เมื่อใดที่ลูกลิ้ม รสธรรม
ลูกจักต้องจดจำ กว่าม้วย
อร่อยรสทุกคำ ล้ำเลิศ
ลูกจักลิ้มได้ด้วย หยุดไว้กลางกาย
ตะวันธรรม
รสแห่งธรรม
เลิศกว่ารสทั้งปวง
อาทิตย์ที่
๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖
Link ไฟล์เสียงนำนั่งสมาธิใน youtube
ง่ายแต่ลึก 1 |EP.15| :รสแห่งธรรมเลิศกว่ารสทั้งปวง
(เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปตั้งใจเจริญสมาธิภาวนากันนะ............)
หยุดเป็นตัวสำเร็จ หยุดอย่างเดียว ให้มีสติ สบาย สมํ่าเสมออยู่ภายในนะ
เดี๋ยวมันก็จะถูกส่วนไปเอง นั่งให้นิ่ง ๆ นุ่ม ๆ ละมุนละไม เดี๋ยวก็ทำได้กันทุกคน
มันยากแต่ไม่มาก ยากพอสู้ด้วยความเพียรอย่างถูกหลักวิชชา
ด้วยฉันทะคือรักที่จะทำ เพราะเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าทำแล้วมีความสุข มีปีติ ความเพียร
ก็จะเกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องใช้ความพยายาม ความเพียรจะเกิดขึ้นมา
ใจจะจดจ่อทั้งวันทั้งคืนในทุกกิจกรรม มันอยากจะทำให้ได้
อยากจะเข้าถึงอยากให้ดีกว่านี้ แล้วก็จะค่อย ๆ สังเกตไปเรื่อย ๆ ว่า
ทำอย่างไรถึงจะหยุดนิ่งได้สมบูรณ์ จะเห็นได้ชัดใสสว่าง เข้ากลางคล่อง นี่อิทธิบาท
๔ ก็จะมาตอนนี้ละ
สิ่งนี้มีความสำคัญกับชีวิตเรามาก ๆ ถ้าทำได้ทำเป็นจะเห็นภาพภายใน
เราจะอัศจรรย์ใจในธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
คำแนะนำสั่งสอนของท่านช่างดีเลิศประเสริฐจริง ๆ
ที่ทำให้เราไปรู้ไปเห็นสิ่งที่มีอยู่ในตัว
ซึ่งเป็นแผนผังในชีวิตติดกันมาตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
เราจะยิ่งอัศจรรย์ใจว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปรู้ไปเห็นมาได้อย่างไร
ท่านรู้เห็นแล้วทำไมท่านไม่หวงนะ กลับให้คำแนะนำที่ดี ๆ ให้เราได้เข้าถึงอย่างท่าน
ดีอย่างท่าน เก่งอย่างท่าน
ปกติคนเราจะหวงความรู้ที่จะให้คนอื่นเก่งเท่ากับตัวหรือเหมือนตัวแต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่เป็นอย่างนั้น
ไม่หวง แล้วยังสอนให้เห็นตามท่านอีกด้วย
และจะอัศจรรย์ใจอีก
เพราะเข้าถึงแล้วรู้รสชาติของการเข้าถึงว่ารสแห่งธรรมชนะเลิศกว่ารสทั้งปวง
รสเปรี้ยวหวานมันเค็มที่ลิ้นกระทบรสอาหารเครื่องดื่ม สู้รสแห่งธรรมไม่ได้
หรือรสชาติของการได้เห็นของสวย ๆ งาม ๆ
ทำให้ใจปลื้มก็ยังสู้รสที่เห็นธรรมภายในไม่ได้เลย
หรือรสชาติที่ได้ยินเสียงเพราะ ๆ ชวนให้สนุกสนานเบิกบาน
ยังสู้รสของการเข้าถึงตรงนี้ไม่ได้เลย หรือรสชาติของกลิ่นหอม ๆ
ที่ทำให้เกิดความพึงพอใจยังไม่สู้การเข้าถึงธรรมตรงนี้
ซึ่งมีรสชาติในการให้ความพึงพอใจมากกว่านั้น
หรือรสชาติแห่งการสัมผัสสิ่งที่นุ่มนวล เสื้อผ้า หรือกามกิเลสเพศสัมพันธ์
หรืออะไรต่าง ๆ เหล่านั้น มันสู้รสชาติในการเข้าถึงธรรมตรงนี้ไม่ได้เลย
มันเบิกบานกว้างขวางกว่ากันเยอะ
รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
ธรรมารมณ์ ซึ่งมีรสมีชาติทำให้มนุษย์ตรึงติดเอาไว้
เมื่อมาเทียบกับรสชาติในการเข้าถึงธรรม แค่ธรรมเบื้องต้นธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานก็เลิศประเสริฐกว่าแล้ว
ยิ่งเข้าถึงดวงศีลดวงสมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ
ก็ยิ่งเพิ่มพูนทับทวีขึ้นไป
ยิ่งเข้าถึงกายมนุษย์ละเอียดยิ่งมีรสมีชาติหนักเข้าไปอีกเข้าถึงกายทิพย์
พรหม อรูปพรหม กระทั่งถึงกายธรรม มีรสมีชาติเลิศขึ้นไปเรื่อย ๆ
เหมือนเถาปิ่นโตหลาย ๆ ชั้น เปิดชั้นแรกมีอาหารว่าอร่อยแล้ว ยกชั้นแรกออกไป
ชิมชั้นที่สองอร่อยเพิ่มขึ้น ยกชั้นที่สองออกไปชิมชั้นที่สามอร่อยหนักเข้าไปอีก
นี่ตั้ง ๑๘ ชั้น รสชาติก็จะยิ่งอร่อยขนาดไหน
ยิ่งเข้าถึงกายธรรมอรหัตเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายธรรมก็จะอุทานเหมือนพระมหากัปปินะ
โอ สุขจังเลย คือพึงพอใจจังเลยชอบจังเลย
นี่คือสิ่งที่ลูกทุกคนจะต้องทำให้ได้ในชีวิตนี้
ไม่ได้ก็ยอมตายล่ะ สู้ก็ตาย ไม่สู้ก็ตาย ก็มันต้องตายกันอยู่แล้ว ก็ต้องทำกันไป
ก่อนที่เราจะตายต้องให้ไปชิมรสชาติของธรรมกายซะก่อนว่า มีรสมีชาติเป็นอย่างไร
ถ้ารู้รสชาติการเข้าถึงธรรมกายใจจะผ่องใส ไม่เศร้าหมอง
มีสุขตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่ ตายแล้วยิ่งสุขยาวนานกว่าในสุคติโลกสวรรค์
นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะต้องฝึกกันให้ได้
อย่าไปให้ความสำคัญกับกิจอื่นมากเกินไป บริหารเวลาให้เป็น เวลาจะดูหนังดูละคร
จะเที่ยวเตร่สนุกสนาน เอามาทำตรงนี้ ทำเป็นแล้วจะสนุกกว่าดูหนังดูละครเสียอีก
ส่วนข่าวคราวเราก็ติดตามได้ เลือกสรรเฉพาะที่จำเป็นต้องรู้หรือควรรู้
ข่าวอะไรไม่ควรรู้ ไม่ต้องรู้ เราก็ผ่านไป
นี่บริหารเวลาของชีวิตที่เหลืออยู่อย่างจำกัดนี้ให้เป็น
ถ้าเข้าถึงธรรมกายแล้วเราจะมีชีวิตอยู่อย่างผาสุก สุขทั้ง ๆ
ที่ยังมีชีวิตอยู่นี่แหละ สุขอย่างพูดไม่ออกบอกไม่ถูกทีเดียว
ให้ชีวิตนี้ได้มีโอกาสเปล่งคำว่า สุขจังเลย ชอบจังเลย พึงพอใจจังเลย ให้ได้รู้รสรู้ชาติกัน
อย่าไปท้อถอยในยามที่เรายังทำไม่ได้ ขอให้ได้ทำเถอะเดี๋ยวเราก็จะทำได้
มันก็ค่อย ๆ เป็นไปเรื่อย ๆ ละเอียดไปเรื่อย ๆ ได้เรียนรู้กันไปเรื่อย ๆ
ได้สัมผัสที่ละเอียดกับสภาวธรรมที่เข้าถึงไปเรื่อย ๆ ฝึกไปทำไป
หมั่นสังเกต
แล้วก็หมั่นสังเกต อย่านั่งโดยไม่สังเกต สังเกต หมายถึง เออ
วันนี้นั่งแล้วรู้สึกดีจังเลย สบายจังเลย เราทำอย่างไร ให้จำวิธีการเอาไว้
ทำอย่างนี้แล้วไม่ฟุ้ง ไม่ง่วง ทำอย่างนี้แล้วมันไม่แคบ ไม่อึดอัด
ไม่มึน ไม่ซึม ไม่ตึง ทำอย่างนี้แล้วสบาย ทำอย่างนี้แล้วเบิกบาน
ทำอย่างนี้นั่งแล้วรู้สึกว่า เวลาหมดไปเร็วเหลือเกิน อยากนั่งอยู่นาน ๆ ก็สังเกตเอาไว้เราทำอย่างไรจึงได้อย่างนี้
แล้วก็ทำอย่างนี้ซํ้า ๆ ไปเรื่อย ๆ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า ภาวิตา พหุลีกตา ทำบ่อย ๆ
ทำเนือง ๆ ทำซํ้า ๆ ณ จุดที่ทำ ต้องสังเกตนะลูกนะ สังเกตอย่างนี้ดี
อย่าไปสังเกตจ้องจับผิดใคร อย่างนั้นไม่ดีไม่เกิดประโยชน์อะไร หมดเวลาแล้ว
มาสังเกตตรงนี้ดีกว่า ว่าเราทำถูกไหมหรือยังไม่ถูก หรือถูกแล้วแต่ยังไม่สมบูรณ์
หรืออย่างนี้สมบูรณ์ พอสังเกตอย่างนี้เดี๋ยวเราก็จะนั่งดี จะปลื้มอกปลื้มใจ
จะมีปีติมีความภาคภูมิใจว่า คนทะเล่อทะล่าอย่างเราก็ทำเป็นกับเขาเหมือนกันนะ
เลยเผลอไป ไม่ทำ เว้นไป ๒ วัน ๓ วัน ไปให้ความสำคัญกับเรื่องอื่น
พอมีอารมณ์ก็กลับมาทำใหม่ อ้าว ไม่ได้อย่างเดิมซะแล้วนี่อย่าชะล่าใจนะลูกนะ
เรายังฝึกใหม่อยู่ แม้จะฝึกมานานแค่ไหนเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี เป็นหลาย ๆ ปี
แล้วก็ตาม ก็ยังได้ชื่อว่าเป็นผู้ฝึกใหม่อยู่ ยังไม่ชำนาญ
แม้คนที่ทำชำนาญแล้วเขายังทำซํ้า ๆ กันไปเรื่อย ๆ อย่างนั้นแหละ
นี่ต้องอย่างนี้ แล้วจะทำเป็น ทำเป็นแล้วจะมีความสุข สุขมาก ๆ
ชีวิตเกิดมาในชาตินี้ก็สมหวัง จะทำบุญ ทำทาน
รักษาศีลจะมีอานิสงส์มากยิ่งกว่าธรรมดา ทำน้อยได้มาก ทำมากก็ยิ่งทับทวี
เพราะว่าเราทำด้วยใจที่ละเอียด ที่บริสุทธิ์ ที่หยุดนิ่ง นี่หลักวิชชาสำคัญนะลูกนะ
ต้องจำให้ดีทีเดียว หมั่นสังเกตให้ดีนะ
ให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวกันทุก ๆ คน
ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบ ๆ นะ
วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2565