อานุภาพของดวงบุญ
วันพุธที่ ๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ (๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น)
ห้องแก้วสารพัดนึก วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย-ปรับใจ
ตัวหนังสือคำว่า จะได้ ตกจอจานค่ะ พยายามจัดหน้าแล้ว มันก็ไม่ได้
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดี ปรับท่านั่งให้ถูกส่วน จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย ให้สบายๆ
ต้องสบาย ต้องผ่อนคลาย แล้วก็ทำใจใสๆ ใจเย็นๆ ทิ้งทุกอย่างปล่อยวาง ทุกสิ่ง
วางใจ
รวมใจกลับเข้ามาสู่ภายใน หยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องเรา
ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ จำง่ายๆ ว่าอยู่ในบริเวณกลางท้อง
ที่เรามั่นใจว่าเหนือสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ แตะใจเบาๆ ตรงกลางกายอย่างสบายๆ
ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ ใจไม่เกาะ ไม่เกี่ยว ไม่เหนี่ยว ไม่รั้งเรื่องอะไรเลย
นึกถึงบุญ
ให้นึกถึงบุญที่เราทำผ่านมา
โดยเฉพาะเมื่อเช้านี้ ที่เราพร้อมใจกันออกจากบ้านมาเอาบุญตั้งแต่ตักบาตรเรื่อยมา
จนกระทั่งมาถึงพิธีบูชาข้าวพระ นำเครื่องไทยธรรม อาหารหวานคาวเหล่านี้
น้อมถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย
ที่ท่านดับขันธปรินิพพานนานมาแล้ว มีพระธรรมกายปรากฏอยู่ในอายตนนิพพาน
เราได้กราบอาราธนามหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน
ที่คล่องแคล่วเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกาย ประกอบวิชชาธรรมกาย กลั่นไทยธรรมอาหารหวานคาวเหล่านี้
ให้เป็นของละเอียด และน้อมไปถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระธรรมกายพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทุกๆ พระองค์ดังกล่าว ซึ่งเราเรียกว่าการบูชาข้าวพระ
การบูชาข้าวพระ
การบูชาข้าวพระเราได้ทำต่อเนื่องกันมายาวนานหลายสิบปี
โดยเฉพาะอาทิตย์ต้นเดือนทุกๆ เดือน ยกเว้นบางเดือนที่มีงานสำคัญในวันพระพุทธศาสนาก็มารวมกัน
อย่างเช่น วันนี้วันมาฆบูชา เราก็ถือโอกาสรวม ๒ บุญใหญ่มาอยู่ในวันเดียวกัน
นึกถึงบุญที่เราได้ร่วมกันประกอบพิธีบูชาข้าวพระ
ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติธรรม และก็บุญต่างๆ ในทุกๆบุญ ที่เราได้ทำในวันนี้
นึกด้วยใจใสๆ ใจสบายๆ นึกผ่านๆว่า
เราได้ทำบุญอะไรบ้างในวันนี้ บุญทั้งหมดจะได้มารวมกันเป็นดวงบุญใสๆ
ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ในกลางท้องของเรา
เป็นดวงบุญใสๆ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว
แต่ว่าใสบริสุทธิ์มาก ใสเกินความใสใดๆ ในโลก ใสสว่าง
อย่างน้อยก็ให้ใสเหมือนกระจกใสๆ ก้อนน้ำแข็งใสๆ หรือเพชรใสๆ
อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว
ดวงบุญนี้จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เราสั่งสมบุญ ไม่ว่าจะเป็นทาน ศีล หรือภาวนา
เป็นต้น
เป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในกลางกาย เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา
ตั้งแต่ปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า ให้เรามีมนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ
และนิพพานสมบัติ
เพราะฉะนั้น
ให้ลูกทุกคนนึกถึงดวงบุญนี้ด้วยใจที่ใสๆ มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ นึกเบาๆ อย่างสบายๆ
ใจใสๆ ใจเย็นๆ จะนึกเพื่อความปลื้มก็ได้ หรือจะนึกเพื่อเป็นบริกรรมนิมิต
ที่ยึดที่เกาะของใจเราก็ได้
อานุภาพของดวงบุญ
ดวงบุญใสๆ กลางกาย ที่ศูนย์กลางฐานที่
๗ บุญนี้สำคัญมากเลย จะทำให้เรามีสมบัติ ๓ อย่าง คือ
รูปสมบัติ
มีรูปอันงาม ไม่พิกลพิการ แข็งแรง อายุยืนยาว ได้สร้างบารมีไปนานๆ
ทรัพย์สมบัติ ให้เราได้ไปใช้สร้างบารมีหล่อเลี้ยงสังขารไปด้วย
สร้างบารมีไปด้วย
คุณสมบัติ
มีความพร้อม ทั้งความรู้ดี ความสามารถดี ความประพฤติดี มีครบในทุกๆ ด้าน เรียกว่า มนุษย์สมบัติ
มนุษย์สมบัติ ก็จะบังเกิดขึ้นกับเราไปทุกภพทุกชาติ
ทิพยสมบัติ ก็จะส่งผลหลังจากที่เราละโลกแล้ว มีสุขอยู่ในสุคติโลกสวรรค์
มีวิมานอันเป็นทิพย์ สมบัติอันเป็นทิพย์ บริวารอันเป็นทิพย์ เป็นต้น
นิพพานสมบัติ ก็ทำให้เราได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ได้บรรลุวิชชา ๓ วิชชา ๘ อภิญญา ๖
ปฏิสัมภิทาญาณ ๔ เป็นต้น
๗
วัน หลังทำบุญ ใจต้องใส
ให้นึกด้วยใจที่ใสๆ ใจนิ่งๆ
เพื่อบุญจะได้บังเกิดขึ้นทับทวีคูณอย่างต่อเนื่อง เมื่อเราตามระลึกนึกบุญ
ดวงบุญก็จะโตใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ๗ วัน หลังจากที่เราทำบุญไปแล้วในทุกๆ บุญ
ใจเราต้องใสๆ ให้นึกถึงบุญไปเรื่อยๆ บุญก็จะได้ซ้อนไปในกลางกายของเรา
จะทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในชีวิต ในธุรกิจการงาน
หรือสิ่งที่เราปรารถนาทั้งทางโลกทางธรรม ๗ วันนี้ ต้องให้ใจใสๆ
อย่าให้ใจขุ่นมัว อย่าให้ใจเศร้าหมอง ใจเกลี้ยงๆ
อุทิศส่วนกุศล
แล้วบุญนี้เราจะอุทิศไปให้ผู้ที่ละโลกก็ได้
ผู้ที่เป็นที่รักของเรา จะเป็นบรรพบุรุษบุพการีหมู่ญาติ หรือใครก็ตาม บุญที่เราทำไว้
นึกอุทิศบุญนี้ถึงหมู่ญาติดังกล่าว ที่อยู่ในภูมิที่รับได้ก็จะได้รับบุญนี้
ถ้าเขามีทุกข์มากก็จะมีทุกข์น้อย
บุญนี้ก็จะไปตัดรอนให้ทุกข์นั้นลดลงไปเรื่อยๆ ถ้าสุขน้อยก็สุขมากเพิ่มขึ้น ในปรโลก
เพราะฉะนั้น ให้ใจใสๆ ใจเกลี้ยงๆ
ใจนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ประคองใจกันไปอย่างนี้
ทำบุญแล้วต้องปลื้ม
ก่อนที่เราจะประกอบพิธีบุญอื่นต่อไป
เช่น เราจะสร้างมหาทานบารมี จะนำทรัพย์ที่เราหามาด้วยความยากลำบาก
ต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันในทุกบาททุกสตางค์กว่าจะได้มา
ได้มาแล้วเราเกิดกุศลศรัทธาอยากทำบุญในพระพุทธศาสนา
เราจึงได้สละทรัพย์ที่หามาได้ยาก ด้วยจิตที่เลื่อมใส มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ
ให้เป็นสมบัติพระศาสนา ให้ไปทำงานพระศาสนา
เพราะฉะนั้น
เราจะต้องเอาบุญให้ได้เยอะๆ ทำน้อยต้องให้ได้บุญมาก ทำมากก็ต้องให้ได้บุญเยอะๆ
ให้คุ้มกับที่เราได้ทิ้งชีวิตหาทรัพย์มาหล่อเลี้ยงสังขารและก็มาสร้างบารมีนี้
เพื่อจะเอาไปทำงานพระศาสนา ต้องให้ได้บุญเยอะๆ
จะได้บุญเยอะต้องทำให้ถูกหลักวิชชา
คือ ก่อนทำ กำลังทำ หรือทำไปแล้ว ต้องปลื้มทุกขณะจิต
แล้วก็ต้องกลั่นจิตกลั่นใจให้ใส
ให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ดังกล่าว
บุญนี้สำคัญนะ สำคัญมากๆ ให้สั่งสมเอาไว้
เพราะฉะนั้น เวลาที่เหลืออยู่นี้ ให้ลูกแตะใจไปเบาๆ
ตรงกลางกาย นึกถึงดวงบุญดังกล่าวด้วยความปลื้มปีติ จะเป็นบริกรรมนิมิตก็ได้
หรือจะนึกเพื่อให้ใจเราปลื้มปีติก็ได้ ให้ใจใสๆ
ใจจะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญต่อไป ที่เรากำลังจะสร้างมหาทานบารมี
ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ นะจ๊ะ
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565