นึกถึงหลวงปู่
หลวงปู่นึกถึงเรา
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ (๑๕.๐๐ – ๑๖.๐๐ น.)
ห้องแก้วสารพัดนึก วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย-ปรับใจ
ตั้งใจนั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ อย่าไปบีบเปลือกตา อย่ากดลูกนัยน์ตา หลับตาพอสบายๆ
แล้วก็ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา
ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ต้องสบาย ขยับเนื้อขยับตัว ปรับท่านั่งให้ถูกส่วน
ให้เลือดลมในตัวเดินได้สะดวก จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อยกัน
แล้วก็ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ
เราให้เวลากับตรงนี้สัก
๑ หรือ ๒ นาที ในการปรับสภาวะของร่างกายและจิตใจให้สอดคล้องกัน
คลายความผูกพัน
ปล่อยวาง
ทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง
ให้คลายความผูกพันในทุกสิ่ง ไม่ว่าเรื่องคน สัตว์ สิ่งของ ธุรกิจการงานบ้านช่อง
การศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้
ต้องปลด
ต้องปล่อย ต้องวาง ต้องคลายความผูกพันจากทุกสิ่งดังกล่าว
ทำประหนึ่งว่าเราอยู่คนเดียวในโลก ใจจะได้ว่างๆ ไม่ไปเกาะ ไปเกี่ยว ไปเหนี่ยว
ไปรั้งในเรื่องอะไรเลย จะเป็นใจที่เหมาะสม ที่จะหยุดจะนิ่งจะเข้าถึงธรรมได้
วางใจ
ทำใจของเราให้เบิกบาน
ให้แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส แล้วเราก็ค่อยๆ ทำความรู้สึกทั้งหมด ไปแตะที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ไปหยุดอย่างนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ
หรือประมาณว่ากลางท้อง ในตำแหน่งที่เรามั่นใจว่า คือศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
การนึกนิมิตรภาพหลวงปู่
ให้ใจหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ
เบาๆ สบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้
แล้วก็นึกน้อมภาพของพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองคำที่เราคุ้นเคย ที่เรามีความมุ่งมั่น ตั้งใจเอาบุญกับท่าน
จะไปเชื่อมสายบุญกับท่าน จะหล่อรูปเหมือนของท่านด้วยทองคำองค์ที่ ๗
ให้นึกถึงท่านอย่างง่ายๆ
อย่างสบายๆ ด้วยจิตอันเลื่อมใสในพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร
ว่าบุคคลเช่นท่านเป็นบุคคลอันเลิศ บุคคลอันประเสริฐที่หัวใจยิ่งใหญ่
จะมุ่งปราบมารประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ จนกระทั่งหมดมารเลย เพราะฉะนั้น
บุคคลอย่างท่านหาได้ยากยิ่ง เราจะหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำ
เพราะฉะนั้น ให้นึกถึงท่านอย่างง่ายๆ
อย่างเบาๆ อย่างสบายๆ ด้วยใจใสๆ ด้วยใจเย็นๆ นึกได้ชัดแค่ไหน ก็เอาแค่นั้นไปก่อน
เท่าที่เราพอนึกได้อย่างสบายๆ ที่ไม่มึน ไม่ตึง ไม่เกร็ง ต้องสบายๆเท่านั้น
นึกถึงท่านอยู่ที่กลางกาย
ให้ท่านนั่งสมาธิคุมบุญให้กับเรา หันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา เท่าที่เราจะนึกได้อย่างง่ายๆ
หรือทำความรู้สึกว่ามีท่านอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ถ้าเรานึกถึงท่าน
ท่านก็จะนึกถึงเรา จะได้เชื่อมสายบุญให้กับพวกเราทั้งหลาย เพราะท่านทราบดีว่า ปัจจัยแต่ละบาทแต่ละสตางค์ที่เราหามาได้ในยามนี้
มันยากมันลำบากมาก ต้องหาด้วยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน เกิดกุศลศรัทธาอยากมาสร้างมหาทานบารมี
อยากหล่อรูปเหมือนท่านด้วยทองคำเพื่อหวังบุญอันยิ่งใหญ่นี้
ให้ติดไปในภพชาติเบื้องหน้า สิ่งต่างๆ ในปัจจุบันชาตินี้ ท่านก็จะคุมบุญให้กับเรา
ทำน้อยได้มาก ทำมากได้เยอะ เพิ่มพูนเป็นทับทวีขึ้นไปเรื่อยๆ
บริกรรมภาวนา
ให้นึกถึงท่านอย่างเบาๆ
อย่างสบายๆ ทำใจใสๆ ใจเย็นๆ จะประคองใจให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหัง ไปด้วยก็ได้
หรือถ้าใจของเราไม่อยากจะภาวนา สัมมาอะระหัง เพราะว่าใจของเราควบคุมได้
ไม่คิดไปในเรื่องราวต่างๆ ได้ สามารถอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองคำที่กลางกายได้
จะไม่ภาวนาก็ไม่เป็นไร
เราจะภาวนาเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
พอใจเรารู้สึกว่าอยากอยู่นิ่งเฉยๆ อยากอยู่กับหลวงปู่อย่างเดียว เราก็ไม่ต้องภาวนา
แต่ยามใดที่ใจฟุ้ง ไปคิดในเรื่องอื่น เราจึงย้อนกลับมาภาวนาใหม่
ยิ่งนึกถึงท่านบ่อย ๆ
ก็ยิ่งง่าย
ให้ใจนิ่งนุ่มเบาสบาย
จากภาพพระเดชพระคุณหลวงปู่ที่เรารู้สึกว่ามีอยู่ ภาพนั้นก็จะหนาแน่นขึ้น
จากความรู้สึกก็มาเป็นความเห็นแจ้ง รู้แจ้งขึ้นมาทันที คือชัดเจนขึ้นมาเอง โดยที่เราไม่ต้องพยายามไปบีบ
ไปเค้น ไปเน้นภาพ แค่นิ่งเฉยๆ อย่างสบายๆ
ทำใจสบายๆ
อยู่กับท่านด้วยจิตอันเลื่อมใส เดี๋ยวภาพจะค่อยๆ ชัดขึ้นมาเอง ค่อยๆ ชัดขึ้นมา
ใจก็ค่อยๆ รวมเป็นจุดเดียวกันไปเรื่อยๆ ถ้าเราทำทุกวัน
สั่งสมอย่างสม่ำเสมอมา แค่ชำเลือง เราก็นึกได้ง่าย พอเราหลับตาเบาๆ
ภาพก็จะชัดขึ้นมา ตั้งแต่น้อยกว่าลืมตาเห็น กระทั่งเท่ากับลืมตาเห็น และยิ่งกว่าลืมตาเห็น
เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็จะชัดแจ่มขึ้นมาเองเลย
หลวงปู่สะสางธาตุธรรม
เมื่อใจของเราหยุด
เรานิ่งถูกส่วน จะเป็นไปเอง ทำความรู้สึกว่า มีท่านอยู่ในกลางกาย
อายตนะของใจเราก็ไปเชื่อมถึงท่านแล้ว ท่านก็จะรวบเราไว้ในกลางกายท่าน
แล้วสะสางธาตุธรรม ดิน น้ำ ลม ไฟ วิญญาณอากาศธาตุในตัวของเรา เห็น จำ คิด รู้
ของเรา หรือกายและใจของเราให้สะอาด ให้บริสุทธิ์เพิ่มขึ้น
ท่านจะเก็บธาตุที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป
ธาตุไม่บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสาเหตุแห่งความทุกข์ทรมานของชีวิต อุปสรรคของชีวิต
ท่านก็จะค่อยๆ เก็บไปเรื่อย ๆ สะสางไปด้วยวิชชาธรรมกายของท่านที่ท่านเชี่ยวชาญ
ค่อยๆ สะสางธาตุธรรม เห็น จำ คิด รู้ ให้สะอาดให้บริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งกายของเราใส ใจก็ใส กระทั่งใสเป็นแก้ว เป็นรัตนะ ใสบริสุทธิ์ไปทุกกายเลย
กายที่ใส ใจที่ใสนี่แหละเป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา
ทั้งในปัจจุบันนี้ อนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า
ไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรมเลย
ท่านก็จะกลั่นให้ใสด้วยความบริสุทธิ์
ด้วยอานุภาพของท่านอันไม่มีประมาณ พอใสบริสุทธิ์ดีแล้ว ท่านก็จะเชื่อมสายสมบัติ สายบุญ
เชื่อมทุกกายเลย เมื่อสภาวะของกายและใจเหมาะสมแก่การเชื่อม บุญธาตุนั้นเป็นธาตุบริสุทธิ์ที่มีอานุภาพขจัดบาปธาตุหรือธาตุที่เป็นบาปอกุศลทั้งหลาย
ซึ่งเป็นอุปสรรคของชีวิต ท่านก็จะกลั่นเข้าไปอย่างนี้
ด้วยใจที่หยุดนิ่งแน่นอย่างนุ่มนวล เพิ่มขึ้นไม่มีประมาณเลย
เพราะฉะนั้น
เราก็ทำเพียงแค่หยุดนิ่งเฉยๆ นึกถึงท่านอย่างเบาๆ สบายๆ ประคองใจกันไปอย่างนี้
ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565