เมื่อใจใสจะอยู่เหนือทุกวิกฤติ
วันอาทิตย์ที่ ๒๖ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๓.๓๐ -
๑๕.๓๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวของเราให้รู้สึกว่า
สบาย
ปรับใจ
แล้วก็ทำใจของเราให้เบิกบาน
ให้แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ไร้กังวลในทุกสิ่ง ทำใจให้เบิกบาน ให้สะอาด
บริสุทธิ์ ผ่องใส
วางใจ
แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ
บริกรรมนิมิต / การเห็นภายใน
แล้วก็นึกน้อมองค์พระธรรมกายประจำตัวที่จารึกชื่อของเรา
ประดิษฐานที่มหาธรรมกายเจดีย์ น้อมไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หรือจำง่ายๆ ว่า อยู่ที่กลางท้องของเรา
ให้ท่านหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา ให้นึกถึงท่านอย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ
นึกเหมือนกับเรานึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย นึกธรรมดาง่ายๆ และภาพองค์พระธรรมกายประจำตัวก็จะปรากฏที่กลางท้องของเรา
ซึ่งตอนนี้สำคัญ
อย่าเอาลูกนัยน์ตากดมองลงไปดู ทำตาปรือๆ แล้วก็นึกด้วยใจ
เป็นภาพทางใจ ซึ่งใหม่ๆ มันก็ไม่ได้ดังใจเรา คือ ไม่ชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์
ไม่เหมือนที่เราลืมตามองดูวัตถุภายนอก เบื้องต้น ขอให้เรานึกให้ได้เสียก่อน
นึกให้ได้อย่างง่ายๆ ไม่ชัดเจน หรือชัดเจนไม่มาก ก็ไม่เป็นไร นึกเบาๆ สบายๆ แล้วก็ค่อยๆ
นึก อย่าไปฮึดฮัด อย่าไปเค้นภาพ นึกธรรมดา ไม่ชัดก็ไม่เป็นไร
แล้วก็ทำใจให้หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง คือ นึกง่ายๆ
เบาๆ สบายๆ ให้ต่อเนื่องกันไป อย่าให้เผลอ แต่ถ้าเผลอไปแล้วก็ไม่เป็นไร
ถ้าเรารู้สึกตัวก็ย้อนกลับมานึกใหม่
ทำซ้ำๆๆ อย่างง่ายๆ สบายๆ แล้วภาพองค์พระธรรมกายประจำตัวก็จะค่อยๆ
ชัดขึ้นๆ ถ้าเราดูเฉยๆ อย่างสบายๆ ก็จะค่อยๆ ชัดขึ้น ชัดจนกระทั่งใกล้จะลืมตาเห็นบ้าง
ชัดเหมือนลืมตาเห็นบ้าง คือ ลืมตาเห็นวัตถุภายนอกอย่างไรก็เห็นองค์พระภายในอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับลูกนัยน์ตาเนื้อของเรา ภาพจะปรากฏในกลางกาย กลางท้อง
เหมือนท้องเรากลวงๆ โล่งๆ ว่างๆ เป็นปล่อง เป็นช่อง เป็นโพรงอย่างนั้นแหละ
องค์พระท่านก็จะตั้งมั่น นิ่ง หันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา
ให้เราใช้ใจตรึงภาพนั้นเอาไว้ จับภาพองค์พระอย่างเบาๆ สบายๆ
อย่าเค้นภาพเด็ดขาด ไม่ต้องไปเน้น
ให้นิ่งดูเฉยๆ จนกระทั่งกายเบา ใจเบา เดี๋ยวเราก็จะเห็นอย่างง่ายๆ เอง
มันจะชัดขึ้นมา สีทอง พอเรามองไปเฉยๆ ต่อไปเรื่อยๆ อย่างเดิม ท่านก็จะค่อยๆ
แปรสภาพเป็นทองแก้ว แล้วก็ค่อยๆ ใสบริสุทธิ์เพิ่มขึ้น จนกระแสแห่งความบริสุทธิ์ขยายมาที่กายและใจของเราให้ฟ่องเบา
เหมือนปรับสภาวะของกายให้นุ่ม เบาสบาย
ถ้าเรายังดูเฉยๆ ต่อไปอีกอย่างเดิม องค์พระก็จะยิ่งใสบริสุทธิ์
ใสเหมือนกับเพชรใสๆ และก็ใสเกินความใสใดๆ ในโลก กระจ่างขึ้น ใสจนมีแสง แสงสว่างออกมาจากกลางองค์พระ
เป็นแสงเพชรแสงแก้วที่นุ่มเนียนตา ละมุนใจ ใสบริสุทธิ์
และองค์พระจะค่อยๆ ขยายโตขึ้นมาเรื่อยๆ
ยิ่งเรามองไปตรงกลางที่เดิมที่เดียว อย่างเดียว ท่านก็ยิ่งขยายขึ้นไปเรื่อยๆ กระทั่งเท่าตัวของเรา
ใหญ่กว่าตัวของเรา ใหญ่ไปเรื่อยๆ เลย ใสบริสุทธิ์ ความรู้สึกที่ร่างกายเราก็หายไปแล้ว
เหมือนองค์พระลอยอยู่กลางอวกาศโล่งๆ ที่มีแต่กระแสความบริสุทธิ์ ความสุข ความใส
เย็น กระจ่าง ขยาย แล้วก็ย่อลงมาได้ จนกระทั่งเล็กเท่ากับปลายเข็ม
แต่ก็น่ามหัศจรรย์ที่เราก็ยังเห็นรายละเอียดของท่านได้เหมือนท่านองค์โตๆ
ฌานกีฬา
ใจยิ่งใส เย็นสบาย มีความสุขภายใน
ยิ่งเราหยุดยิ่งนิ่ง ใจยิ่งผ่านเข้าไปในกลางองค์พระที่เล็กเท่ากับปลายเข็ม ไปเจอที่เล็กกว่านั้นลงไปอีก
ยิ่งเล็ก ยิ่งชัด ยิ่งใส ยิ่งสว่าง ยิ่งเห็นรายละเอียดเพิ่มขึ้น นี่มันน่ามหัศจรรย์อย่างนี้
จะใสเย็น ความสุขก็เพิ่มมากขึ้น
พอเราแตะใจเบาๆ เข้ากลางองค์ที่เล็กๆ
ผ่านกลางเข้าไปเจอองค์ใหญ่อีกองค์แล้ว สลับกันไปอย่างนี้แหละ อย่างเบาๆ สบายๆ
เป็นฌานกีฬาสำหรับ Exercise
ใจของเราให้เข้มแข็งในการสร้างความดี อย่างมีพลังใจที่ไม่มีวันสิ้นสุด
ใจจะไม่มีห่วงกังวลอะไรเลย มีแต่ความมุ่งมั่น แน่วแน่ ที่จะไปสู่เป้าหมายที่เราตั้งใจไว้ด้วยดี
เมื่อใจใส ใจจะสูง อยู่เหนือวิกฤติ
ใจจะมีแต่อารมณ์เดียว อารมณ์ดี อารมณ์ที่ใสๆ
มีพลังที่จะสร้างความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป อยู่เหนือความรู้สึกของคนทั่วๆ ไป
เหนือวิกฤติต่างๆ คือ อารมณ์ที่วิตกกังวลมันไม่มี มีแต่ความสุข เบา สบาย
อยากทำความดี อยากสร้างบุญกุศลเพื่อตัวของเราเอง เพราะบุญกุศลเป็นบ่อเกิดแห่งความสุข
และความสำเร็จในชีวิตของเรา สิ่งอื่นไม่ใช่ เราจะมีรูปสมบัติ มีทรัพย์สมบัติ
มีคุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผลนิพพาน พวกพ้องบริวาร อะไรต่างๆ
เหล่านั้นก็ด้วยบุญนี้แหละ ความซาบซึ้งในเรื่องบุญก็จะมีมากยิ่งขึ้นเมื่อใจของเราใสๆ
แต่ถ้าใจของเราไม่ใส
และก็เสมอเหมือนกับใจของชาวโลก ก็จะตกอยู่ภายใต้ความรู้สึกวิกฤติของเศรษฐกิจ คิดฟุ้งซ่านวิตกกังวลอะไรมากมาย
เหมือนมดตัวนิดเดียว แต่เราเอาแว่นขยายไปขยายตัวมันเห็นตัวใหญ่เบ้อเร่อ ก็เลยวิตกกังวล
กลัวในสิ่งที่ตัววาดภาพเอาไว้
เพราะฉะนั้น เราก็ต้องยกใจให้สูงขึ้น ด้วยการหยุดใจให้ไปถึงสิ่งที่ไม่มี
ไม่มีวันที่จะลดกำลังใจลงมาเลย คือถึงองค์พระภายในนี่แหละ
มีแต่เพิ่มพูนกำลังใจสูงส่งยิ่งขึ้น จะไปสู่จุดหมายปลายทาง คือ ที่สุดแห่งธรรม
จะมุ่งอยากศึกษาเรียนรู้ อยากสร้างบารมี ทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา บารมี ๓๐ ทัศ
บุญกิริยาวัตถุ อะไรต่างๆ เหล่านั้น อะไรที่เป็นทางมาแห่งบุญก็จะเอาหมด
มันก็จะเกิดขึ้นเอง เมื่อใจใสๆ
เพราะฉะนั้น ก็ให้หยุดใจอย่างนี้ หยุดในหยุด
นิ่งในนิ่ง นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ จนกระทั่งความใส ความสว่าง ความชัด ความใส
ความสว่างบังเกิดขึ้น เดี๋ยวใจเราก็จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ยิ่งดีขึ้นไปเรื่อยๆ
เอง เหมือนพระบรมโพธิสัตว์ในกาลก่อนทุกๆ พระองค์อย่างนั้นแหละ
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565