ผังชีวิต
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะจ๊ะ หลับตาเบาๆ
พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ให้รู้สึกสบาย ทั้งเนื้อ ทั้งตัวเลย
วางใจ
แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ
ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ
นึกถึงบุญ
นึกถึงบุญทุกบุญที่เราได้ทำผ่านมา
ตั้งแต่ปฐมชาติที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เราสร้างบารมีเรื่อยมาบภพนับชาติไม่ถ้วนมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันชาตินี้
ให้มารวมเป็นดวงบุญใสๆ
บุญทุกบุญที่เราทำผ่านมาทั้งทางโลกทางธรรม
ทั้งทานศีลภาวนามารวมกันเป็นดวงบุญใสๆ ติดอยู่ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ให้ใสบริสุทธิ์ ประดุจเพชรที่เจียระไนแล้ว
ไม่มีตำหนิเลย กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แล้วก็ใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
บริกรรมภาวนา
ให้ตรึกนึกถึงดวงใส เอาใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ
อย่างเบาๆ สบายๆ แล้วก็ประคองใจให้หยุดนิ่งด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ ภาวนาว่า สัมมาอะระหังๆๆ
พร้อมกับผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเราไปด้วย
ตั้งแต่บริเวณเปลือกตาให้ผ่อนคลาย ใบหน้าของเราให้ผ่อนคลาย ศีรษะ ลำคอ บ่า ไหล่
แขนทั้งสองถึงปลายนิ้วมือ ผ่อนคลาย กล้ามเนื้อบริเวณลำตัว ขาทั้งสองถึงปลายนิ้วเท้าก็ให้ผ่อนคลาย
ตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ
อย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ พร้อมกับประคองใจด้วยบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหังๆๆ
ประคองใจไปอย่างนี้นะ
สภาวธรรมภายใน/ ๑๘ กาย
สำหรับผู้ที่เข้าถึงดวงธรรมได้แล้ว
ก็หยุดใจไปที่กลางดวงธรรมใสๆ ตรงกลางดวงธรรมใสๆ
โดยเริ่มต้นที่ผิวนอกของดวงธรรมก่อน แล้วก็หยุดใจนิ่ง ถูกส่วนก็จะเข้าไปในกลางดวงธรรมนั้น
ซึ่งดวงธรรมก็จะยิ่งชัด ยิ่งใส สว่างเพิ่มขึ้น พร้อมกับขยายออกไปรอบตัวเลย
แล้วก็จะมีดวงธรรมดวงถัดไป
ซึ่งขยายมาจากจุดเล็กๆ ที่อยู่ในกลางดวงเดิม จะขยายใหญ่ ใจก็จะละเอียดไปอีกมิติหนึ่ง
แล้วก็จะนิ่งแน่นเข้าไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นดวงธรรมในดวงธรรมอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งครบ
๖ ดวง ก็จะเข้าถึงกายภายใน เห็นตัวเองนั่งสมาธิอยู่ตรงกลางกาย ตรงกลางตรงนั้นก็จะขยายใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนเรากลืนไปเป็นกายเดียวกับกายมนุษย์ละเอียดที่อยู่ภายใน จะเป็นหนึ่งเดียวเลย
ถ้าเราหยุดได้สนิทก็จะติดกันเหมือนเป็นเนื้อ
เป็นหนัง ชีวิตจิตใจเดียวกันเลย มันจะติดไปเป็นสิ่งนั้น กายนั้นจะใส สว่าง
บริสุทธิ์เพิ่มขึ้น ใจจะเกลี้ยงเกลาเพิ่มขึ้น และใจจะไม่หลุดไปที่อื่นเลย
จะหยุดในหยุดอย่างนี้เข้าไปเรื่อยๆ เพราะว่าที่อื่นไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกสุขใจ
ปลื้มใจ พึงพอใจ และเข้าใจในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิตได้เลย
แต่ถ้าหยุดนิ่งอย่างนี้ ทุกสิ่งที่เราปรารถนาก็จะบังเกิดขึ้น
ใจก็จะดิ่งเข้าไปเรื่อยๆ จากกายในกาย ส่งกันต่อๆ
ไป ผ่านดวงธรรมชุดหนึ่ง ๖ ดวง จะเป็นชั้นๆ เข้าไปอย่างนี้
ผ่านกลางกายมนุษย์ละเอียดก็เข้าถึงกายทิพย์
เห็นกายทิพย์ในทำนองเดียวกัน ในกลางกายทิพย์หยาบก็จะหลุดเข้าไปเรื่อยๆ
กลางที่เดียว แต่ต่างความละเอียด ต่างมิติ ต่างสภาวธรรม จะเข้าไปเอง จะไปเป็นชั้นๆ
อย่างนี้ ถอดออกเป็นชั้นๆ หลุดพ้นไปทีละชั้น แล้วก็จะเข้าถึงกายต่างๆ ที่มีอยู่ภายในมายาวนาน
ติดอยู่อย่างนี้ในกลางตรงนั้น
กายมนุษย์ละเอียด กายทิพย์ กายรูปพรหม กายอรูปพรหม
กระทั่งถึงกายธรรมโคตรภู กายธรรมพระโสดาบัน กายธรรมพระสกิทาคามี กายธรรมพระอนาคามี
และก็กายธรรมพระอรหัต แต่ละกายก็จะมีกายละเอียดของกายนั้นซ้อนๆ กันอยู่ภายใน กายที่หยาบกว่าเป็นชั้นๆๆ
เข้าไปอย่างนี้
ทั้งหมดนี้เป็นแผนผังของชีวิตที่ติดมากับตัวของเรามายาวนาน
แต่เราไม่รู้ เพราะว่าพญามารเขาเอาอวิชชา เอาธาตุธรรมของเขา มาหุ้ม เคลือบ เอิบ
อาบ ซึมซาบ ปนเป็น สวมซ้อนร้อยไส้ บังหมดทุกทิศทุกทาง จนกระทั่งเราไม่รู้อะไรเลย
แม้กระทั่งไม่รู้ว่า ตัวเองยังไม่รู้อะไรเลย จึงทำให้ไม่ขวนขวายในการแสวงหาความรู้นี่แหละ
เขาปิด เขาบังเอาไว้
จนกระทั่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น
จึงมาแนะวิธีที่จะรู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดในธรรมที่เขาปิดบังเอาไว้
ด้วยวิธีการที่คนมองข้ามไป วิธีการที่ง่ายๆ ประหยัดสุด ประโยชน์สูง คือ ปล่อยวาง
ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่งแล้วก็ทำใจหยุดนิ่งอย่างเดียว
หยุดนี่แหละจึงเป็นตัวสำเร็จ
ให้เราหลุดพ้นจากความไม่รู้ มาสู่ความรู้แจ้ง เห็นแจ้ง แทงตลอดในธรรมทั้งปวง
ในเรื่องราวต่างๆ ของชีวิตเรา ที่เนื่องด้วยกับชีวิตภายใน กายในกายเหล่านั้น แล้วก็เนื่องไปถึงสรรพสัตว์สรรพสิ่งทั้งหลาย
มันจะเนื่องกัน
เพราะฉะนั้น เราก็มาหยุดใจนิ่ง นุ่ม เบาๆ
ให้ใจใสๆ เราจะได้เข้าถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัวของเราดังกล่าว แล้วก็เป็นทางมาแห่งบุญที่ยิ่งใหญ่ที่จะนำไปสู่การดับทุกข์ได้
เมื่อบุญเกิดขึ้น มันจะเป็นดวงใสๆ บุญธาตุมารวมตัวจะเป็นดวง เป็นบ่อเกิดแห่งความสุข
และความสำเร็จในชีวิตของเรา ตั้งแต่ปุถุชนจนกระทั่งเป็นพระอริยเจ้า
จะเกิดขึ้นตรงนี้
เพราะฉะนั้น ภาคบ่ายนี้
แม้อากาศจะหนาวเย็นแค่ไหนก็ตาม ก็ให้หยุดใจนิ่ง นุ่ม เอาไว้ภายใน อย่างสบายๆ
หยุดในหยุด นิ่งในนิ่งอย่างนี้เรื่อยไปนะ ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ
อธิษฐานจิต
คราวนี้เราก็นึกถึงปัจจัยไทยธรรมที่เราจะนำมาสร้างมหาทานบารมีในวันนี้
น้อมเอาไว้ที่กลางกาย เพราะว่าเป็นปัจจัยที่หาได้ในยามยาก ท่ามกลางสถานการณ์อย่างนี้
ภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้ แต่เรามีความมุ่งมั่น ใจตั้งมั่นจะสร้างบารมี
จึงได้นำมาสร้างบารมี ด้วยความปีติยินดี
เพราะฉะนั้น เราก็จะต้องทำให้ถูกหลักวิชชา น้อมไว้ในกลางกาย
แล้วก็อาราธนามหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
คุณยายอาจารย์ของเรา เป็นต้น
อาราธนาท่านประกอบวิชชาธรรมกาย น้อมนำปัจจัยไทยธรรมนี้
ไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ในอายตนนิพพาน
นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน ถวายเป็นพุทธบูชา
เพื่อให้มหาทานบารมีนี้ เป็นมหากุศล
ผลบุญที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้เราได้มีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีได้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
เช่น มีอุดมไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข
มรรคผลนิพพาน วิชชาธรรมกาย
เกิดมาก็ให้ระลึกชาติได้
ให้เห็นธรรมะกันตั้งแต่ยังเยาว์วัย ในครอบครัวสัมมาทิฏฐิ ครอบครัวธรรมกาย
ให้ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท สั่งสมบุญบารมี ทั้ง ๑๐ ทัศ
ไปจนกระทั่งหมดอายุขัย ทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
คนภัยคนพาลก็ให้ห่างไกล
บัณฑิตนักปราชญ์ก็ให้เข้าใกล้ ให้มีสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุน
เกื้อกูลในการสร้างบารมีของเรา ไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม
ให้ได้บรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า วิชชาธรรมกายอย่างถูกต้องร่องรอยตรงไปตามความเป็นจริงทุกประการ
อย่างนี้เป็นต้น
ปัจจุบันชาติเรากำลังสร้างบารมีอยู่ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
เศรษฐกิจจะตกต่ำเพียงไหน จะขึ้นจะลง ก็ให้อานุภาพแห่งบุญที่เราได้ทำเอาไว้ในวันนี้
และทุกๆ บุญ ส่งเสริมสนับสนุนให้เราได้ทวนกระแส ให้มีสมบัติใหญ่ไหล ไหลมาเทมา
ทุกวัน ทุกคืน ทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งหลับ ทั้งตื่น ทั้งนั่ง นอน ยืน เดิน ให้หมดหนี้สิน
เหลือกิน เหลือใช้ เหลือไว้สร้างบารมี
จะประกอบธุรกิจการงานอันใด
ก็ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ซื้อง่าย ขายคล่อง กำไรงาม เป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ คู่บุญ
ใจบุญ ค้ำจุนพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย จะศึกษาเล่าเรียน ก็ให้เป็นบัณฑิตเป็นนักปราชญ์
รับราชการก็ให้ราบรื่นอย่างนี้เป็นต้น ให้ปัจจุบันชาตินี้ ให้บุญหล่อเลี้ยงรักษา
ให้เป็นอัศจรรย์ เราอธิษฐานจิตไป
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565