อานิสงส์หยุดเป็นตัวสำเร็จ
วันอาทิตย์ที่ ๓
เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ (๑๓.๓๐
น.)
งานบุญวันอาทิตย์ต้นเดือน
/ วันมหาปูชนียาจารย์ ณ ห้องแก้วสารพัดนึก
ปรับกาย
ตั้งใจนั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ปรือๆ ตานิดๆ
อย่าให้เปลือกตาปิดสนิทเกินไป พอสบายๆ
ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้รู้สึกสบาย ต้องสบาย
ต้องผ่อนคลาย
แล้วก็ทำใจให้ใสๆ ใจเย็นๆ ใจไม่ให้ไปเกาะ ไปเกี่ยว ไปเหนี่ยว
ไปรั้งเรื่องอะไรทั้งสิ้น ที่จะทำให้เกิดความยินดียินร้ายอะไรต่างๆ
เหล่านั้นแบบโลกๆ ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ทิ้งทุกอย่างปล่อยวางทุกสิ่ง
วางใจ
แล้วก็รวมใจกลับเข้าไปสู่ภายใน หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ หรือจำง่ายๆ
ว่า อยู่ในบริเวณกลางท้อง ค่อยๆ ประคองใจให้หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ อย่างเบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ
ใจเย็นๆ
บริกรรมนิมิต
จะกำหนดบริกรรมนิมิตเป็นดวงใสๆ หรือองค์พระใสๆ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ที่เราคุ้นเคย
หรือจะนึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ก็ได้
เพราะวันนี้เป็นวันมหาปูชนียาจารย์ท่านละสังขารวันนี้ เราถนัดอย่างไหนก็เอาอย่างนั้น
หรืออย่างไหนนึกง่ายเราก็เอาอย่างนั้นไปก่อน ให้เริ่มต้นจากสิ่งที่ง่ายๆ
ที่พอเรานึกปุ๊บก็ชัดแจ่มมาในกลางกายเราเลยอย่างง่ายๆ ให้เอาอย่างนั้นไปก่อน
หรือถ้านึกเป็นภาพแล้วมันอดจะทำให้เราตั้งใจเกินไปไม่ได้ อดที่จะไปบีบ
ไปเค้น ไปเน้นภาพให้ได้ จะวางใจเฉยๆ นิ่งๆ อย่างเดียวก็ได้ ถนัดอย่างไหน
ชอบอย่างไหนเราก็เอาอย่างนั้นไปก่อน
บริกรรมภาวนา
พร้อมกับประคองใจให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ ว่า สัมมาอะระหังๆๆ
ทุกครั้งที่ภาวนา เราก็นึกถึงภาพดังกล่าวควบคู่กันไปด้วย จะเป็นภาพดวงใสๆ
หรือองค์พระใสๆ หรือพระเดชพระคุณหลวงปู่ทองคำอะไรก็ได้
ประคองใจกันไปอย่างนี้จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง
ความตายไม่มีนิมิตหมาย
ต้องฝึกให้คล่องให้ชำนาญนะลูกนะ ในช่วงที่ร่างกายเรายังพอไหว
ยังมีเรี่ยวมีแรง ยังแข็งแรงกันอยู่ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวของเรา แล้วเราจะต้องเตรียมความพร้อมเสมอ
ต้องพร้อมเสมอตลอดเวลา เพราะความตายไม่มีนิมิตหมาย จะมาเมื่อไรก็ไม่ทราบ เหมือนพุทธบุตรที่ไปทำหน้าที่มอบเหรียญให้กับผู้ที่มาโปรยดอกดาวรวยต้อนรับพระธุดงค์ธรรมชัย
อยู่ๆ ก็หมดอายุขัยไปเฉยๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เจ็บป่วยไข้อะไร ยังแข็งแรงอยู่ และที่สำคัญคือ
ตอนตายมันตายตรงนี้แหละ ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ที่เรากำลังฝึกอยู่ตรงนี้แหละ
ถ้าจิตผ่องใสไม่เศร้าหมองสุคติเป็นที่ไป
ถ้าเศร้าหมองไม่ผ่องใสก็ตรงกันข้าม ทุคติเป็นที่ไป เราจึงต้องให้ความสำคัญกับตรงนี้
เพราะเกี่ยวกับตัวของเราตรงนี้แหละ
ฝึกให้คล่องให้ชำนาญ เมื่อถึงวันวันนั้นมาถึง เราจะได้เดินทางออกจากกายมนุษย์หยาบไปอย่างสง่างามโดยไม่หวาดหวั่นต่อมรณภัย
ตายก่อนตายได้ และเลือกที่จะไปอยู่ภพภูมิไหนก็ไปได้ ถ้าใจเราใสๆ
สว่างไสวจนกระทั่งเห็นความบริสุทธิ์เป็นดวงใสๆ หรือองค์พระใสๆ
กลับดุสิตได้ อย่างน้อยต้องได้ดวงใส
โดยเฉพาะหมู่คณะของเรามีเป้าหมายไปพักกลางทางที่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์
ใจต้องใสอย่างเดียว ต้องเห็นความบริสุทธิ์ปรากฏเกิดขึ้นในกลางกาย
อย่างน้อยต้องเป็นดวงใสๆ อย่างน้อยต้องอย่างนี้
ถ้ายิ่งเข้าถึงพระธรรมกายก็มั่นใจได้ว่า ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ เป็นที่พักกลางทางสำหรับเรา
เพราะฉะนั้นต้องให้ความสำคัญกับการทำใจหยุดใจนิ่ง โดยไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง
และเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้นว่า เราไม่พร้อมบ้าง ไม่ว่างบ้าง ติดธุระอะไรต่างๆ
เหล่านั้นบ้าง เพราะมันเกี่ยวกับตัวของเรา นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ
สุขของผู้ประพฤติธรรม
โดยเฉพาะจะเป็นที่อยู่ของใจเรานะ เราจะมีธรรมเป็นเครื่องอยู่เป็นสุข
คือ มีดวงธรรมใสๆ หรือพระธรรมกายใสๆ เป็นที่อยู่ของใจอย่างเป็นสุข คือ
ความทุกข์ทั้งหลายเข้าไปตรงนี้ไม่ได้ ความทุกข์จะดับไปเมื่อใจหยุดนิ่งในกลางดวงใสๆ
หรือกลางองค์พระใสๆ
ดวงธรรมนี้แหละ พระธรรมกายนี่แหละเป็นเครื่องอยู่เป็นสุขของผู้ประพฤติธรรม
คือ ปฏิบัติธรรมะฝึกใจให้หยุดให้นิ่งก็จะเข้าถึงความสุขภายใน
ซึ่งเป็นที่ยินดีของพระอริยเจ้า ของบัณฑิต ของนักปราชญ์ทั้งหลาย ของผู้รู้ ผู้ตื่น
ผู้เบิกบานแล้ว จะยกย่องสรรเสริญว่า
ธรรมดวงนี้ที่อยู่กลางกายของเราเป็นเครื่องอยู่เป็นสุขจริงๆ ยิ่งกว่าสิ่งใดๆ
ทั้งสิ้นในโลก ที่ชาวโลกเขาติดเขาข้องกันอยู่
เพราะฉะนั้น ยังมีเรี่ยวมีแรงอยู่ ต้องหมั่นฝึกเอาไว้ให้คล่องให้ชำนาญ
ทำบ่อยๆ ซ้ำๆ ใจก็จะคุ้นและก็เคย และก็ชินไปในที่สุด จะคุ้นเคยชินถ้าเราทำบ่อยๆ
ไม่ว่าเรื่องความดี หรือความชั่ว ทำบ่อยๆ ก็จะเสพคุ้นกันไป
แต่นี่เป็นเรื่องของความดี ความบริสุทธิ์ ทำบ่อยๆ ใจจะบริสุทธิ์ผ่องใสมีความสุข
วิธีชะลอความแก่
และจะทำให้เรามีความเป็นหนุ่มเป็นสาวที่ยาวกว่าปกติ อายุก็จะยืนยาว
ไม่สั้น ยกเว้นว่ามีวิบากกรรมหนักมาตัดรอนเท่านั้น แต่ก็หนักเป็นเบา เบาเป็นหาย ร้ายกลายเป็นดี
ถ้าเรารักษาใจตรงนี้ได้จะยืดความเป็นหนุ่มเป็นสาวออกไป
ชะลอความแก่เฒ่าชราไปได้ อายุจะยืนยาว ไม่สั้น
จะทำให้เราสร้างบารมีได้ยาวกว่าปกติกว่าคนที่ใจขุ่นมัวเศร้าหมอง มีเครื่องกังวล
มีพันธนาการของชีวิตเยอะแยะ
ถ้าเราฝึกกันไปอย่างนี้ให้สม่ำเสมอ จนกระทั่งเราคุ้น เราเคย แล้วก็ชิน
กระทั่งเป็นอุปนิสัย อัธยาศัย อย่างนี้แล้วละก็ แม้เราจะมีภารกิจหยาบต้องทำมาหากิน
ทำมาค้าขาย ทำมาสร้างบารมี เราก็จะมีหลุมหลบภัยจากความทุกข์ความวิตกกังวล
จะมีป้อมปราการที่ปกป้องชีวิตของเราให้พ้นจากความทุกข์ทรมาน ความวิตก ความกังวล
เศร้าซึมเซ็งเครียดเบื่อกลุ้มได้
ใจหยุดได้บุญมาก ได้บุญประณีต
ใจหยุดนิ่งนี่แหละจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต้องฝึกบ่อยๆ ซ้ำๆ อีกทั้งจะทำให้เราได้กลั่นจิตกลั่นใจของเราให้ใสๆ
เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่เกิดขึ้นแล้วก็ตาม
หรือจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต หรือกำลังเกิดอยู่ขณะนี้ได้อย่างเหมาะสม จะได้บุญมาก
บุญประณีต
เมื่อบุญมาก บุญประณีต สมบัติก็ประณีต รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ
คุณสมบัติจะประณีต
รูปสมบัติที่ประณีต คือ ร่างกายจะแข็งแรง
อายุยืนยาว ได้สร้างบารมีไปนานๆ รูปก็งาม อายุก็ยืน แข็งแรง สดชื่น มีรูปสมบัติมาก
เป็นที่ถูกอกถูกใจของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
ทรัพย์สมบัติก็เช่นเดียวกัน จะประณีต จะมีมากมาย
จะตักไม่พร่อง เมื่อเราเอาใจหยุดนิ่งอยู่ที่กลางกายตรงนี้แหละ
คุณสมบัติความฉลาด เฉลียวฉลาด ความรอบรู้
รู้รอบด้าน อย่างน้อยก็สองด้าน ด้านดีด้านชั่ว ด้านถูกด้านผิด ด้านมืดด้านสว่าง
ด้านบุญด้านบาป ด้านมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์ เป็นต้น ทุกด้านจะแจ่มแจ้ง
ใจหยุดจึงเป็นสิ่งสำคัญทีเดียว เป็นตัวสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม
จิตของเราจะมีพลังเมื่อหยุดนิ่งที่กลางกาย ไม่ว่าคฤหัสถ์ หรือว่าบรรพชิต จะมีพลัง
จะมีอานุภาพมาก เพราะธาตุในตัวจะถูกกลั่นให้ใส ให้สะอาด ให้บริสุทธิ์ ธาตุดิน น้ำ
ลม ไฟ วิญญาณอากาศธาตุ จะบริสุทธิ์เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จะกลั่นจิตกลั่นใจให้ใสๆ
เมื่อความบริสุทธิ์มารวมกันเป็นมวลแห่งความบริสุทธิ์มากเข้า
สิ่งแวดล้อมจะดีตามไปด้วย ดิน อากาศ ฟ้า ผู้คน สิ่งแวดล้อม ต้นหมากรากไม้ ผลหมากรากไม้ก็มีรสโอชา
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับจิตอันบริสุทธิ์ ที่มีพลังมวลใหญ่จากการรวมตัวกันเยอะๆ
มากลั่นจิตกลั่นใจให้ใสๆ นี่เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ทีเดียว
จนกระทั่งถึงการบรรลุธรรม บรรลุมรรคผลนิพพาน
หรือความลับของชีวิตถูกเปิดเผยออก ถูกเปิดเผยให้เราได้แจ่มแจ้งขึ้น ก็อยู่ที่การฝึกให้ใจหยุดใจนิ่งนี่แหละ
ให้ใจใสๆ
ทบทวนบุญ
อีกทั้งจะทำให้บุญของเราที่ทำผ่านมา อย่างสมมติบุญวันนี้
ตั้งแต่ตักบาตรเรื่อยมา กระทั่งบูชาข้าวพระ
ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทานแด่ภิกษุสามเณรผู้ประพฤติธรรม เป็นต้น
บุญที่เราทำมีปริมาณหนึ่ง เมื่อใจหยุดนิ่งแล้วปริมาณนั้นจะมากขึ้น
จะทับทวีเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ดวงบุญเล็กก็จะขยายใหญ่ขึ้น
ดวงบุญที่ใสพอประมาณก็จะใสสว่างกระจ่างยิ่งขึ้น ดวงบุญในดวงบุญก็จะทับทวีมากเข้า
นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญทีเดียวที่มันเกี่ยวกับตัวของเรา
ชีวิตจะสูงส่งได้ต้องอาศัยมีบุญมากๆ จะประสบความสำเร็จในชีวิต
ทั้งทางโลกทางธรรมก็อาศัยมีบุญมากๆ นี่แหละ เพราะฉะนั้นใจหยุดจึงเป็นตัวสำเร็จ
ต้องฝึกซ้ำๆๆ กัน ให้ถูกหลักวิชชา ต้องสบาย ต้องผ่อนคลาย ต้องใจใสๆ ใจเย็นๆ
พอใจเริ่มปล่อยวาง ข้างในก็จะเริ่มโล่งว่าง เหมือนอยู่ที่กว้างๆ
พอเราได้อารมณ์นี้ เราก็ต้องรอให้ได้ ทำเฉยๆ รอความพร้อมของใจ คือ รอเฉยๆ นิ่งๆ นุ่มๆ
ใจเย็นๆ จนกระทั่งใจพร้อม พอพร้อมเดี๋ยวมันก็เข้าไปสู่ข้างในเอง เคลื่อนเข้าไปเอง
ใจจะใสๆ ใจจะเย็นๆ อย่างนี้
ทำถูกวิธี
ความพร้อมเราสังเกตตรงนี้ ถ้าเราทำถูกหลักวิชชา คือ
ตัวมันจะหายไปเหมือนเราไม่มีร่างกาย อย่างน้อยใจมันนิ่งๆ ไม่คิดเรื่องอะไรเลย
ใจมันว่างๆ เป็นกลางๆ ไม่ยินดีไม่ยินร้าย ไม่เกาะ ไม่เกี่ยว ไม่เหนี่ยวไม่รั้งอะไรเลย
พอถึงตรงนี้ให้เรานิ่งต่อไป ทำเฉยๆ เดี๋ยวมันก็แวบเข้าไปข้างในเลย
ฝึกตรงนี้นะลูกนะ ฝึกให้ดีทีเดียว เวลาที่เหลืออยู่นี้ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
(ปฏิบัติธรรม)
อุทิศส่วนกุศล
ให้ใจนิ่งๆ นุ่มๆ สบายๆ
เวลาเราจะนึกอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษบุพการี
หรือผู้ที่เป็นที่รักของเรา จะให้ได้บุญแรง ให้ผู้ที่ละโลกไปแล้วได้บุญเยอะๆ
ใจต้องนิ่งอยู่ตรงนี้ ตรงกลางนี่แหละ นิ่งสบายๆ
แล้วเราก็นึกถึงบุญที่เราทำผ่านมา
อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษบุพการี ผู้ที่เป็นที่รักของเรา
จะไปอยู่ในภพภูมิใดก็ตามที่รับบุญได้ ถ้ารับไม่ได้บุญก็จะไปคอยอยู่
แต่ที่รับได้ก็จะได้รับ คือมีทุกข์มากก็จะทุกข์น้อย
ทุกข์น้อยก็จะพ้นทุกข์ สุขน้อยก็จะสุขมากขึ้น สุขมากขึ้นก็เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ นี่ถ้าใจเรานิ่งอยู่ตรงกลาง
ต้องฝึกให้คล่องให้ชำนาญ ให้ใจใสๆ เพราะผู้ที่ละโลกไปแล้วต้องการบุญเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าจะภูมิของสุคติหรือทุคติ ต้องการบุญอย่างมาก เพราะหมดโอกาสในการสั่งสมบุญแล้ว
จะสั่งสมบุญได้เฉพาะที่มีกายมนุษย์หยาบ
ดังนั้น ถ้าเรารักบรรพบุรุษบุพการีของเรา หรือใครก็ตามที่เรารัก
อยากให้เขามีความสุขมากๆ หรือพ้นทุกข์เร็วๆ ต้องทำอย่างนี้แหละจ้ะ ให้ใจนิ่งๆ
นุ่มๆ ใสๆ พออารมณ์สบาย ใจใสๆ ก็นึกน้อมเอาบุญนี่แหละอุทิศไปให้
ต้องทำอย่างนี้แหละจึงจะถูกหลักวิชชา
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565