เพียรอย่างถูกหลักวิชชา
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ มีนาคม
พ.ศ. ๒๕๔๙ (๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.)
งานบุญวันอาทิตย์ ณ สภาธรรมกายสากล
ปรับกาย-วางใจ
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะจ๊ะ
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ รวมใจของเราไปหยุดนิ่งๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ
นึกถึงบุญ
นึกถึงบุญทุกบุญที่เราทำผ่านมา
ตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ นับภพนับชาติไม่ถ้วนมากระทั่งถึงปัจจุบันนี้
ที่เป็นความดีล้วนๆ บุญล้วนๆ มารวมตัวกันเป็นดวงบุญใสๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ใสเหมือนกับเพชรที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิเลย สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน
หรือยิ่งกว่านั้น
ให้หยุดใจนิ่งๆ
นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ให้หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ลงไปอย่างสบายๆ ตรงกลางของดวงบุญใสๆ ที่สว่างไสว
เหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แล้วก็ใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ซึ่งอยู่กลางท้องของเราเหนือสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ ให้หยุดใจไปอย่างสบายๆ
นี่คืองานที่แท้จริงของเรา ที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ในแต่ละภพ แต่ละชาติ
มาเพื่อที่จะแสวงหาความหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ
จะพ้นได้ต่อเมื่อเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว
จะเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวได้ ต้องอาศัยหยุดกับนิ่ง
เพียรอย่างถูกหลักวิชชา
ต้องหมั่นฝึกฝนอบรมใจกันไปทุกวัน
ฝึกไปเรื่อยๆ อย่าไปท้อแท้ ท้อถอยว่า ทำไมมันไม่ได้ผลอย่างที่เราตั้งใจไว้
หรือเหมือนคนอื่นเขาบ้าง ต้องหันมาพิจารณาตัวของเราเองอย่างจริงจังว่า ทำถูกหลักวิชชาไหม
ค่อยๆ ทบทวนไป
ตั้งแต่เริ่มการปรับร่างกาย
การผ่อนคลาย การวางใจเบาๆ การไม่คาดหวังว่าเราจะเห็นหรือได้อะไร ดูว่ามันถูกต้องไม่สมบูรณ์แค่ไหน
แล้วดูว่า เราตั้งใจเกินไปไหมบ้าง หย่อนไปไหม มีตึงกับหย่อนนี้แหละ ถ้าปรับใจให้อยู่ในระดับเป็นกลางๆ
ต้องเข้าถึงทุกคน
นั่งแล้วต้องมีความสุข แม้ยังไม่ได้เห็นแสงสว่างภายใน หรือดวงธรรมภายใน
ถ้าถูกต้อง ต้องมีความสุข ตั้งแต่สุขเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นกำลังใจ หรือเป็นรางวัลสำหรับการนั่งหลับตาทำสมาธิ
ทำให้มีกำลังใจหรือปรารถนาที่จะนั่งต่อไป
สังเกตดู
ถ้ามีความสุขมันจะเป็นไปเอง มาดูตรงนี้ว่าทำถูกหลักวิชชาไหม ถ้าถูกหลักวิชชามันก็ต้องได้ทุกคน
เรามีความเพียรอย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า
ข้าวกล้าในนา
แม้จะเขียวชอุ่ม ถ้าไม่หมั่นดูแลรักษา มันก็ตายได้ การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน ใจเพิ่งจะเริ่มต้นตั้งหลักได้
เหมือนเป็นกล้าอ่อนๆ หน่ออ่อนๆ ของธรรมะ เราได้ดูแลอย่างดี อย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า
ใกล้ชิดหรือเปล่า
เหมือนปลูกต้นไม้
มันก็ต้องให้เงาของตัวเราไปทับต้นไม้ทุกวันเลย แปลว่า ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด สนิทสนม
และหมั่นสังเกตจะได้พบเหตุแห่งความบกพร่อง ช่องทางแห่งความสำเร็จ
โดยย่อคือ ถูกหลักวิชชาไหม ทำความเพียรสม่ำเสมอทุกวันหรือเปล่า อย่างน้อย
๒ ประการ ถ้าทำถูกหลักวิชชา สม่ำเสมอ เอาใจจดจ่อกันจริงจังแล้ว ที่ไม่ได้ เป็นไม่มี นี่คือข้อสังเกต
ที่เราจะต้องสังเกตกันทุกวัน
ถ้านั่งจริงแล้วต้องได้ผลกันทุกคน
อย่างที่ได้ยินได้ฟังประสบการณ์ภายในของผู้ฝึกฝนใหม่ ซึ่งทำไปตามหลักวิชชาซึ่งบอกพวกเราทุกๆ
ครั้งที่พบกัน เขาก็ทำตามนั้น แล้วเขาก็ได้ผล มันจะผิดแผกแตกต่างไปจากนั้นไม่ได้ มันต้องทำอย่างนี้
จึงจะเป็นทางลัดที่สุด เร็วที่สุด ง่ายที่สุด สะดวกสบายที่สุด
ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรม
ปรับใจฝึกให้ได้ทุกสภาวะอากาศ
หนาว ร้อน อบอ้าว ฝนตก แดดออก หรือมีภารกิจเครื่องกังวลแค่ไหน ต้องฝึกให้ได้ในทุกอิริยาบถ
นั่ง นอน ยืน เดิน ฝึกกันไป เพราะความตายไม่มีนิมิตหมาย เราต้องพร้อมเสมอสำหรับการเดินทางไปสู่ปรโลก
ด้วยใจที่ผ่องใส
ใจจะผ่องใส ไม่เศร้าหมอง ต้องอาศัยการฝึกฝน เราจะชะล่าใจไปทำตอนที่เราใกล้จะหมดลมนั้น
ได้ชื่อว่า ประมาทชะล่าใจเกินไป ต้องฝึกไป นั่ง นอน ยืน เดิน
ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติธรรมให้มากๆ
นอกจากความสุข และความบริสุทธิ์ของดวงจิตที่จะเกิดขึ้นกับเราแล้ว ยังเป็น มหัคคตกุศล เป็นบุญใหญ่ ที่มากกว่าการสร้างถาวรวัตถุใดๆ
ไม่ว่าโรงเรียน โรงพยาบาล โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ เพราะว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นี้เป็นหนทางไปสู่มรรคผลนิพพาน
เดินตามรอยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
อย่าท้อถอย
ฝึกไปเรื่อยๆ ค่อยๆ ประคับประคองใจ ให้อยู่ในแวดวงของกาย มีปริมณฑลที่เรากำหนดไว้อยู่กลางท้อง
เป็นปริมณฑลของใจ เป้าหมาย คือ ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ใจอยู่ในปริมณฑลนี้ ใจจะไม่แลบไปดึงดูดเอาความทุกข์เข้ามา จะอยู่ในวงกาย
อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ นี่เป็นสิ่งที่เราต้องฝึกฝน
ถ้าเราทำเป็น
หยุดนิ่งได้ อย่างน้อยได้ดวงธรรมใสๆ หรือองค์พระใสๆ แม้เป็นกุศลนิมิตก็ตาม เราก็มีความสุข
โดยไม่ขัดแย้งกับภารกิจประจำวัน มันจะสอดคล้องกลมกลืนกับภารกิจประจำวันได้
ภายนอกเคลื่อนไหว
ภายในหยุดนิ่ง
ภายนอกเคลื่อนไหว
แต่ภายในหยุดนิ่ง เห็นดวงใสแจ่ม หรือเห็นองค์พระใสแจ่ม มันจะทำไปด้วยกันได้ ปากพูด
หูฟัง ตาดู จมูกดม มือไม้เคลื่อนไหว แต่ภายในหยุดนิ่ง มันจะสอดผสานกลมกลืน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ระหว่างการหยุดนิ่งกับการเคลื่อนไหว
ถ้าเราทำอย่างนี้ได้ชีวิตก็มีพลัง
มีประสิทธิภาพในทำทุกภารกิจ ไม่ว่าภารกิจในการศึกษาเล่าเรียน การทำมาหากิน มันจะสอดคล้องกันไป
เหมือนผู้มีบุญในกาลก่อน อย่างท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี มหาอุบาสิกาวิสาขา เป็นต้น ท่านก็มีธุรกิจมากมาย
แต่ภายในท่านก็เป็นกายธรรมพระโสดาบัน เป็นพระอริยบุคคลชัดใสแจ่มตลอดเวลา
มหาอุบาสิกาวิสาขา
เข้าถึงกายธรรมพระโสดาบัน ตั้งแต่อายุ ๗ ขวบ ต่อมาครองเรือน มีภารกิจมากมาย มีลูกชาย
๑๐ คน หญิง ๑๐ คน ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับชีวิต แล้วยังเป็นกำลังสำคัญในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกด้วย
หยุด นี่แหละเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ฝึกใจหยุดนิ่ง ถ้าข้างนอกเคลื่อนไหว
ภายในหยุดนิ่ง ชีวิตของเราจะเปลี่ยนแปลงใหม่ไปในทางที่ดีขึ้น จะมีสิ่งที่ช่วยให้เราได้วินิจฉัย
ตัดสินใจ คาดการณ์อะไรถูกต้องแม่นยำเพิ่มขึ้น มีส่วนช่วยสนับสนุนให้เราเกิดความสุขและความสำเร็จในชีวิต
ประโยชน์ของการทำสมาธิ
เราจะต้องให้ความสำคัญ
และนึกถึงประโยชน์ของการทำสมาธิ ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวของเราได้ดีขึ้น ตั้งแต่หลับเป็นสุข
ตื่นเป็นสุข นั่ง นอน ยืน เดิน เป็นสุข ใบหน้าสดใส มีวรรณะ เหมือนมีรัศมีอยู่ในตัว
เป็นที่ดึงดูดตา ดึงดูดใจของเพื่อนมนุษย์
คำพูดจะมีพลัง
ทั้งๆ ประโยคเดิม ถ้อยคำเดิม แต่ถ้าพูดมาจากแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ แหล่งแห่งความสมปรารถนา
คำพูดนั้นก็จะสมปรารถนาไปด้วย จะได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจ ไว้วางใจว่า ถ้าเอาใจไปวางไว้ตรงนี้ก็มั่นใจได้
กระแสแห่งความบริสุทธิ์
ความสุขที่เกิดจากการทำสมาธิจะขยายไปรอบด้าน จะขจัดสิ่งที่เป็นมลทินในบรรยากาศ ทั้งคน
สัตว์ สิ่งของ ให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ตามไปด้วย เราจะอยู่เหนือสิ่งแวดล้อมได้ ควบคุมได้ทั้งคน
สัตว์ สิ่งของ ให้อยู่ในอาณาจักรแห่งความสุข ความเบิกบาน ไม่ว่าจะการเรียน การทำงานต่างๆ
เมื่อเราสว่าง
โลกก็สว่างด้วย
เราต้องให้ความสำคัญ
ฝึกไปเรื่อยๆ อย่างสบายๆ เราได้ยินได้ฟังผู้ที่เขามีประสบการณ์ภายใน มาถ่ายทอดให้ธรรมทาน
เล่าสู่กันฟัง พูดถึงความสุขในการได้เข้าถึงดวงธรรมภายใน หรือพระภายในเมื่อใจหยุดนิ่ง
เราก็ได้ยินได้ฟังกันมาแล้ว
สักวันหนึ่ง
ความเพียรอย่างถูกหลักวิชชาที่เราทำต่อเนื่อง มันก็จะปรากฏเกิดขึ้น และเราเองจะเป็นผู้เล่าประสบการณ์ภายในนี้ให้แก่เพื่อนมนุษย์ทั้งหลายทั่วโลกได้ฟัง
วันนั้นเราจะมีส่วนสำคัญในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นกับโลกใบนี้ สร้างแรงบันดาลใจ
ให้กับเพื่อนมนุษย์ทุกๆ คนได้ดำเนินชีวิตได้ถูกต้อง นี่เป็นสิ่งที่เราต้องสอนตัวของเราเอง
ตอนนี้เราหยุดใจให้ใสๆ
ก่อนที่จะได้สร้างมหาทานบารมีกันต่อไป หรือมารับของขวัญหรือมหาสุวรรณนิธิ เพื่อจะนำไปอธิษฐานจิตหล่อองค์พระแสนองค์แสนปลื้ม
ในวันคุ้มครองโลก
รวมใจให้หยุดนิ่ง
เบาๆ สบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายเรา ให้ผ่อนคลาย ให้ใจเบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้สะอาด
ให้บริสุทธิ์ ผ่องใส คลายความผูกพันทุกสิ่ง แล้วก็หยุดนิ่งๆ อยู่ภายในศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ นะลูกนะ
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565