ภาพในกลางดวงบุญ
วันอาทิตย์ที่
๒๕
มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ (๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐
น.)
งานบุญวันอาทิตย์ ณ ห้องแก้วสารพัดนึก
ปรับกาย
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนา
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย
ขยับเนื้อขยับตัวให้ดี ปรับท่านั่งให้ถูกส่วน ให้เลือดลมในตัวไหลเวียนได้สะดวก จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย
ปรับใจ
แล้วผ่อนคลาย
ทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง ให้คลายความผูกพันในคน สัตว์ สิ่งของ
ทำใจของเราให้เกลี้ยงๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ
วางใจ
แล้วรวมใจกลับเข้าไปสู่ภายในอย่างง่ายๆ
อย่างเบาๆ สบายๆ ให้ใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ หรือประมาณบริเวณกลางท้อง
ให้ใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ใจใสๆ ใจเย็นๆ
นึกถึงบุญ
แล้วนึกถึงบุญทุกบุญที่เราทำผ่านมานับภพนับชาติไม่ถ้วน
แม้เราจะจำไม่ได้ แต่บุญนี้ก็ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของทุกๆ กาย
เป็นดวงบุญใสๆ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ติดอยู่ภายในกลางกายของเรา
แต่เป็นของละเอียด เราจะเห็นบุญนี้ได้ต่อเมื่อใจของเราละเอียด ละเอียดด้วยการทำใจหยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ถ้าถูกส่วน
เดี๋ยวเราจะเห็นได้เมื่อความสว่างภายในเกิดขึ้น แม้เรายังไม่เห็น
แต่ว่าเมื่อเรานึกถึงบุญที่เราทำผ่านมา กระแสธารแห่งบุญจะได้ช่อง
จะมาเชื่อมอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
เมื่อเรานึกถึงบุญที่เรานึกออก
เราจำได้ และเราปลื้ม อย่างบุญในภพชาติปัจจุบันนี้ เราได้ทำทาน รักษาศีล
เจริญภาวนา เป็นต้น สงเคราะห์โลก เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาล ให้ทุนการศึกษา
ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ หรือบุญในทางธรรมที่เราได้สร้างโบสถ์ วิหาร
ศาลาการเปรียญ ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน คิลานเภสัช เป็นต้น
เมื่อเรานึกถึงบุญนี้
บุญก็จะบังเกิดขึ้น โดยเฉพาะบุญช่วงใกล้ๆ นี้
คือบุญที่เราไปเป็นผู้นำบุญชักชวนคนให้มาทำความดี เราทำเองด้วยและไปชวนคนมาด้วย
ผู้ที่บวชเองได้ก็บวชเอง บวชเองไม่ได้ก็ไปชวนคนมาบวช หรือไปชวนคนตักบาตรพระที่ผ่านมา
๖ วัน ๖ ครั้ง ในเส้นทางในการอัญเชิญพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองคำไปสู่วัดปากน้ำ
ภาษีเจริญ
นึกถึงบุญที่นึกได้ง่ายและปลื้มล่าสุดนี้
หรือบุญใดที่เราประทับใจแม้ผ่านกาลเวลามาแล้ว นึกเมื่อไรก็ปลื้ม ให้เริ่มต้นนึกตรงนั้นก่อน
พอใจใสๆ ใจสบาย เดี๋ยวจะไปดึงดูดบุญอื่นๆ ที่เราทำผ่านมาให้มารวมตัวเป็นดวงบุญใสๆ
ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเราในทุกภพทุกภูมิ
เช่น ในมนุษย์หรือในเทวโลก เป็นต้น ให้นึกถึงบุญนี้ด้วยใจที่ใสๆ ใจสบายๆ
บริกรรมนิมิต
ให้ตรึกนึกถึงดวงใสอย่างง่ายๆ
สบายๆ ให้ใสบริสุทธิ์ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิเลย
กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แต่ว่าใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
ให้ตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ
พร้อมกับประคองใจด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ ว่า สัมมาอะระหังๆๆ เรื่อยไป
สภาวธรรมภายใน
สำหรับนักเรียนเก่าที่คุ้นเคยกับสิ่งนี้
ทำอยู่บ่อยๆ สม่ำเสมอไม่ขาดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว ก็แค่แตะใจไปเบาๆ หยุดใจให้นิ่งๆ
นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ แค่ปล่อยวาง ผ่อนคลาย ใจก็เคลื่อนเข้าไปสู่ภายในได้แล้ว
จะเคลื่อนไปเอง
เราจะหลุดออกจากสภาวะหยาบของกายมนุษย์
ของโลกมนุษย์ จากสิ่งแวดล้อมต่างๆ เหล่านี้ จะหลุดเข้าไปสู่ข้างใน ตัวจะโล่ง โปร่ง
เบาสบาย ตัวขยายและหายไปเลย เหมือนไม่มีตัวตน เหมือนใจเราอยู่ในกลางอวกาศโล่งๆ
แต่ว่านิ่ง แน่น ใสบริสุทธิ์ ใจจะนิ่งๆ อย่างนุ่มนวล จะนุ่มๆ แต่มีพลัง นิ่งๆ
นุ่มๆ ใจจะเคลื่อนเข้าไปภายในอย่างง่ายๆ
ความเบากายเบาใจจะเกิดขึ้น
กายก็เบา ใจก็เบา ใจจะใสๆ บริสุทธิ์ เกลี้ยงๆ ความสุขก็เกิดขึ้น
ยิ่งเบาสบายเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอารมณ์ที่เราชอบใจ พึงพอใจ อยากจะอยู่กับอารมณ์นี้นานๆ
ความมืดภายในก็หายไป
ความสว่างจะค่อยๆ เกิดขึ้น ตั้งแต่เหมือนฟ้าสางๆ เรื่อยไป ค่อยๆ แจ้งขึ้น แจ่มขึ้น
สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน ใจจะนิ่ง นุ่ม นิ่งๆ นุ่มๆ นิ่งแน่นหนักเข้าไปเรื่อยๆ
ความสว่างนั้นจะทำให้เราเห็นภาพ เมื่อใจเราเคลื่อนหรือหล่นเข้าไปสู่ภายใน
และลอยกลับขึ้นมาเป็นดวงใสๆ อย่างเล็กขนาดดวงดาวในอากาศ
อย่างกลางขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ขนาดเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน
และค่อยๆ ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ใส บริสุทธิ์ สว่าง มาพร้อมกับความสุขความบริสุทธิ์ที่เราไม่เคยเจอ
ทำให้ใจอยากหยุดนิ่งอยู่ตรงกลางดวงใสๆ ยิ่งหยุดยิ่งนิ่ง ยิ่งดิ่งไม่ยั้งเลย
เคลื่อนเข้าไปสู่ภายใน ในกลางดวงใสๆ ซึ่งมีจุดสว่างกว่า ดึงดูดให้เราเข้าไปสู่ภายในอย่างง่ายๆ
อย่างละมุนละไม
พุทธรัตนะ
ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง
ใจจะเคลื่อนเข้าไปเรื่อยๆ
อย่างง่ายๆ จะเห็นดวงธรรมในดวงธรรม จนกระทั่งเข้าไปถึงกายในกายข้างใน โดยผ่านเส้นทางสายกลาง
สายเอกสายเดียวที่เป็นจุดสว่างเล็กๆ เหมือนปลายเข็มเล็กๆ ผ่านเข้าไปในกลางนั้น
ผ่านเข้าไปเองอย่างง่ายๆ อย่างสบายๆ ผ่านกายต่างๆ จนกระทั่งเข้าถึงกายธรรม
ถึงพระธรรมกายที่ใสบริสุทธิ์ ใสเกินความใสใดๆ ในโลก เกตุเป็นดอกบัวตูมตั้งอยู่บนจอมกระหม่อม
จอมกระหม่อมเป็นลักษณะพิเศษของมหาบุรุษ บนพระเศียรที่มีเส้นพระศก
เส้นผมขดเวียนเป็นทักษิณาวรรต หมุนขวาตามเข็มนาฬิกา
กายท่านจะตั้งตรง
ใสบริสุทธิ์ ไม่มีที่ติ คือ เราจะดูใกล้ ดูไกล องค์ใหญ่ องค์เล็กก็เห็นเหมือนกัน
แสงสว่างก็สม่ำเสมอ ไม่เหมือนวัตถุสิ่งของบนโลกที่แสงไม่สม่ำเสมอ เพราะเป็นโลกมายา
มีแสงเงา มีระยะ ดูใกล้เห็นอย่าง ดูไกลเห็นอย่าง เห็นไปคนละอย่างกัน
แต่องค์พระภายในไม่ใช่อย่างนั้น จะสว่างไสว องค์ใหญ่องค์เล็กเหมือนกันหมดเลย ชัด
ใส แจ่มกระจ่าง นี้คือ พุทธรัตนะ
ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงของเรา เป็นกายตรัสรู้ธรรมของเรา มีอยู่ทุกคนในโลก ในกลางกายอย่างนี้
ใสบริสุทธิ์ ใสเกินความใสใดๆ ในโลก นั่งอยู่บนแผ่นฌานนั้น
ให้ใจเรานิ่งๆ
นุ่มๆ เบาๆ ขึ้นไปอีก นิ่งอย่างเดียว ไม่ต้องทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ นิ่งในนิ่ง
เฉยๆ เดี๋ยวกายท่านจะขยายใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งเราเคลื่อนเข้าไปอยู่ในกลางกายท่าน ท่านเหมือนเป็นปราการ เป็นป้อม
เป็นค่าย ปกป้องผองภัยเราได้ เป็นทั้งที่พึ่งทั้งที่ระลึกที่ควรนึกถึง
เพราะเราพึ่งได้ไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์ ยามทุกข์ก็ดับทุกข์ได้ ยามสุขก็เพิ่มสุขได้
สว่างไสวอยู่ในกลางกาย
กายนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ของเรา
จากผู้ไม่รู้ให้มาเป็นผู้รู้แจ้งในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
เป็นผู้ที่ตื่นแล้วจากกิเลส ไม่เหมือนอยู่โลกภายนอก มนุษย์โลกภายนอก โลกมายา เหมือนคนยังนอนหลับอยู่
ไม่มีสติ ขาดสติ ไม่รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ดี ชั่ว บาป บุญ คุณ โทษ เป็นต้น แต่นี่ตื่นอย่างสดชื่น
เบิกบาน จะทำให้ดำเนินชีวิตได้ถูกต้องยิ่งขึ้น ใจของพระธรรมกายจะนิ่งอยู่ในกลางกายฐานที่
๗ ตำแหน่งเดียวกันกับตัวของเรา ใส
ถ้าเราถึงกายธรรมตรงนี้
จะสร้างบุญสร้างกุศลอะไรก็ยิ่งใหญ่ไพศาลนักทีเดียว ถึงตรงนี้ถ้าเป็นนาคจะได้บวช ๒
ชั้น ถ้าเป็นอุบาสิกาผู้หญิงก็ได้ชื่อว่าบวชใจ เป็นพระก็บวช ๒ ชั้น
อุบาสกยังไม่ได้บวชก็ได้ชื่อว่าบวชใจ บวชภายใน มีสรณะเป็นที่พึ่ง
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับหยุดนิ่งเป็นตัวสำเร็จ
นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวจะไปเชื่อมบุญธาตุต่างๆ ได้
บุญธาตุที่เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของตัวเรา
ตั้งแต่เรายังเป็นปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า
มีความสุขความสำเร็จในชีวิตทั้งสิ้น
ภาพในกลางดวงบุญ
ตอนนี้ให้ลูกนึกนิ่งนุ่มเบาๆ
ให้ใจใสๆ ให้ใจเย็นๆ มหากุศลจะได้เกิดขึ้นกับเรา บุญที่เราทำมาล่าสุดนี้คือตักบาตร
ดวงบุญนี้จะโต ในกลางดวงบุญจะเห็นภาพการตักบาตรของเรา
การทำหน้าที่ผู้นำบุญชวนคนทำความดีของเรา หรือตัวเราทำเอง เห็นภาพพุทธบริษัท ๔
เห็นตัวเรากำลังสั่งสมบุญอยู่ในกลางดวงบุญนี้ และพอสาวไปก็จะเห็นผลแห่งบุญนี้ ซึ่งจะส่งผลให้เราได้ทิพยสมบัติในเทวโลก
จะเห็นเป็นเรื่องเป็นราว ตักบาตรเมืองมนุษย์ แต่ทิพยสมบัติเกิดในเทวโลก
จากดวงบุญของเราไปถึงตรงนั้น
ในเทวโลกจะมีทิพยสมบัติ
อาหารทิพย์เกิดขึ้นมากมาย ชวนคนมาทำความดีมีบริวารเกิดขึ้นมากมาย ชาวสวรรค์เขาโจษจันกัน
ภาพใกล้ๆ จะเห็นอย่างนี้ ถ้าละเอียดกว่านี้เราจะเห็นยาวไปอีก
ยาวเป็นภพเป็นชาติต่อๆ ๆ ๆ กันไป เห็นความปรารถนาของเรา ที่เราอธิษฐานจิตว่า บุญธาตุส่งผลให้เราได้มนุษย์สมบัติ
ทิพยสมบัติ นิพพานสมบัติอย่างไร มันจะเกิดขึ้นในกลางนั้น กลางที่โล่งๆ ว่างๆ
ที่เราเห็นได้แจ่มแจ้งแทงตลอด
ยิ่งเห็นยิ่งมีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ
แต่เป็นสุขที่ไม่ได้ตื่นเต้นแบบมนุษย์ทั่วไป เป็นสุขปนเฉย คือ สุขลึกๆ ปนอุเบกขา นิ่งๆ
สุขกับเฉยไปด้วยกัน มันจะแจ่มกระจ่างทีเดียว และสุขมากๆ แม้เพียงคำเดียวว่า “สุข”
แต่ความรู้สึกขยายไม่มีขอบเขต อารมณ์จะนิ่งเฉยๆ เฉยอย่างมีความสุข
อยากอยู่กับอารมณ์นี้ไปนานๆ อยากแช่อิ่มลงไปอย่างนั้น แช่อิ่ม นิ่งนุ่ม
เดี๋ยวลูกลองทำอย่างนี้กันนะ ลองนิ่งนุ่ม ให้ใสๆ
สิ่งที่เราทำไว้ทั้งหมดไม่ได้สูญหายไปไหน จะติดตามเราไปข้ามภพข้ามชาติ
ไปถึงที่สุดแห่งธรรม จุดหมายปลายทางที่เราได้ตั้งมโนปณิธานเอาไว้
ความปรารถนาบางอย่างจะส่งผลในปัจจุบัน บางอย่างส่งผลในอนาคตอันใกล้
บางอย่างต้องข้ามชาติ บางอย่างต้องหลายๆ ชาติ ตามกำลังแห่งบุญบารมีของเรา
นี้เป็นเรื่องลึกซึ้งในทางพระพุทธศาสนา
วิชชาธรรมกาย แต่ความลับของชีวิตนี้จะถูกเปิดเผยได้เมื่อใจของลูกทุกๆ คนหยุดนิ่ง
นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ช่วงนี้ให้ลูกทุกคนฝึกหยุดนิ่ง นุ่ม เบา สบายกัน
ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ นะจ๊ะ
ตอนนี้น้อมเอาปัจจัยไทยธรรมที่เรานำมาสร้างมหาทานบารมีมาไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ และอาราธนามหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ คุณยายอาจารย์ฯ
และทีมงานของท่าน เป็นต้น
นึกน้อมเอาปัจจัยไทยธรรมนี้ไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ท่านดับขันธปรินิพพานนานมาแล้วในอายตนนิพพาน
ให้น้อมถวายเพื่อเอาบุญละเอียดชั้นหนึ่ง ก่อนที่จะเอาของหยาบนี้มาถวาย
เราก็นึกให้นิ่งนุ่มไปเลย
แล้วอาราธนาให้ท่านคุมบุญ
เพื่อให้บรรพบุรุษ บุพการี หมู่ญาติสนิทมิตรสหาย สัมพันธชน ผู้เป็นที่รักของเรา จะอยู่ในภพภูมิใดก็ตาม
ที่มีทุกข์มากให้ทุกข์น้อย ที่มีทุกข์น้อยให้พ้นทุกข์ ที่มีสุขน้อยให้มีความสุขมาก
ที่มีความสุขมากแล้วให้มากเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ให้นึกให้นิ่งอยู่ภายในกลางกายนะจ๊ะ
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565