• label
  • Home

นำนั่งสมาธิ โดย หลวงพ่อธัมมชโย

  • Home
  • Search
  • Title
  • Label
  • List
Menu
2550 นึกให้หายฟุ้ง 500304D รอบบ่าย

นึกให้หายฟุ้ง 500304D รอบบ่าย

 

วิธีนึกให้หายฟุ้ง

วันอาทิตย์ที่  ๔  มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๐(๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.)

งานบุญวันอาทิตย์ ณ สภาธรรมกายสากล


ปรับกาย-ปรับใจ-วางใจ


ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ หลับตาเบาๆ พอสบายๆ อย่าถึงกับปิดเปลือกตาสนิท เหมือนปรือๆ ตานิดๆ หลับพอสบายๆ ถ้าเราหลับตาเป็น เดี๋ยวกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเราจะคลี่คลาย

 

แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ  นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมาสองนิ้วมือ หรือจำง่ายๆ ว่า อยู่ในกลางท้อง

 

นึกถึงบุญ

 

เราก็นึกถึงบุญทุกบุญที่เราทำผ่านมา ตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แล้วสร้างบารมีเรื่อยมานับภพนับชาติไม่ถ้วน มาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ ให้มารวมเป็นดวงบุญใสๆ อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ใสเหมือนกับเพชรที่ต้องแสงใสๆ มีประกายเจิดจ้า สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน  แต่ว่าใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ สว่างอยู่กลางกายของเรา

 

แก้ฟุ้งด้วยการนึกนิมิตไปตามฐานทั้ง ๗

 

เราปรับตรงนี้ ปรับเปลือกตา ปรับการหลับตากับการนึกถึงดวงบุญใสๆ เหมือนกับเพชร ขนาดไหนก็ได้นะ นึก เบาๆ สบายๆ และเราก็ทดลองเคลื่อนย้ายดวงบุญ ใสๆ ย่อส่วนให้เหลือขนาดสักปลายนิ้วก้อย

 

เราลองเลื่อนไป ฐานที่ ๖ อยู่ในกลางท้องของเรา ระดับสะดือ และก็ปรับการหลับตาของเรา เวลาเรานึก ลองค่อยๆ ดู แล้วก็ท่องภาวนา สัมมาอะระหังๆๆ

 

เลื่อนมา ฐานที่ ๕ มาที่ปากช่องคอ เหนือลูกกระเดือก ค่อยๆ เลื่อน เราลองเลื่อน แล้วก็ตรึกนึกถึงความใสของดวง นึกเรื่อยๆ สัมมาอะระหังๆๆ

 

แล้วก็มา ฐานที่ ๔ เพดานปาก ช่องปากที่อาหารสำลัก สัมมาอะระหังๆๆ

 

เลื่อนมาที่กลางศีรษะ ระดับเดียวกับหัวตาเรา เป็น ฐานที่ ๓ ประคองดวงใสๆ ดวงบุญ สัมมาอะระหังๆๆ

 

และเลื่อนมาที่หัวตา หญิงซ้าย ชายขวา เป็น ฐานที่ ๒ สัมมาอะระหังๆๆ

 

เลื่อนมาที่ปากช่องจมูก หญิงซ้าย ชายขวา ซึ่งเป็น ฐานที่ ๑ จ่ออยู่ที่ปากช่องจมูกเลย เอาดวงขนาดพอที่จะลอดช่องจมูกได้

 

เราลองฝึกไป พร้อมกับการหลับตาที่ไม่ตึง ผ่อนคลาย สัมมาอะระหังๆๆ

 

นึกเป็นภาพไปเลย นึกเป็นดวงใสๆ ขนาดลอดช่องจมูกได้ เพื่อที่จะฝึกการหลับตา และการนึกภาพให้มันสอดคล้องกลมกลืนกันเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่มีการขมวดคิ้ว ไม่มีการบีบเปลือกตา ไม่มีความตั้งใจมากเกินไป แล้วลองปรับตรงนี้ให้สบาย

 

แล้วจาก ฐานที่ ๑ เราค่อยๆ เลื่อนไป ฐานที่ ๒ ที่หัวตา เลื่อนไปช้าๆ ปรับเปลือกตา หรือลืมลูกนัยน์ตาไปเลยก็ได้ เหมือนเรามองหลังเปลือกตานั้นแหละ มองดูดวง จนไม่สนใจการหลับตา สัมมาอะระหังๆๆ นี่นึกอย่างนี้ สมมติเวลาเราฟุ้ง เราก็หาเรื่องคิด แทนที่จะคิดเรื่องอื่น เราก็มานึกถึงดวงบุญใสๆ

 

แล้วก็เลื่อนมาที่ ฐานที่ ๓ โดยค่อยๆ ช้อนตาเหมือนตาเหลือกค้างขึ้นไป เพื่อที่จะให้ความเห็นกลับเข้าไปในตัว มาที่กลางกั๊กศีรษะ ระดับเดียวกับหัวตาของเรา สัมมาอะระหังๆๆ

 

เลื่อนมาที่เพดานปาก ฐานที่ ๔ ช่องปากที่อาหารสำลัก ค่อยๆ นิ่ง นุ่ม เบา สบาย นึกถึงดวงใส ความใส สัมมาอะระหังๆๆ

 

เลื่อนมาที่ปากช่องคอเหนือลูกกระเดือก ฐานที่ ๕ ตามภาพเลย จับภาพไป อย่าให้คลาดจากใจ แต่ต้องเบา สบาย สัมมาอะระหังๆๆ

 

แล้วก็เลื่อนลงไปเหมือนกลืนเข้าไปไว้ในท้องเลย ค่อยๆ เคลื่อนตามดวงไปเลย ไปหยุดนิ่งอยู่ที่กลางท้องระดับเดียวกับสะดือของเรา  ฐานที่ ๖  สัมมาอะระหังๆๆ ปรับเปลือกตาให้ดี หรือลืมไปเลย ผ่อนคลายไปด้วย มือ นิ้ว มันจะงอยังไงช่างมัน

 

เลื่อนถอยหลังขึ้นมา ยกสูงมาที่ ฐานที่ ๗ กลางท้อง เหนือสะดือขึ้นมาสองนิ้วมือ สัมมาอะระหังๆๆ

 

เราจะเลื่อนกลับไปกลับมาอย่างนี้ กี่รอบก็ได้ ถ้าฟุ้งมาก เราก็หลายรอบหน่อย แต่ตอนสุดท้ายต้องมาอยู่ที่ฐานที่ ๗ ตรงนี้ หรือทำอย่างนี้แล้วยังฟุ้ง ก็เผยอเปลือกตาขึ้นมานิดหนึ่ง หลับไปใหม่ ประคองใจให้ใสๆ สัมมาอะระหังๆๆ ทำอย่างนี้

 

ทุกสรรพสิ่งล้วนไปสู่จุดสลาย

 

แต่ถ้าทำอย่างนี้แล้วยังฟุ้งอีก เราก็หาเรื่องคิดที่เกิดประโยชน์ต่อเรา คือ คิดไปตามความเป็นจริงของสรรพสัตว์ และสรรพสิ่งทั้งหลาย ที่พระพุทธเจ้าท่านแทงตลอดในสิ่งเหล่านี้มาด้วยสัพพัญญุตญาณของพระองค์ท่านว่า

 

คน สัตว์ สิ่งของ มีวิญญาณครอง หรือไม่มีวิญญาณครอง มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต จะเป็นอะไรที่นอกเหนือจากนี้ ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมสลายไป ต้องผุต้องพังหมด จะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ

 

คน เราก็เห็นบรรพบุรุษของเราล้วนตายหมด แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเป็นพระบรมศาสดาของเรา มีบารมี ๓๐ ทัศ เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ได้ลักษณะมหาบุรุษ สมบูรณ์ด้วยวิชชา จรณะ มีตาทิพย์ หูทิพย์ ระลึกชาติได้ มีฤทธิ์ทางใจ แสดงอิทธิฤทธิ์ได้ กระทั่งทำอาสวะให้สิ้น ยังต้องดับขันธปรินิพพาน นับภาษาอะไรกับเรา บารมียังไม่เท่าท่าน ก็ต้องตายแน่ เราก็นึกไป

 

เราห้ามความคิดอะไรไม่ได้ ให้มาคิดเรื่องนี้ คน สัตว์ สิ่งของ ตายหมด สิ่งของก็พังหมด ต้นไม้ตาย บ้านเรือนผุพัง รถรา ถ้วยโถโอชาม ต้นไม้ ภูเขา พังหมด

 

          แม้แต่โลกใบนี้ ก็ต้องถึงกัปวินาศ ด้วยดิน ด้วยไฟบรรลัยกัลป์ ลมบรรลัยกัลป์ น้ำบรรลัยกัลป์ ดินบรรลัยกัลป์ เหลือแต่วิญญาณอากาศบรรลัยกัลป์ยังไม่เกิด ไฟไหม้ถึงสวรรค์ ยังไหม้หมดเลย ไปถึงพรหมโลกในระดับหนึ่ง ตั้งแต่ปาริสัชชา มหาพรหมา ปุโรหิตา เป็นต้นนับประสาอะไรกับเรา

 

พระอรหันต์ เหาะเหินเดินอากาศได้ยังถูกจับถอดกาย และนับประสาอะไรกับเราจะไปเหลืออะไร มหาปูชนียาจารย์ของเราดูสิ ท่านเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกาย ยังถูกพญามารถอดกายได้ นับประสาอะไรกับเรา มันจะไปเหลืออะไร คิดอย่างนี้ได้แล้ว ใจมันก็จะได้คลายความผูกพันกับทุกสิ่ง

 

พอคลายความผูกพันทุกสิ่ง ใจก็จะกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ฟุ้ง ไม่กระเจิง และก็มาเริ่มต้นใหม่นึกถึงดวงใสๆ

 

ทบทวนบุญ

 

เมื่อใจเกิดธรรมสังเวชสลดใจแล้ว เราก็มานึกถึงดวง ซึ่งเกิดจากบุญที่เราทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา หรือในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ อะไรก็นึกไป หรือในบารมี ๑๐ ทัศ หรือบุญที่เราพอนึกได้ เช่น กฐิน ผ้าป่า โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ ถวายภัตตาหาร คิลานเภสัช สร้างศาสนวัตถุ ศาสนสถาน ช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์อะไรต่างๆ เหล่านี้ โดยเราเรียงไปเลย ตั้งแต่ทำทานกับสัตว์เดรัจฉาน กับมนุษย์ คนยากคนจน คนทุศีล คนมีศีล๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐  ศีล ๒๒๗

 

นี่เป็นวิธีคิด ที่ทำให้ใจเราชุ่ม พอใจเรารู้สึกเบิกบานนี้แล้ว มานึกถึงดวงใหม่ ปรับร่างกาย ปรับเปลือกตา นึกถึงดวงใสๆ เห็นไหมว่า มันจะทำให้เราบันเทิง เกิดความอาจหาญ ร่าเริง เบิกบานในธรรม นี่เราก็ทำอย่างนี้

 

พิจารณาร่างกาย เกิดธรรมสังเวช

 

แล้วก็นึกถึงดวงใสๆ สัมมาอะระหังๆ ไปเรื่อยๆ ถ้ามันหลุดแวบไปอีก มานึกถึงร่างกายของเราแล้ว จะนึกถึงผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็นกระดูก เยื่อในกระดูก อาการ ๓๒ มันต้องผุ มันต้องพัง แล้วคิดตั้งแต่ภายนอกร่างกายเรา เข้าไปหาข้างในเลย

 

ผม อยู่ข้างนอก แต่เดิมมันก็สีสวยสดงดงาม ต่อไปมันก็แปรไป เปลี่ยนไป หลุดล่วงไป ขนเหมือนกัน เล็บก็เช่นเดียวกัน ฟันที่ว่าเป็นของเรา มันไม่จริงเลย ของเรามันก็ต้องเชื่อฟังเรา อยู่กับเราตลอด แต่นี่เดี๋ยวฟันนั่นหลุด ฟันนี้ถอนอะไรต่างๆ สารพัด จะคิดในแง่มันผุมันพังหรือมันเป็นปฏิกูลอะไร เราก็นึกได้ทั้งนั้นแหละ

 

ผิวหนัง ตอนเด็กๆ ก็สวยสดงดงาม พอกาลเวลาผ่านไปก็เปลี่ยนแปลงไป เหี่ยวย่นไม่สวยไม่งาม มีกระ มีฝ้า นี่นึกได้ตลอดเลย ถ้าลอกออกไปทีละชั้นๆ หนังชั้นนอก ชั้นใน กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก อวัยวะภายใน จับเอามากองที่โน่นที่นี่ แยกย้ายกระจัดกระจายกันไป ดูไม่ออกว่าเป็นคน หรือว่าเป็นใครนะ เพราะว่ามันกระจัดกระจายกันไปหมด


นึกบ่อยๆ ก็จะปล่อยวางได้


นี่มีวิธีนึกตั้งหลายวิธี ที่จะแก้ความฟุ้ง ถ้ามันรุนแรงมาก นึกอย่างนี้บ่อยๆ เข้า ใจก็จะยอมรับความเป็นจริงของสรรพสัตว์และสรรพสิ่ง  เมื่อมีการพลัดพรากจากไป หรือประสบในสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก หรือปรารถนาอะไรมันก็ไม่ได้ดังใจ มันได้ตามกำลังบุญของเรา

 

จากทุกข์มากมันก็ทุกข์น้อย จากทุกข์น้อยมันก็ไม่มีทุกข์ และใจก็จะเกลี้ยงๆ มันจะเห็นว่า โลกนี้ว่างเปล่า ไม่มีอะไรเป็นสาระแก่นสาร ไม่มีอะไรใหม่

 

เราเคยเกิด เคยแก่ เคยเจ็บ เคยตาย เคยพลัดพรากจากสิ่งที่รัก ประสบสิ่งที่ไม่เป็นที่รัก ปรารถนาสิ่งใดก็ไม่ได้ได้สมหวังทุกอย่าง มีความโศกเศร้าเสียใจ คับแค้นใจ ร่ำพิไร รำพัน อะไรต่างๆ นานา ซ้ำๆ ซากๆ

 

นึกอย่างนี้ ก็จะช่วยคลายความฟุ้งได้ พอมันคลายแล้ว ไม่ใช่ไปคิดตลอดเวลา คิดแค่ให้คลายความผูกพัน ยึดมั่นถือมั่น เมื่อถึงระดับหนึ่งแล้ว เราก็ต้องมาปล่อยวางความคิดนั้น แล้วก็มาจับเริ่มที่ดวงใหม่ จะเริ่มจากฐานไหนก่อนก็เอา แต่ตอนสุดท้ายก็มาอยู่ที่ฐานที่ ๗ อยู่นิ่ง

 

ฝึกให้มันคุ้นเลย แต่เดิมเราใช้เวลาคิดในสิ่งเหล่านั้นเป็นชั่วโมง  แต่พอเราฝึกบ่อยๆ แค่นาทีเดียว ก็คิดว่า ทุกอย่างมันต้องผุต้องพังหมด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมสลายหมด ก็สลดใจแล้ว ใจก็จะใสๆ แม้ยังไม่เห็นอะไร แต่ว่ามีความพร้อม ที่จะนึกถึงภาพดวงใสๆ

 

หรือมองคนสัตว์สิ่งของ มันก็เห็นไปอย่างนั้นแหละ สักแต่ว่าเห็น มันก็จะเป็นไปเอง หรือได้ยินเสียงอะไรต่างๆ ที่แต่เดิมเรา เคยยินดียินร้าย มันก็สักแต่ว่าได้ยิน  กลิ่นก็เหมือนกันแต่เดิมได้กลิ่นแล้ว มีความยินดียินร้าย ชอบใจ ไม่ชอบใจ พอเราฝึกบ่อยๆ มันได้กลิ่นก็อย่างนั้นแหละ จะดู จะโดน จะเป็นอะไรต่างๆ ก็เป็นอย่างนั้น

 

เพราะฉะนั้น ใจก็จะกลับเข้ามาสู่ที่ตั้งดังเดิม ก็จะมาหยุดนิ่งอยู่ภายใน พอใจเรานิ่งดีแล้ว ต่อจากนี้ไป ไม่ต้องไปคิดอย่างนั้นอีกแล้ว เมื่อใจมีความพร้อมที่จะนึกถึงดวงได้ต่อเนื่องแล้ว เราก็มานึกถึงดวงใสๆ ภาวนา สัมมาอะระหัง เรื่อยไป ภาวนาเท่าที่จำเป็น  ถ้าหมดความจำเป็นในการภาวนา เราก็ไม่ต้องภาวนาต่อไป


สภาวธรรมภายใน

 

เมื่อใจรวมได้แล้ว คือ พอเรานึกกลางกาย มันก็ปึ๊บเข้ามาอยู่ในกลางกายของฐานที่ ๗ นี้ เราก็นิ่งอย่างเดียว เพราะ หยุดเป็นตัวสำเร็จ นิ่ง นุ่ม เบา สบาย

 

เมื่อใจละเอียด ใจมันใสแล้ว ดวงก็จะค่อยๆ ชัดขึ้นมาเอง ในระดับที่เรายอมรับได้ว่า นี้คือการเห็น ไม่ใช่การนึก เห็นเหมือนเราเห็นวัตถุภายนอก คราวนี้ใจก็ตั้งมั่นแล้ว มีอารมณ์เดียวเป็นเอกัคคตารมณ์แล้ว ใจจะเป็นกลางๆ มีอุเบกขา และก็มีสุขด้วย สุขเวทนาก็เกิดมาพร้อมๆ กันเลย

 

นั่งแล้วต้องสุขสบาย จะมีแต่สุขเพิ่มขึ้น

เจอขั้นตอนตั้งแต่ ความทุกข์  มาแปรเป็นไม่สุขไม่ทุกข์  แล้วตอนสุดท้ายก็เป็นสุข กระทั่งท้ายสุดก็บรมสุข นี่คือ

นิพพานํ ปรมํ สุขัง  นิพพานเป็นบรมสุข

สุขเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ สุขอย่างเดียว

 

เราก็ดูไป เรื่อยๆ ใจก็จะใสติดนิ่งแน่นอยู่กลางดวง ดวงก็จะขยายออกไป ใจก็จะเคลื่อนเข้าไปในกลางดวง ก็จะมีดวงใหม่ผุดขึ้นกลางดวงเก่า จนสุดดวงก็จะถึงกาย ในกลางกายก็มีดวงอีกชุดหนึ่ง ก็จะสลับกันไปอย่างนี้

 

ในกายหยาบมีดวง ในดวงก็มีกาย ในกายก็มีดวง ไปอย่างนี้ สลับไปเรื่อยๆ ในดวงมีกาย ในกายมีดวงใสๆ  กระทั่งถึงองค์พระใสๆ นุ่มนวลละมุนละไม องค์พระก็ใสแจ่มกระจ่างกลางกาย

 

พอเราแนบแน่นกับศูนย์กลางกายของท่าน ก็เห็นไปรอบตัวเลย รอบทิศทุกทิศทุกทาง ไม่เหมือนมองห่างๆ แล้ว ธรรมจักขุเกิดขึ้นตอนที่แนบแน่นกับท่าน เป็นหนึ่งเดียวกับท่านนะ มีความรู้สึกเป็นพระอะไรอย่างนั้น  นิ่งแน่น แนบแน่น แล้วคราวนี้ก็จะแน่นในแน่นเข้าไปเรื่อยๆ

 

องค์พระก็จะผุดผ่านซ้อนขึ้นมา ใจเราก็ยิ่งบริสุทธิ์ ยิ่งหลุดพ้น ยิ่งหยุด ยิ่งนิ่ง ก็ยิ่งดิ่งไม่หยุด หลุดพ้นไปเรื่อยๆ องค์พระก็โตใหญ่ขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะใสในใสๆ  สว่างในสว่างๆ สุขในสุขๆ ด้วยกายเวทนาจิตธรรม เขาเดินกันอย่างนี้ เดินเข้าใน เข้าไปเรื่อยๆ กายในกายๆๆ  เกิดขึ้นเอง เมื่อเรานิ่งในนิ่งๆ หรือหยุดในหยุดๆ หยุดเข้าไปเรื่อยๆ หยุดของมันเอง ไม่ต้องไปท่องเลย มันหยุดนิ่งใสสว่าง นี่ลองทำดูนะ  

 

เพราะฉะนั้น จะนึกเรื่องอะไรให้เกิดธรรมสังเวช เอานึกเท่าที่จำเป็นนะ พอเพียงพอแล้ว เราก็เลิกนึก หันกลับมานิ่งกลางกายสลับกันไปอย่างนี้ สำหรับคนที่ฟุ้งเก่งๆ นะ

 

ถ้าใครง่วงเก่งๆ ก็ต้องลืมตาก่อน ปรือๆ ตา นึกถึงแสงสว่างภายใน แสงจะได้แยงตาได้ ส่วนมากก็จะมีอยู่แค่ตึงเกินไปกับหย่อนเกินไปแค่นั้นเองสลับกันไป

 

ฝึกกันไป เดี๋ยวจะสมหวังกันทุกคน เพราะทุกคนมีทุนเดิมบุญเก่าเยอะอยู่แล้ว มากมายกายกอง ขนาดหลังงาน งานติดกันยังมาวัดอย่างนี้ ถือว่ามีบุญมาก ที่ไม่ให้อะไรเป็นอุปสรรค ข้ออ้าง ข้อแม้ เงื่อนไข ที่จะไม่มาวัด บุญมากเพียงพอ เหลือแต่ปรับวิธีการให้เป็นไปอย่างที่ว่าไว้นี่แหละ เดี๋ยวเราจะมีความสุข จะมีความสุขมาก

Add Comment
2550
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565
  • Share
  • Share

Related Posts

Newer Older 🏠

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

Translate

นำนั่งสมาธิโดยหลวงพ่อธัมมชโย

  • ▼  พ.ศ.2565 (362)
    • ▼  เดือน สิงหาคม (233)
      • ๔ ส. สำเร็จ/เราเป็น ศูนย์กลางของจักรวาล 470102C รอ...
      • วิธีใช้บุญ/ความพร้อม ไม่มีในโลก 500708D รอบบ่าย
      • ทำลาย สุสานแห่งความกลัว 450621F รอบค่ำ
      • มีความสุขทุกวันแม้วันตาย 500527D รอบบ่าย
      • ม้าพยศ 450910F รอบค่ำ
      • วิธีปฏิบัติให้เข้าถึงประสบการณ์ภายใน 540724D รอบบ่าย
      • รสแห่งธรรมเลิศกว่ารสทั้งปวง 460112D รอบบ่าย
      • คิดพูดเรื่องละเอียดใจละเอียด 450909F รอบค่ำ
      • ประสบการณ์หนึ่งนาทีที่ใจหยุดนิ่ง 471114D รอบบ่าย
      • ยากตรงหยุดแรก 481225D รอบบ่าย
      • นิวรณ์5_Let it be 480116D รอบบ่าย
      • แผ่เมตตา และอธิษฐานจิต 500804F รอบค่ำ
      • มองผ่านๆ 451009F รอบค่ำ
      • ง่ายจึงจะถูกวิธี 520412C รอบสาย
      • ชีวิตที่ถูกหลอก 460824C รอบสาย
      • อารมณ์สบายอย่าฟังผ่าน 450928F รอบค่ำ
      • สติกับสบาย 361107C รอบสาย
      • หยุดเป็นตัวสำเร็จ 450620F รอบค่ำ
      • ประโยชน์ของสมาธิ 540102D รอบบ่าย
      • ฐานที่ ๗ ตำแหน่งของผู้รู้ 540522D รอบบ่าย
      • สิ่งดีๆเริ่มต้นเมื่อใจหยุด 490709D รอบบ่าย
      • ใจหยุดหลุดพ้นทุกข์ 560707C รอบสาย
      • เราเกิดมาเพื่อแสวงหาธรรม 590327D รอบบ่าย
      • บุญจะได้ช่องเมื่อใจเราสบาย 590222D รอบบ่าย
      • สุขอื่นยิ่งกว่าใจหยุดนิ่งไม่มี 590306D รอบบ่าย
      • โอวาทปาติโมกข์ 590222E รอบเย็น
      • อย่ามองข้ามความสบาย 590207D รอบบ่าย
      • กายสบายใจสบายก็ง่ายนิดเดียว 590101D รอบบ่าย
      • ประสูติตรัสรู้ปรินิพพานตำแหน่งเดียวกัน 580601E รอบ...
      • พิธีจุดไฟแก้วสดุดีนักรบกองทัพธรรม 580510E รอบเย็น
      • ยังแข็งแรงอยู่ต้องหาที่พึ่งให้เจอ 580405D รอบบ่าย
      • อานุภาพของดวงบุญ 580304D รอบบ่าย
      • ทบทวนบุญบูชาข้าวพระ 570706D รอบบ่าย
      • ความสุขในกลาง 520906D รอบบ่าย
      • เข้าถึงธรรมได้วิเศษที่สุด 590403D รอบบ่าย
      • ใจกับกายหนึ่งเดียวกัน 570101D รอบบ่าย
      • ปริญญา DOU 560707D รอบบ่าย
      • พระผู้ปราบมารพยานตรัสรู้ธรรม 560714D รอบบ่าย
      • นึกถึงหลวงปู่ หลวงปู่นึกถึงเรา 560512D รอบบ่าย
      • เชื่อมสายบุญกับหลวงปู่พระผู้ปราบมาร 560505D รอบบ่าย
      • สร้างบุญกับหลวงปู่บุคคลผู้เลิศ 560519D รอบบ่าย
      • ธรรมกายคือเป้าหมายชีวิต 560414D รอบบ่าย
      • หยุดนิ่งอย่างเดียว 560428D รอบบ่าย
      • ทำความเพียรอย่างถูกหลักวิชชา 560331D รอบบ่าย
      • ชาวพุทธที่แท้จริง 560317D รอบบ่าย
      • อานิสงส์หยุดเป็นตัวสำเร็จ 560203D รอบบ่าย
      • ปีใหม่สร้างบารมีให้เข้มข้นขึ้น 560101D รอบบ่าย
      • ความตายไม่มีนิมิตหมาย 551223D รอบบ่าย
      • ความลับของชีวิต 551209D รอบบ่าย
      • ตามรอยพุทธองค์ 551125D รอบบ่าย
      • ป้อมปราการของชีวิต 551014D รอบบ่าย
      • ตกระแสธรรม 551028D รอบบ่าย
      • จุดเทียนใจ 550902D รอบบ่าย
      • แก้วกายสิทธิ์ 550826D รอบบ่าย
      • หาพระในตัวให้เจอ 550819D รอบบ่าย
      • อธิปไตยในตัว 550708D รอบบ่าย
      • บวชเรียนเพื่อพ้นโลก 550715D รอบบ่าย
      • การบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า 550422C รอบสาย
      • เข้าถึงธรรมง่ายถ้าใจปล่อยวาง 550408D รอบบ่าย
      • บูชาหลวงปู่ด้วยพวงมาลัยดอกมะลิ 550401D รอบบ่าย
      • สิ่งอัศจรรย์ 550415D รอบบ่าย
      • โอวาทปาติโมกข์ 550307E รอบเย็น
      • อานิสงส์ตักบาตรในเส้นทางพระผู้ปราบมาร 550311D รอบบ่าย
      • บุญอยู่เบื้องหลัง 550318D รอบบ่าย
      • ภาพในกลางดวงบุญ 550325D รอบบ่าย
      • ทางมรรคผลนิพพาน 550219D รอบบ่าย
      • ทางรอด 550212D รอบบ่าย
      • ต้องยึดศูนย์กลางกายให้ได้ 550129D รอบบ่าย
      • ฉลองชัยชิตัง เม 550125E รอบเย็น
      • V-Starครั้งที่6 550128E รอบเย็น
      • เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ 541211D รอบบ่าย
      • หยุดนิ่งอย่างเดียว 541218D รอบบ่าย
      • ทำไมต้องสถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ 541112D รอบบ่าย
      • กฐินประวัติศาสตร์ฝ่าวิกฤติน้ำท่วม 541106D รอบบ่าย
      • จิตวิญญาณพระแท้ 541120D รอบบ่าย
      • ความปลื้มสร้างทุกสิ่ง 541127D รอบบ่าย
      • ทำบุญแล้วต้องปลื้ม 540828D รอบบ่าย
      • ชีวิตในสังสารวัฏเป็นทุกข์ 540814D รอบบ่าย
      • รางวัลแห่งความเพียร 540724D รอบบ่าย
      • สุขกับเฉยไปด้วยกัน 540717D รอบบ่าย
      • ทางมรรคผลนิพพาน 540717C รอบสาย
      • พระแท้ 540710D รอบบ่าย
      • อริยสัจ4 540619C รอบสาย
      • วันวิสาขบูชา 540517C รอบสาย
      • คุ้มครองโลกอย่างถูกหลักวิชชา 540422C รอบสาย
      • วิชชา3 540424D รอบบ่าย
      • เดินธุดงค์เพื่อการบำเพ็ญสมณธรรม 540422D รอบบ่าย
      • เส้นทางมรรคผลนิพพาน 540410C รอบสาย
      • อายุพระศาสนา 540320C รอบสาย
      • คุณลักษณะที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง 540313D รอบบ่าย
      • เหลี่ยมคูพญามาร 540327C รอบสาย
      • พญามารกลัวมนุษย์หยุดใจได้ 540227C รอบสาย
      • สันติภาพโลกเริ่มต้นจากสันติสุขภายใน 540218C รอบสาย
      • การเห็นภายใน 540213C รอบสาย
      • นึกถึงบุญ 540227D รอบบ่าย
      • ความลับของชีวิต 540220D รอบบ่าย
      • พระธรรมกายภายใน 540109D รอบบ่าย
      • ง่ายจึงถูกวิธี 540109C รอบสาย
      • ความสำคัญของฐานที่7 531205D รอบบ่าย
      • วิชชา3 531219C รอบสาย
    • ►  เดือน กรกฎาคม (123)
    • ►  เดือน มิถุนายน (1)
    • ►  เดือน พฤษภาคม (5)

บทความที่ได้รับความนิยม

  • มีความสุขทุกวันแม้วันตาย 500527D รอบบ่าย
    กายธรรมควรเทิดไว้    ในใจ เป็นสรณะภายใน        เที่ยงแท้ กว่านี้ บ่ มีใด               เทียบได้ น้อมนบท่านไว้แล… อ่านต่อ
  • ๔ ส. สำเร็จ/เราเป็น ศูนย์กลางของจักรวาล 470102C รอบสาย
    จำคำนี้ “สักแต่ว่า” นะลูกเอ๋ย จะเปิดเผยสิ่งล้ำค่าให้ลูกเห็น เห็นความมืดติดตาอย่าลำเค็ญ สักแต่ว่าฉันเห็นก็เป็นพอ … อ่านต่อ
  • ทำลาย สุสานแห่งความกลัว 450621F รอบค่ำ
    กระรอกวิ่งไม่วิ่งเหมือนชะมด วิ่งแล้วหยุดร้อง “อด อด” กระดกหาง นั่งธรรมะเดี๋ยวทำเดี๋ยวทิ้งขว้าง ก็เหมือนอย่างกระ… อ่านต่อ
  • วิธีใช้บุญ/ความพร้อม ไม่มีในโลก 500708D รอบบ่าย
    ความสุขที่หยุดได้ ในกลาง เป็นสุขสุดตามทาง พุทธเจ้า สะอาดสงบสว่าง พราวแผ้ว หยุดนิ่งทุกค่ำเช้า จักได้สุดธรรม ตะวั… อ่านต่อ
  • หยุดเป็นตัวสำเร็จ 450620F รอบค่ำ
    หยุด คือสุดยอดแท้ ศาสตร์ศิลป์ หยุด พระธรรมหลั่งริน ธารแก้ว หยุด อาจเผด็จสิ้น มารพ่าย หยุด นิ่งดิ่งได้แล้ว สุขล้… อ่านต่อ
  • อานิสงส์บุญบูชาข้าวพระ 530502D รอบบ่าย
    อานิสงส์บุญบูชาข้าวพระ วันอาทิตย์ที่   ๒   พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ( ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.) งานบุญวันอาทิตย์ ณ  สภาธรรมกายสากล ปรั… อ่านต่อ
  • ตามใจเขาไปก่อน 450520F รอบค่ำ
    ตามใจเขาไปก่อน   วันจันทร์ที่  ๒๐  พฤษภาคม  พ.ศ. ๒๕๔๕    ( ๑๙.๐๐ - ๒๐.๑๕ น.)   บ้านแก้วเรือนทองของคุณยาย  สภา… อ่านต่อ
  • หยุดเป็นตัวสำเร็จ 470208D รอบบ่าย
    หยุดใจนิ่งสนิทไว้      กลางกาย เป็นจุดสำคัญหมาย            สู่เป้า ตัวสมมติถูกมลาย               สลายหมด สำเร็จ… อ่านต่อ
  • นิวรณ์5_Let it be 480116D รอบบ่าย
    หากซึ้งคำพ่อได้ สั่งสอน จงอย่าได้เกี่ยงงอน ค่ำเช้า ทั้งยืนนั่งเดินนอน หมั่นตรึก ระลึกถ้อยพุทธเจ้า ย่างก้าวเดินต… อ่านต่อ
  • สิ่งที่สำคัญที่สุด 500225D รอบบ่าย
    สิ่งที่สำคัญที่สุด วันอาทิตย์ที่   ๒๕   กุมภาพันธ์ พ . ศ . ๒๕๕๐ ( ๑๓ . ๓๐ - ๑๕ . ๓๐ น .) งานบุญวันอาทิตย์ ณ  สภาธรรมก… อ่านต่อ
นำนั่งสมาธิ โดย หลวงพ่อธัมมชโย. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ป้ายกำกับ

2536 2540 2543 2545 2546 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 กระแสธารแห่งความบริสุทธิ์ กายดั้งเดิม กายตรัสรู้ธรรม กายธรรม กายสบายใจสบาย การแก้ไขอุปสรรคการปฏิบัติธรรม การตรึก การนึกนิมิต การหลับตา การเห็นภาพ การเห็นภาพภายใน กำลังใจการปฏิบัติธรรม ความใจเย็น ความพอใจ ความมืดเป็นมิตร ความสบาย ความสำคัญของ ฐานที่ ๗ ความหมายของธรรมะ ความหมายวิปัสสนา ง่ายแต่ลึก1 ง่ายแต่ลึก2 ง่ายแต่ลึก3 ง่ายแต่ลึก4 จุดเทียนใจ จุดไฟแก้ว จุดสบาย ฐานทั้ง7 ดวงธรรม ดวงปฐมมรรค ตกศูนย์ ตถาคตคือธรรมกาย ตามติดยาย ทางเดินของใจ ทางสายกลาง ทำง่ายมาก ได้ง่ายมาก นิวรณ์5 นึกนิมิต บวชสองชั้น บวชอุบาสิกาแก้ว ประโยชน์ของสมาธิ ไปเกิดมาเกิด พระผู้ปราบมาร วันวิสาขบูชา วิชชา ๓ วิสาขบูชา ศูนย์กลางกาย ศูนย์กลางกายฐานที่7 สติกับสบาย สติสบาย สบาย สม่ำเสมอ สายตึง สายหย่อน สิ่งที่เกื้อหนุนการปฏิบัติธรรม หยุดเป็นตัวสำเร็จ หลวงปู่บรรลุธรรม เห็นไม่เห็นก็ไม่เห็นจะเป็นไร เห็นแสงสว่าง อธิษฐานจิต อนุสติ10 อวิชชา อานิสงส์ใจหยุด อานิสงส์ถวายประทีป อานิสงส์บูชาข้าวพระ อุปสรรคและวิธีแก้ไขสมาธิ โอวาทปาติโมกข์ vstar

copyright © นำนั่งสมาธิ โดย หลวงพ่อธัมมชโย All Right Reserved . Created by PhotoTheme . Powered by Blogger