ง่ายจึงจะถูกวิธี
วันอาทิตย์ที่
๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ๐๙.๐๐ -
๑๑.๐๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปให้ตั้งใจให้แน่แน่ว มุ่งตรงต่อหนทางพระนิพพานกัน ทุกๆ คนนะลูกนะ
ให้นั่งขัดสมาธิ
โดยเอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย
วางไว้บนหน้าตักพอสบายๆ
หลับตาของเราเบาๆ
ค่อนลูก พอสบายๆ คล้ายกับตอนที่เราใกล้จะหลับ อย่าไปบีบเปลือกตา อย่ากดลูกนัยน์ตา
หลับตาพอสบายๆ แล้วก็ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา
ปรับใจ
ทำใจของเรา
ให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ผ่องใส ไร้กังวลในทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ให้คลายความผูกพันในสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลาย
โดยพิจารณาถึงความเป็นจริงของสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย
ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ก็จะไปสู่จุดสลาย
แม้แต่สังขารร่างกายของเราก็เป็นอย่างนี้ทุกวันทุกคืน เพราะฉะนั้นให้ปลด ให้ปล่อย
ให้วาง ให้คลายความผูกพันในช่วงที่เราจะนั่งสมาธิ เจริญสมาธิภาวนา ให้ใจของเราทิ้งทุกอย่าง
วางทุกสิ่ง
วางใจ
รวมใจไปหยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ
โดยสมมติว่า
เราหยิบเส้นด้ายขึ้นมา ๒ เส้น เรานำมาขึงให้ตึง จากสะดือทะลุไปด้านหลังเส้นหนึ่ง จากด้านขวาทะลุไปด้านซ้ายอีกเส้นหนึ่ง
ให้เส้นด้ายทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดจะเล็กเท่ากับปลายเข็ม
เหนือจุดตัดนี้ขึ้นมา ๒ นิ้วมือ เรียกว่า ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
ความสำคัญของ ฐานที่ ๗
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นที่เกิด ที่ดับ ที่หลับ ที่ตื่นของเรา
มาเกิดกระทั่งไปเกิดหรือตาย
ทั้งหลับทั้งตื่นก็ต้องเริ่มต้นอยู่ที่ตรงนี้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
อีกทั้งที่สำคัญ คือ เป็นต้นทางไปสู่อายตนนิพพาน
ทางมรรคผลนิพพานนั้นจะต้องเริ่มต้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ตรงนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทุกพระองค์ท่านจะเริ่มต้นหยุดใจของท่านตรงนี้เรื่อยไปเลย
หยุดอย่างเดียวไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งได้บรรลุมรรคผลนิพพานเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
เพราะฉะนั้น
ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ เราต้องทำความรู้จักเอาไว้ว่า ที่ตรงนี้เป็นตำแหน่งที่สำคัญที่จะต้องเอาใจมาหยุดนิ่งๆ
อยู่ที่ตรงนี้ ไม่ว่าเราจะทำภารกิจอะไรก็ตามทั้งทางโลกและทางธรรม
โดยเฉพาะทางธรรม
จะทำทานก็จะต้องเอาใจมาหยุดนิ่งอยู่ตรงนี้ ทำน้อยก็จะได้ผลบุญมาก จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์ผุดผ่อง
ก็ต้องเอาใจมาอยู่ตรงนี้ เพราะศีลบังเกิดขึ้นที่ตรงนี้ รักษา คือ ทำให้อยู่ก็ต้องอยู่ตรงนี้
จะเจริญภาวนาก็จะต้องเอาใจมาอยู่ที่ตรงนี้ ตรงนี้จึงเป็นที่ตั้งของใจเรา เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ
เป็นต้นทางของมรรคผลนิพพานก็ตรงนี้
ฐานที่ ๗ ตรงนี้จึงเป็นตำแหน่งที่สำคัญ ที่ลูกทุกคนจะต้องเอาใจใส่
เอาใจมาหยุดมานิ่งอยู่ที่ตรงนี้ให้ได้ทุกวันทุกคืน ทั้งวันทั้งคืน แล้วความบริสุทธิ์ก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา
บริกรรมนิมิต
คราวนี้เราก็นึกถึงพระธรรมกายประจำตัวเป็นบริกรรมนิมิต
เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ใกล้งานวันคุ้มครองโลก ซึ่งมีบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
ที่หลักๆ ก็ ๒ อย่างคือ การถวายมหาสังฆทานแด่พุทธบุตร ๓
หมื่นกว่าวัดทั่วประเทศเป็นเรือนแสนองค์
กับบุญที่เราจะสร้างพระธรรมกายทุ่มสุดฤทธิ์ปิดเจดีย์ ภาคบ่ายๆ
ก็เป็นพิธีหล่อพระธรรมกายประจำตัวของเรา ของบุพการีหมู่ญาติผู้ที่เป็นที่เคารพรักของเรา
ดังนั้น
ให้ลูกทุกคนนึกถึงองค์พระธรรมกายประจำตัว ที่จารึกชื่อของเราดังกล่าวนั้น ให้นึกอย่างเบาๆ
สบายๆ นึกง่ายๆ เหมือนอย่างที่เรานึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย
นึกถึงองค์พระธรรมกายประจำตัวที่หล่อเป็นโลหะสีทอง นึกเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ ค่อยๆ
นึกเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ
นึกอย่างง่ายๆ
และเราก็จะได้อย่างง่ายๆ นึกธรรมดา เพื่อให้เป็นที่ยึดที่เกาะของใจของเราเอาไว้ ให้ใจของเราอยู่กับศูนย์กลางกายฐานที่
๗ นึกถึงองค์พระธรรมกายประจำตัวเป็นสีทอง อย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ
บริกรรมภาวนา
พร้อมกับประคองใจให้หยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ สม่ำเสมอ ไม่เร็วไม่ช้านักว่า สัมมาอะระหังๆๆ ทุกครั้งที่ภาวนา
สัมมาอะระหัง เราก็จะต้องไม่ลืมตรึกระลึกนึกถึงองค์พระธรรมกายประจำตัวของเราอย่างเบาๆ
สบายๆ ง่ายๆ ใจเย็นๆ ประคองใจกันไปอย่างนี้ จนกว่าใจจะ หยุดนิ่ง
พอใจหยุดนิ่งก็จะทิ้งคำภาวนา
สัมมาอะระหัง ไปเอง ใจของเราก็จะเหลือด้วยการตรึกระลึกนึกถึงพระธรรมกายประจำตัวโดยไม่คิดเรื่องอื่นเลย
เราก็จะนึกเห็นองค์พระได้ชัดเจนอยู่ในกลางกาย ให้นึกง่ายๆ เบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ
หลับตาเป็นจะเห็นภาพภายใน
สำคัญที่หลับตาให้เป็นด้วยนะลูกนะ ถ้าหลับตาเป็น
การนึกถึงภาพองค์พระธรรมกายประจำตัวนี่ จะง่าย อย่าปิดตาแบบใช้กำลัง เหมือนเราปรือๆ
ตา เบาๆ จะทำให้เรานึกได้ง่าย เมื่อใจหยุดนิ่งทิ้งคำภาวนาไปแล้ว ภาพองค์พระก็จะเกิดขึ้น
ค่อยๆ ชัด ตั้งแต่น้อยกว่าลืมตาเห็น จนกระทั่งเท่ากับลืมตาเห็นวัตถุภายนอก
ฌานกรีฑา นึกย่อขยายองค์พระ
คราวนี้เราก็ทำ
ฌานกรีฑา คือ เรานึกสนุกๆ
ง่ายๆ เบาๆ สบายๆ นึกอาราธนาท่านให้ขยายใหญ่ขึ้น แล้วก็นึกอาราธนาท่านให้ย่อเล็กลง
ขยายให้ใหญ่ขึ้น ย่อให้เล็กลง นี่สำหรับคนที่ทำง่ายมาก
ได้ง่ายมาก แล้วนึกอย่างง่ายๆ
เมื่อเห็นภาพองค์พระชัดเหมือนลืมตาเห็นแล้ว แล้วก็นึกขยายท่านให้ใหญ่ขึ้น
ใหญ่เท่าที่จะใหญ่ได้อย่างง่ายๆ
ง่ายตลอดเส้นทาง
เราจะต้องจำไว้อย่างหนึ่งนะลูกนะ
เส้นทางสายกลางภายใน เป็นเส้นทางที่ไม่ทุรกันดาร
เป็นเส้นทางของผู้มีบุญ เพราะฉะนั้นมันจะง่าย คำว่า ยากไม่มีเลย ง่ายมาก
จนกระทั่งไปถึงง่ายแสนง่าย
ตลอดเส้นทางตั้งแต่เบื้องต้นจนกระทั่งเป็นพระอรหันต์นั่นแหละ ถ้าเริ่มยาก เริ่มตื้อๆ ตันๆ
เกร็งหรือตึง ก็แปลว่า เราทำไม่ถูกหลักวิชชาแล้ว
เรื่องยากมีเฉพาะตอนเราลืมตา
ทำกิจกรรม ทำมาหากิน ทำมาค้าขาย มีปัญหา มีแรงกดดัน นั่นแหละจ้าเรื่องยาก
แต่ในเมื่อเราหลับตาทำภาวนานี้มันมีแต่เรื่องง่ายๆ
โลกมันกลับตาลปัตรกันอย่างนี้ ระหว่างโลกภายนอกกับโลกภายใน มันเหมือนเส้นผมบังภูเขานะลูกนะ
ต้องศึกษาให้เข้าใจว่าความจริงมันเป็นอย่างนี้
ถ้าเราเริ่มหลับตาแล้วเริ่มยาก
ควานหาองค์พระ แปลว่า เราทำไม่ถูกหลักวิชชา เริ่มทุรกันดารแล้ว เริ่มยากเข็ญแล้ว ไม่ใช่เส้นทางผู้มีบุญ
หลวงพ่อขอยืนยันว่า
มันง่าย และก็ไม่เชื่อว่า ใครจะทำไม่ได้ นอกจากคนขาดสติ คนบ้า คนเมา คนตายแล้ว เป็นต้นอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นลูกทุกคนสามารถทำได้อย่างง่ายๆ แต่ต้องเอาใจใส่ ต้องขวนขวาย
ต้องมีฉันทะสมัครใจที่จะเข้าถึง ที่จะมีความสุข ที่จะมีความบริสุทธิ์
ที่จะมีจิตใจสูงส่ง ที่ปรารถนาอยากจะได้ความรู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต
ปรารถนาอยากจะดับทุกข์ หลุดพ้นจากทุกข์อย่างแท้จริงนั่นแหละจึงจะได้
ดังนั้นให้ลูกทุกคนนึกง่ายๆ
หลับตาเป็นก็จะเห็นภาพภายในอย่างง่ายๆ อุปสรรคๆ ช่วงแรก ก็จะมีแต่เรื่องฟุ้งกับตั้งใจมากเกินไปจะเป็นหลักๆ
ส่วนเรื่องหลับ ยังเป็นเรื่องรองลงมา ถ้าใจเราไม่ฟุ้งไปคิดในเรื่องคน สัตว์
สิ่งของก็ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน ค่อยๆ ฝึกฝนไป
ถ้าหลับตาเป็นก็เห็นภาพภายใน
พึงจำไว้ว่าเส้นทางภายใน
เส้นทางไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า หรืออย่างน้อยเส้นทางไปสู่ความสุขที่แท้จริง ที่จะทำให้เกิดความพึงพอใจอันสูงสุดอย่างที่เราไม่เคยเจอ
ต้องง่าย มีอยู่เฉพาะภายในเท่านั้น
เพราะฉะนั้น
เราก็ทำใจให้เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีองค์พระธรรมกายประจำตัวที่เราสร้างเอาไว้เป็นตัวแทน
นึกอย่างง่ายๆ นะลูกนะ ง่ายๆ
ถ้าเริ่มยาก แปลว่าเราเริ่มบีบเปลือกตาแล้ว กดลูกนัยน์ตาแล้ว แต่ถ้าหลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย
อย่างที่เคยบอกบ่อยๆ ซ้ำๆ นั่นแหละ ถ้าทำอย่างนั้นได้ ง่ายอย่างนั้น เดี๋ยวก็จะได้อย่างง่ายๆ
เพราะฉะนั้น
ให้ลูกทุกคนได้ตั้งอกตั้งใจประกอบความเพียรให้กลั่นกล้า ให้ถูกหลักวิชชา
เช้านี้อากาศแจ่มใสเย็นสบาย เหมาะสมที่ลูกผู้มีบุญทุกคนจะได้ประกอบความเพียร
จะได้เข้าถึงพระธรรมกายประจำตัว ขอให้ลูกทุกคนสมหวังดังใจ ในการเข้าถึงพระรัตนตรัยในตัวทุกๆ
คนนะลูกนะ ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565