นึกถึงองค์พระบ่อยๆ
วันอาทิตย์ที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย-ปรับใจ-วางใจ
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน หลับตาเบาๆ
พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้มีความรู้สึกว่า สบาย
รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบาๆ สบายๆ
บริกรรมนิมิต
ให้นึกถึงพระธรรมกายประจำตัว ที่เราได้สร้างไปแล้ว
หรือกำลังจะสร้าง นึกน้อมไว้ที่กลางกาย อย่างเบาๆ สบายๆ ชัดเจนไม่มากก็ไม่เป็นไร หรืออย่างน้อยให้ทำความรู้สึกว่า
พระธรรมกายประจำตัวอยู่ในกลางท้องของเรา ท่านนั่งเจริญสมาธิภาวนาหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา
เหมือนเรามองจากด้านพระเศียรของท่านลงไป นึกว่ามีท่านอยู่ในกลางท้องของเรา
กำลังเจริญสมาธิภาวนา กลั่นกาย วาจา ใจของเราให้ใส สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส
ให้นึกอย่างนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ค่อยๆ นึกไป
จะนึกให้เห็นท่าน ก็ต้องนึกถึงท่านบ่อยๆ
ตลอดเวลา ในทุกอิริยาบถ จากนึกได้ยากก็จะนึกได้ง่าย และต่อมาภาพที่เรานึกจะค่อยๆ
ชัดขึ้น ชัดขึ้นมาในระดับที่ใจหยุดนิ่ง แล้วเห็นชัด แจ่มกระจ่างอยู่กลางกาย คล้ายกับเราลืมตาเนื้อมองดูองค์ท่าน
จะชัดอย่างนั้น หรือเมื่อใจของเรานิ่งเพิ่มขึ้น คือ นิ่งในนิ่งๆ นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ จะยิ่งชัดมากกว่าเดิม
ชัดเพิ่มขึ้น จนกระทั่งยิ่งกว่าเราลืมตาเห็นท่าน ยิ่งคมชัด แจ่ม กระจ่างอยู่ในกลางกาย
ยิ่งเรานิ่งในนิ่ง นุ่มในนุ่มไปเรื่อยๆ องค์พระจะค่อยๆ ใสเพิ่มขึ้น จากเป็นโลหะทึบๆ
ก็จะค่อยๆ โปร่งใส แล้วก็จะใสเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ใสเหมือนกระจกใสๆ ใสเหมือนก้อนน้ำแข็งใสๆ ใสเหมือนกับเพชรใสๆ กระทั่งใสยิ่งกว่าเพชร มีแสงสว่างเกิดขึ้นในองค์พระเจิดจ้าขึ้นมาทีเดียว
จะทั้งชัด ทั้งใส ทั้งสว่างเกิดขึ้นที่กลางกายของเรา
จนกระทั่งถึงจุดนิ่งได้สนิท ท่านจะขยายออกไป
แล้วหายไปเลย จะมีองค์ใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่ที่ดีกว่าเดิมทุกด้าน ทั้งชัดในชัด ใสในใส
สว่างในสว่าง ที่มาพร้อมกับความสุข ความบริสุทธิ์ของใจ ที่เกลี้ยงเกลาจากสิ่งที่เป็นมลทินของใจ
ที่ทำให้ใจของเรานั้นมีความทุกข์ ไม่สบายกาย ไม่สบายใจ มันจะหายไป ความสุขจะมาแทนที่
สุขกายสุขใจ กายเบาใจเบาอย่างที่เราไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
และท่านจะติดแน่นอยู่ตรงนั้น ดึงดูดใจของเราให้นิ่งในนิ่ง
นิ่งในนิ่ง จนกระทั่งนิ่งแน่นเพิ่มขึ้น นิ่งหนักขึ้นไปเรื่อยๆ องค์พระท่านจะขยายออกไป
และมีองค์ใหม่ผุดเกิดขึ้นอย่างนี้ซ้ำๆ ใส สว่าง กระจ่างอยู่ที่กลางกายของเรา ให้ใจเรานิ่งอยู่อย่างนั้น
นิ่ง นุ่ม เบาสบาย ดูการผุดผ่านขององค์พระที่ผ่านกลางกายของเราขึ้นมาในแนวดิ่ง และขยายไปรอบตัว
ทุกทิศทุกทาง ขยายตามบาทอย่างนั้น ขยายกว้างออกไป และมีองค์ใหม่ซ้ำๆ อย่างนี้เรื่อยไป
องค์พระจะเริ่มมีชีวิตชีวา สวยงามยิ่งขึ้น
ประณีตยิ่งขึ้น บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งนำเราเข้าสู่พระที่สมบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ
เกตุดอกบัวตูม ยิ่งใสยิ่งบริสุทธิ์หนักขึ้นไป ต้องทำกันอย่างนี้ ดูไปเรื่อยๆ
อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้น เหมือนเวลาที่เรานั่งไปในรถ ดทิวทัศน์ เราดูไปอย่างนั้น
แต่ปริมาณความสุข ความบริสุทธิ์ จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
เตรียมใจใสรองรับบุญใหญ่
ในช่วงวันนี้
ใจของเราจะต้องอยู่กับองค์พระธรรมกายประจำตัว เพื่อที่ว่ากาย วาจา ใจ
ของเราจะได้ใส สะอาด บริสุทธิ์ เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันคุ้มครองโลก
ซึ่งในวันนั้นมีบุญพิเศษ ๒ บุญหลัก คือ หล่อองค์พระธรรมกายประจำตัว ปิดมหาธรรมกายเจดีย์
และถวายมหาสังฆทานแด่พุทธบุตรพระมหาเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ ๓ หมื่นกว่าวัดทั่วประเทศเป็นเรือนแสน
เราจะได้ถวายไทยธรรมกันในวันนั้น
การทำใจให้ตรึกระลึกนึกถึงพระธรรมกายประจำตัว
คือ การเตรียมตัวอย่างถูกหลักวิชชา อย่างที่เราได้ยินได้ฟังจนคุ้นเคย
บุญจะเกิดขึ้นกับเรามากมาย
ทั้งก่อนทำ กำลังทำในวันจริง และเมื่อเราตามระลึกนึกถึงบุญอย่างต่อเนื่อง เมื่อกำลังบุญของเราเต็มเปี่ยมเป็นดวงบุญใสๆ
เกิดขึ้นในตัวของเรา เราจะได้ที่สุดแห่งสมบัติทั้งสาม
คือ มนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติ และสมบัติทั้งสามอันประณีตจะติดตัวไปทุกภพทุกชาติ
เพราะฉะนั้น ให้หมั่นฝึก ตรึกอย่างนี้ให้ได้ทุกวันทุกคืน
ทั้งวันทั้งคืน ฝึกกันไปเรื่อยๆ ก่อนที่เราพร้อมใจกันอธิษฐานจิตทุ่ม สุดฤทธิ์ปิดเจดีย์
เราจะทำใจให้หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง พอใจใสๆ เราจะได้น้อมนำปัจจัยไทยธรรมที่เราตั้งใจนำมาสร้างมหาธรรมกายเจดีย์
มหาทานบารมีของเราในวันนี้ น้อมไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ
พระองค์นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน รวมทั้งพระอรหันต์ทั้งหลาย เพราะฉะนั้นให้ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
ให้เรานึกน้อมเอาปัจจัยไทยธรรม ที่เรานำมาสร้างมหาทานบารมีในวันนี้
น้อมไว้ในกลางองค์พระธรรมกายประจำตัว และตรึกระลึกนึกถึงได้ในทุกสภาวะต่างๆ หรือระดับต่างๆ
นั้นอย่างเบาๆ สบายๆ ทำใจให้หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ
อาราธนามหาปูชนียาจารย์ประกอบวิชชาถวายปัจจัยไทยธรรมเป็นพุทธบูชา
อาราธนามหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน มีพระเดชพระคุณหลวงปู่
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร และคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์
ขนนกยูง เป็นต้น อาราธนาให้ท่านน้อมนำปัจจัยไทยธรรมที่เรานำมาในวันนี้ น้อมถวายแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า
และพระอรหันต์ทั้งหลายในอายตนนิพพาน นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน
ให้ท่านประกอบวิชชาธรรมกาย น้อมถวายเป็นพุทธบูชาพระพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทั้งหลาย นับพระองค์ไม่ถ้วน ที่ล้วนแต่มีพระธรรมกาย หน้าตัก ๒๐ วา สูง ๒๐ วา ท่านพร้อมเป็นเนื้อนาบุญให้กับพวกเราทุกคน
ที่มีกุศลศรัทธา เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ด้วยอานุภาพแห่งมหาปูชนียาจารย์ บุญนี้จะเกิดขึ้นมากมายรวมเป็นดวงบุญใสๆ
จากทุกองค์ เหมือนศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ของเราเป็นศูนย์รวมประชุมของบุญจากพระธรรมกายพระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทุกๆ
พระองค์ เหมือนท้องทะเลเป็นที่รวมประชุมของน้ำจากห้วย หนอง คลอง บึง น้ำบนท้องฟ้า
ฝนตกอะไรอย่างนั้น น้ำฝน แต่ท้องทะเล มหาสมุทร มันเป็นน้ำขอบเขตรูปร่างหลากหลายของชายฝั่ง
แต่กลางกายมันจะเป็นดวงกลมๆ เป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในกลางกาย เป็นบ่อเกิดความสุขความสำเร็จในชีวิตของเราไปในภพชาติต่างๆ
ทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
บุญธาตุจะอยู่ภายในที่จะส่งผลดลบันดาล หรือปรับปรุงเซตโปรแกรมชีวิตให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้
เหมือนพลังงานที่บริสุทธิ์ เป็นธาตุสำเร็จที่มีอานุภาพ อยู่เบื้องหลังของสิ่งทั้งปวงที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเนื้อธรรมดา
แต่เห็นได้ด้วยธรรมจักขุของพระธรรมกาย เหมือนพระพุทธเจ้าท่านสอดข่ายพระญาณไปดูว่า จะโปรดใคร
ท่านดูกำลังดวงบุญนี้ว่า ใครจะได้รับบาตรของพระองค์
หรือใครจะบรรลุมรรคผลนิพพาน ท่านจะตรวจตราไปดูดวงบุญบารมีในตัว ของบุคคลนั้น
แต่พุทธญาณไม่มีขอบเขต มันจะขยายครอบคลุมสรรพสัตว์ สรรพสิ่งทั้งหลาย
ให้เห็นแล้วก็คำนวณกันมา ประมวลรวมกัน ดูกำลังบุญ ซึ่งจะปรับปรุงอินทรีย์ให้แก่หรืออ่อน
ถ้าอินทรีย์แก่กล้าจะได้บรรลุมรรคผลนิพพาน ดวงบุญนั้นจะสว่างเจิดจ้า บุญต่างๆ จะมารวมกัน กี่ภพกี่ชาติ
ตั้งแต่เริ่มสร้างบารมี มารวมส่งผล ดวงใสๆ ท่านใช้คำว่า อินทรีย์แก่กล้า เหมือนผลไม้ที่สุกงอมพร้อมหล่นจากขั้ว
จากต้น อินทรีย์แก่พร้อมจะหลุดจากวัฏสงสารไปสู่อายตนนิพพาน จะมองที่กำลังบุญนี้
ดวงบุญ
เพราะฉะนั้น บุญทั้งหลายที่เราทำมาจะอยู่ในกลาง
แบ่งเป็นหมวดหมู่ บุญประเภททานบารมี ศีล เนกขัมมะ ปัญญา เป็นต้น เป็นบารมี เป็นพวกๆ
แม้แต่ทานก็จำแนกแจกแจงกันไป บุญประเภทไหนก็จะส่งผลไปในทางนั้น เป็นโปรแกรมติดอยู่ในกลางกายของทุกกายเรา
เช่น ทำบุญตามลำพัง ดวงบุญก็จะส่งผลอย่างหนึ่ง
จะกลมเหมือนๆ กัน ทำด้วยตัวเองแล้วก็ไปชวนคนอื่นด้วย ระหว่างชวนให้ประกอบความเพียร
มีวิริยะ ขันติ สัจจะ ตั้งใจแน่วแน่ ออกไปทำหน้าที่ และประกอบไปด้วยดวงปัญญา เพราะต้องใช้ความคิด
สติปัญญา ที่จะชี้แจงแสดงธรรมให้เขาเกิดความอาจหาญร่าเริง เบิกบาน และอยากทำตาม
เกิดกุศลศรัทธาขึ้น ก็จะจำแนกแยกกันไปส่งผลกันไปตามลำดับอย่างนั้น ให้มีพวกพ้องบริวาร
ให้มีกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ สติปัญญา เหล่านี้เป็นต้น
ถ้าทำมาก ดวงบุญก็โตมาก
ผลก็ขยายขอบเขตออกไปมาก ทำปานกลางก็หย่อนลงมา ทำน้อยก็ได้น้อย
เป็นไปตามความประสงค์ของเรา มันก็จะอยู่ในกลางกายของเราตรงนี้
เพราะฉะนั้น บุญที่เกิดขึ้นจากการนำไทยธรรมไปถวาย
โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างมหาทานบารมีประเภทต่างๆ ให้แยกแยะกันออกไป มันจะอยู่ในตัว
และเกิดขึ้นเป็นดวงใสๆ แล้วแต่เราจะเอาบุญนี้ไปใช้ในเป้าหมายอะไรของเราเป็นพิเศษ บุญนี้จะมุ่งไปสู่ตรงนั้นสู่เป้าหมายนั้น และระหว่างทางจะมีสิ่งพิเศษต่างๆ
ดังกล่าวติดตามไปด้วย เพื่อส่งไปถึงจุดหมาย เช่น
ทำความปรารถนาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ เป็นพระอริยเจ้า บรรลุมรรคผลนิพพาน เป็นพระอัครสาวก
พระปัจเจกพุทธเจ้า พระสัพพัญญูพุทธเจ้า เพื่อไปสู่ที่สุดแห่งธรรม
ก็เป้าหมายสั้นยาวก็แตกต่างกันไป แต่บุญทั้งหมดจะส่งไปอย่างนั้นแหละ ต่อๆ กันไป
ตอนนี้บุญเกิดขึ้นกับเราแล้วในกลางกาย
ให้ลูกทุกคน ได้รวมบุญ และก็ทำใจให้ใสๆ เพื่อจะได้พร้อมใจกันอธิษฐานจิต
ทุ่มสุดฤทธิ์ปิดเจดีย์ ให้ลูกทุกคนนั่งพับเพียบ หลับแล้วก็พนมมือขึ้นพร้อมๆ กัน
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565