ทำบุญแล้วต้องปลื้ม 540828D รอบบ่าย

 

ทำบุญแล้วต้องปลื้ม

วันอาทิตย์ที่  ๒๘  เดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ (๑๓.๓๐ - ๑๔.๐๐ น.)

งานบุญวันอาทิตย์ ณ สภาธรรมกายสากล

ปรับกาย

เมื่อเราได้จุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัยบูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปให้ลูกทุกคนนั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ

 

หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกว่า สบาย

 

ปรับใจ

ทำใจของเราให้เบิกบาน แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ไร้กังวลในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ให้คลายความผูกพันจากทุกๆ สิ่ง

 

การวางใจ

แล้วก็รวมใจของเราเข้าไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ หรือประมาณว่าอยู่ในกลางท้อง รวมใจให้หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ทำใจให้ใสๆ ใจเย็นๆ

 

ทบทวนบุญ-บริกรรมนิมิต

ให้นึกถึงบุญทุกบุญที่เราทำผ่านมา ไม่ว่าในทางโลกหรือทางธรรมก็ตาม ทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา เป็นต้น มารวมเป็นดวงบุญใสๆ  กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ใสเหมือนกับเพชร เพชรลูกที่เจียระไนแล้วไม่มีตำหนิเลย สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แต่ว่าใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ

 

ให้นึกอย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ อย่าไปเค้นภาพ อย่าไปเน้นให้มันชัดเกินไป เพราะถ้าเราไปเค้น หรือไปเน้น มันจะทำให้ตึง ตึงใจ ตึงร่างกาย แม้จะเห็นภาพก็ตาม ให้นึกเบาๆ สบายๆ คล้ายๆ กับเรานึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย สิ่งที่เราเคยเห็น เช่น ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ หรือดวงดาวในอากาศ บนท้องฟ้า ให้นึกเบาๆ ทำใจให้หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ นะจ๊ะ

 

บริกรรมภาวนา

จะประคองใจให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหัง ไปด้วยก็ได้ หรือจะวางใจหยุดนิ่งเฉยๆ กลางดวงบุญใสๆ อย่างเดียวก็ได้ ใจชอบแบบไหนเราก็ทำแบบนั้น อย่างสบายๆ

 

ถ้าชอบประคองใจให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนา เราก็ภาวนาในใจเบาๆ อย่างสบายๆ โดยให้เสียงของคำภาวนาดังออกมาจากในกลางท้องของเรา ดังออกมา ออกมาจากกลางดวงใสๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ใจเย็นๆ ด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ ว่า สัมมาอะระหังๆ ๆ

 

ทุกครั้งที่ภาวนา สัมมาอะระหัง เราจะต้องไม่ลืมตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ อย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ

 

ความสำคัญของศูนย์กลางกายฐานที่ ๗

ค่อยๆ ประคองใจให้หยุดนิ่ง ให้ใจตั้งมั่นอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เพราะตำแหน่งตรงนี้สำคัญมาก เป็นตำแหน่งแห่งการหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ดับทุกข์ได้ เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งหลายทั้งปวงได้ เดินทางออกจากวัฏสงสารได้ เพราะเป็นตำแหน่งเดียวกันกับที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทั้งหลาย เมื่อท่านทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง ใจของท่านจะกลับมาหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ทุกๆ พระองค์ ไม่มีเว้นเลยแม้แต่พระองค์เดียว

 

ตำแหน่งนี้จึงเป็นตำแหน่งที่สำคัญ จะต้องรักษาใจของเราเอาไว้ให้หยุดนิ่งตรงนี้ให้ได้ ในทุกวันทุกคืนทุกเวลาที่ผ่านไป จะได้สมกับที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มาพบพระพุทธศาสนา มีกายหยาบสร้างบารมีได้ ทำพระนิพพานให้แจ้งได้ สลัดตนให้พ้นจากความทุกข์ทรมานของชีวิตได้ เข้าถึงความสุขภายในที่แท้จริงได้ เข้าถึงตัวตนที่แท้จริง ถึงพระรัตนตรัยในตัวได้

 

ตำแหน่งตรงนี้สำคัญนะลูกนะ ต้องฝึกใจให้หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ

(ปฏิบัติธรรม)

 

แตะใจไปเบาๆ สบายๆ หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ ต้องเบาๆ ต้องผ่อนคลาย ต้องใจใสๆ ใจเย็นๆ ปรือๆ ตานิดหนึ่งนะ จะได้ผ่อนคลาย

 

ทำบุญอย่างถูกหลักวิชชา

พอใจเราใสดีแล้วก็นึกน้อมเอาเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย ที่เราได้จุดบูชาพระรัตนตรัยเมื่อสักครู่นี้ น้อมไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กลางดวงใสๆ เรานึกมันก็จะเห็น อยู่ในกลางดวงใสๆ แล้วก็น้อมปัจจัยไทยธรรม ที่เราจะนำสร้างมหาทานบารมีในวันนี้ น้อมไว้ในกลางดวงใสๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นึกอย่างเบาๆ สบายๆ

 

เราจะสร้างมหาทานบารมี ปัจจัยก้อนนี้ยามนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยาก เราต้องตัดใจสละความหวงแหนทรัพย์ ความเสียดาย หรือความกังวลเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของชีวิต จนใจของเราเกลี้ยงๆ มีความพร้อม ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคำสอนของพระองค์ ในพระสงฆ์สาวกจึงได้นำไทยธรรมเหล่านี้มาสร้างบารมีเป็นมหาทานบารมี เพื่อให้เป็นทางมาแห่งบุญกุศลบังเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗

 

บุญธาตุนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา ที่เราจะต้องเวียนว่ายตายเกิดสร้างบารมีในภพ ๓ นี้ บุญนี้ก็จะได้ดึงดูดทรัพย์สมบัติ ทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ เป็นต้น เอาไว้สำหรับสร้างบารมี

 

สมบัติเป็นของกลางของโลก ผู้มีบุญเท่านั้นจึงจะได้ครอบครอง แต่บุญอยู่ดีๆ จะให้เกิดขึ้น ไม่ได้ เราต้องทำ ต้องสร้างบุญด้วยตัวเองอย่างถูกหลักวิชชา คือต้องปลื้มทั้งก่อนทำ กำลังทำ และภายหลังจากทำแล้ว

 

ใจต้องมีความปลื้มปีติยินดีในสิ่งที่ตัวทำ มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจตลอดเวลา ทั้งก่อนทำ กำลังทำ และภายหลังจากทำแล้ว ยามใดที่นึกถึงก็ปลื้ม มีปีติสุขในสิ่งที่เราได้สร้างมหาทานบารมี บุญนี้ก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำน้อยก็ได้มาก ทำมากได้เยอะ เกิดขึ้นตลอดช่วงเวลาของชีวิต ทั้งปฐมวัย มัชฌิมวัย และปัจฌิมวัย

 

เพราะใจของเราใสบริสุทธิ์ปลื้มปีติทั้งตอนก่อนทำ กำลังทำ และภายหลังจากทำแล้ว แปลว่า ตลอดชีวิตเราจะมีสายสมบัติที่เกิดขึ้นในบุญธาตุคอยหล่อเลี้ยงชีวิตของเราให้ได้สร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย

 

เพราะฉะนั้น ให้ลูกทุกคนหยุดใจนิ่งๆ นุ่มๆ แล้วก็นึกถึงมหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง เป็นต้น อาราธนาให้ท่านน้อมนำเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัยและปัจจัยไทยธรรมนี้ น้อมไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ด้วยอานุภาพแห่งวิชชาธรรมกายที่ท่านเชี่ยวชาญ ให้นึกน้อมอย่างนี้นะจ๊ะ

 

พอนึกน้อมถึงท่านนิดหนึ่ง ท่านก็จะเอาเราไว้ในกลางกายของท่าน กลางองค์พระของท่านที่ใสมาก สว่างมาก ใหญ่มาก แล้วประกอบวิชชาธรรมกายทับทวีไทยธรรมเหล่านี้ไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายในอายตนนิพพาน ที่ท่านเป็นแหล่งเนื้อนาบุญให้กับเรา

 

กระแสธารแห่งบุญ ปุญญาภิสันทาก็บังเกิดขึ้นในทุกพระองค์ มารวมจรดที่กลางกายของเราอย่างมากมาย เป็นดวงบุญใสๆ ติดทุกกาย ตั้งแต่กายมนุษย์หยาบ กายมนุษย์ละเอียด ทุกๆ กายเรื่อยไป ติดหมดเลย

 

เราเป็นเจ้าของบุญ ก็ต้องประคองใจให้หยุด นิ่งๆ นุ่มๆ อย่างเบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ นะจ๊ะ

(ปฏิบัติธรรม)

 

เมื่อใจของเราใส ใจเย็นดีแล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะได้พร้อมใจกันมากล่าวคำอธิษฐานจิตให้เป็นผังสำเร็จติดตัวเราไป ให้ลูกทุกคนนั่งพับเพียบหลับตาประนมมือขึ้นพร้อมๆ กันนะจ๊ะ

(ตั้งนะโม ๓ จบ)

 

คำอธิษฐานจิต

ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ขอนอบน้อมบูชา, พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์, และมหาปูชนียาจารย์, ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชชาธรรมกาย, ด้วยเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย, ในพรรษาแห่งการเข้าถึงธรรมนี้, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, จะตั้งใจปฏิบัติธรรม, ให้เข้าถึงพระธรรมกาย, และจะทุ่มเทชีวิตจิตใจ, สร้างบารมีอย่างเต็มที่,

 

ขออานิสงส์แห่งบุญนี้, จงดลบันดาลให้, ข้าพเจ้าทั้งหลาย, ได้ประสบความสำเร็จในชีวิต, ในธุรกิจหน้าที่การงาน, และสิ่งที่พึงปรารถนา, ให้มีมหาสมบัติอัศจรรย์, ทันใช้สร้างบารมี, ในปัจจุบันชาตินี้, ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง, มีกำลังใจที่เข้มแข็ง, ในการทำหน้าที่ผู้นำบุญ, ยอดกัลยาณมิตร,

 

เมื่อไปชักชวนผู้มีบุญใด, ให้มาสร้างบารมี, เป็นประธานกองกฐินสามัคคี, ขอให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์, ให้เข้าถึงฐานะอันประเสริฐ, ที่เลิศทั้งมนุษยสมบัติ, ทิพยสมบัติ, และนิพพานสมบัติ, ให้รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอด, ทั้งทางโลกและทางธรรม, ให้เป็นบัณฑิตนักปราชญ์, ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง, มีดวงปัญญาสว่างไสว, มีญาณทัสสนะกว้างไกล,

 

มีดวงตาแจ่มใส, ทั้งมังสจักษุ, ทิพยจักษุ, ปัญญาจักษุ, สมันตจักษุ, และธรรมจักษุ,ให้ได้บรรลุธรรม, ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, และพระเดชพระคุณหลวงปู่, พระมงคลเทพมุนี, สด จนฺทสโร, พระผู้ปราบมาร, และคุณยายอาจารย์, มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง, ให้ความปรารถนาทั้งมวล, ของข้าพเจ้าทั้งหลาย, จงเป็นผลสำเร็จ, จงเป็นผลสำเร็จ, จงเป็นผลสำเร็จ, ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมกาย, ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, ทุกๆ พระองค์, จงทุกประการเทอญ, นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ

Add Comment

2554

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565

• Share

Related Posts