พุทธศาสนาเริ่มต้นที่ไหน
วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล
วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย-ปรับใจ
ตั้งใจนั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากัน
หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา
ทั้งเนื้อทั้งตัวให้มีความรู้สึกว่าสบาย รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ
ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
บริกรรมนิมิต
ให้ตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ
อย่างสบายๆ หรือใครคุ้นเคยกับองค์พระก็ตรึกนึกถึงองค์พระ ใจหยุดอยู่ในกลางองค์พระใสๆ
อย่างสบายๆ ทำใจให้หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ให้ใจใสๆ เย็นๆ
นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ที่กลางดวงใสๆ หรือกลางองค์พระใสๆ ที่กลางท้องกลางกายของเรา
ให้ใจหยุดในหยุด หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง นุ่มๆ
เบาๆ สบายๆ ประคองใจให้หยุดให้นิ่งให้นุ่มที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ที่เดียวเท่านั้นที่จะทำให้เราเข้าถึงความสุขที่แท้จริง
ความบริสุทธิ์ ความรู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งปวง ในสรรพสัตว์และสรรพสิ่งทั้งหลาย
ตำแหน่งตรงนี้สำคัญ ต้องพยายามฝึกให้ได้ทีเดียว
ยากตรง
หยุดแรก
หยุดเป็นตัวสำเร็จ ถ้าหยุดใจได้ก็ง่าย
ก็จะเข้าถึงสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของเรานี่แหละ เช่น ดวงใสๆ กายในกายภายใน กายในกายภายนอกกับกายในกายภายใน
แล้วก็พระธรรมกายใสๆ ที่เป็นกายซ้อนๆ กันอยู่ภายใน ต้องอาศัยหยุดนิ่งอย่างเดียวเท่านั้น
ไม่ต้องทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้
หยุดแรก
เป็นสิ่งที่จะยากสักนิดหนึ่ง สำหรับผู้ที่ฝึกใหม่
แต่หยุดต่อไป หยุดในหยุดจะง่ายขึ้น
เหมือนเราเรียนหนังสือทางโลก กว่าจะอ่านออกเขียนได้
มันก็ยากตอนแรกๆ หน่อยหนึ่ง ตอนหัดเขียนตัวอักษร หยุดก็เหมือนกัน หยุดแรก การที่จะนำใจมาหยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ยากนิดหนึ่ง แต่ยากไม่มาก ยากพอสู้
ถ้าเราหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ ถ้าสู้แล้วก็ไม่ยาก
ที่ยากเพราะใจเราซัดส่ายก่อนที่เราจะมาฝึกฝน ใจซัดส่ายแตกกระเจิง แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ไปติดในเรื่องราวในชีวิตประจำวัน เรื่องคน สัตว์ สิ่งของ ธุรกิจการงาน บ้านช่อง
ครอบครัว การศึกษาเล่าเรียน เรื่องเหตุการณ์ สถานการณ์ต่างๆ การทำมาหากิน
ทำมาค้าขาย การพูดคุย การเข้าสังคม สนุกสนานเฮฮา เที่ยวเตร่สารพัด ใจจะกระเจิงไปติดในสิ่งเหล่านี้
จนคุ้นเคยแล้วก็ชิน เพราะทำทุกวันตั้งแต่ตื่นนอนกระทั่งเข้านอน
แม้ยามหลับก็ยังฝันกระเจิดกระเจิงกันไปอย่างนั้นเพราะความคุ้นเคย
ดังนั้น ใจก็วิ่งไปตามความทะยานอยากที่ไม่ได้ประกอบไปด้วยปัญญา
ไม่ได้ประกอบไปด้วยความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต แต่ประกอบไปด้วยความเพลิดเพลินไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบชาวโลกทั่วไป
เพลิดเพลินกันไปในชีวิตประจำวันกันอย่างนั้น เกี่ยวกับตัวเองบ้าง ครอบครัวบ้าง
ที่ทำงาน คนโน้นคนนี้สารพัดไปหมด
เพราะฉะนั้น
จึงไม่พบความสุขเลย ทั้งๆ ที่มีความปรารถนาอย่างยิ่งที่อยากจะมีความสุข
อยากจะพบความสุข และเมื่อขาดความรู้ว่า ความสุขอยู่ที่ไหน
ก็จะทำตามความเข้าใจของตัว ตามรสนิยมของตัวที่คิดเอาเอง หรือได้ยินคนโน้นคนนี้เขาพูดกันว่า
สิ่งนั้นสิ่งนี้จะ ทำให้เกิดความสุข ก็โลดแล่นกันไปอย่างนั้น ใจจึงกระเจิดกระเจิงกันไป
เพราะความไม่รู้นั่นแหละ มีความทะยานอยากที่ไม่ได้ประกอบไปด้วยปัญญา
อยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากเป็นให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
เมื่อเราได้ทราบจากท่านผู้รู้
ผู้ตื่น ผู้เบิกบานแล้ว ผู้มีประสบการณ์ภายใน ฝึกตนอย่างดีแล้วกระทั่งหลุดพ้น คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่ท่านถ่ายทอดมาถึงพระสาวกต่างๆ เรื่อยมากระทั่งถึงเรานี่แหละว่า
ต้องหยุดความอยากเหล่านั้นในตำแหน่งที่ถูกต้อง
คือ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ถ้าหยุดตรงนี้ได้ ชีวิตก็จะสมความปรารถนา จะพบความสุขที่แท้จริงและก็แสงสว่างแห่งชีวิต
เส้นทางที่เราจะเดินต่อไปนั้นถึงจุดหมายปลายทางอย่างบริสุทธิ์บริบูรณ์ มีชัยชนะ
เมื่อเรามาฝึกใหม่ๆ
มันก็กระเจิดกระเจิงกันไปก่อน หยุดแรกจึงยากนิดหนึ่ง
แต่ว่า ถ้าเราปล่อยวางได้ ทิ้งทุกอย่าง
ปล่อยวางทุกสิ่ง โดยพิจารณาไปตามความเป็นจริงของสรรพ
สัตว์สรรพสิ่งเหล่านั้นว่า เมื่อเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ต้องเสื่อมสลายไป ไม่คงที่
ไม่เที่ยง เปลี่ยนแปลงตลอด ผูกพันก็เป็นทุกข์ และบังคับบัญชาไม่ให้เปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้
ไม่อยู่ในการบังคับบัญชาควบคุมได้ของเรา
เมื่อเห็นอย่างนี้ก็จะคลายความผูกพัน ทิ้งทุกอย่าง
ปล่อยวางทุกสิ่ง แล้วก็นำใจกลับมาหยุดนิ่งอยู่ภายในที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้ ใหม่ๆ ใจก็มาอยู่ก่อนในบริเวณใกล้ๆ กับตำแหน่ง
อยู่แล้วก็หลุดออกไปอีก แล้วก็กลับมาอยู่อีก
สภาวธรรมภายใน
ถ้าใจกลับมาสู่ตำแหน่งที่ถูกต้องกลางกายได้ ถ้าปล่อยวางได้จริงๆ
ใจจะหล่นเข้าไปข้างในเลย เหมือนเราตกหลุมอากาศอย่างนั้น เหมือนตกจากที่สูงที่โล่งๆ
ว่างๆ กลางอวกาศ ถ้าเราไม่คุ้นเคยกับประสบการณ์ภายในอย่างนี้ก็จะกลัว ไม่กล้าฝึกต่อไป
จะหวาดๆ แต่ความจริงประสบการณ์ภายในนั้นถูกต้อง ดีมาก สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ทำเฉยๆ
กับทุกประสบการณ์ อย่าไปฝืนเหนี่ยวรั้งเอาไว้ หรือลืมตาขึ้น หรือเลิกนั่งฝึกเลย เพราะกลัวไม่ทราบว่า
อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ขอยืนยันว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนั้นดี ถูกต้องมาก จะสมปรารถนา
ให้นิ่งต่อไป ทำเฉยๆ นิ่งๆ
ทำเป็นรู้แล้วไม่ชี้ ทำเฉยๆ จะหล่นก็ช่างมัน เฉยๆ สบายๆ ถ้าทำอย่างนี้ได้ ถึงจุดๆ
หนึ่งความหวาดสะดุ้งเพราะไม่คุ้นเคยกับประสบการณ์ภายในจะหายไป จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นความปีติสุข
เบิกบานอย่างมีชีวิตชีวา จากจุดตรงนั้นที่เบิกบาน จะขยายไปสู่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อของเรา
ทุกขุมทุกขนรู้สึกสบายกาย สบายใจอย่างที่เราไม่เคยเป็นมาก่อนเลย
สภาพของใจที่ไร้ตัวตนนี่ ช่างประเสริฐเหลือเกิน
เหมือนร่างกายเรากลืนไปกับบรรยากาศ มันสบาย พอสบายแล้วเราทำเฉยๆ หนักเข้า นิ่งๆ นุ่มๆ
เบาๆ ใจก็จะละเอียดลุ่มลึกไปตามลำดับ ถูกกลั่นให้บริสุทธิ์ไปเรื่อยๆ
จนกระทั่งเห็นความบริสุทธิ์ผุดเกิดขึ้นมา ลอยขึ้นมาเป็นดวงในแนวดิ่ง
จะลอยขึ้นมาเป็นดวงใสๆ สวยงามมาก อย่างน้อยก็ใสเหมือนน้ำใสๆ หรือเหมือนกระจกใสๆ
เหมือนก้อนน้ำแข็งใสๆ เหมือนเพชรใสๆ หรือยิ่งไปกว่านี้นี่ จะใสบริสุทธิ์ เป็นความบริสุทธิ์ที่เรายอมรับว่า
เราเริ่มบริสุทธิ์ และเริ่มรู้จักว่า ความบริสุทธิ์เป็นอย่างนี้
แต่ก่อนเราอธิษฐานขอให้เราบริสุทธิ์ แบบขอถึงความบริสุทธิ์
แต่ตอนนี้เรามีประสบการณ์ภายใน เราได้เข้าไปแช่อิ่มในกระแสแห่งความบริสุทธิ์ เห็นความบริสุทธิ์ปรากฏมาเป็นดวงใส
ซึ่งให้ความพึงพอใจแก่เรามาก เป็นสุขมาก
ถึงตอนนี้ใจจะเป็นหนึ่งมีอารมณ์เดียว คือ อารมณ์ที่ดี อารมณ์ดี อารมณ์เดียว
อารมณ์ใสๆ เย็นๆ ที่เป็นอยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้อยู่ตามลำพังก็มีสุขได้ด้วยตัวเอง
เป็นความสุขที่เหนือวัตถุ ที่วัตถุให้ความปลื้มความพึงพอใจยังให้น้อยกว่าการที่เข้าถึงดวงใสๆ
ที่ลอยขึ้นมาเองเมื่อใจหยุดนิ่ง เป็นดวงใสที่มีอยู่แล้วในตัว คนละดวงกับที่เราสมมติเข้าไป
เป็นดวงใสๆ
พระแท้
ถ้าบวชแล้วทำความเพียรอย่างนี้ได้
บวชนี้ก็สมปรารถนาในระดับหนึ่ง คือ เห็นเบื้องต้นที่จะไปสู่อายตนนิพพาน
เป็นความสมปรารถนาในเบื้องต้น ได้บุญมากกว่าสร้างโบสถ์สร้างวิหาร ศาลาการเปรียญ
หรือวัดวาอาราม ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์มาก เพราะว่าเป็นทางไปสู่มรรคผลนิพพาน
ทางบรรลุมรรคผลนิพพาน ทางหลุดทางพ้นจากกิเลสอาสวะ เส้นทางเดียวกับพระอริยเจ้า ความบริสุทธิ์นี่
บุญจะเกิดเป็นดวงใสๆ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขและความสำเร็จในชีวิตของเรา บวชอย่างนี้สมปรารถนา
ถ้านิ่งเข้าไปอีกในกลางดวง แล้วก็เห็นไปตามลำดับเป็นชั้นๆ
เข้าไป เห็นดวงในดวง เห็นกายในกาย กระทั่งเข้าไปถึงพระธรรมกายในตัวได้
เมื่อไปถึงพระธรรมกายในตัวได้ ก็ได้ชื่อ ว่าบวช ๒ ชั้น เราเป็นพระแท้แล้ว
ข้างนอกครองผ้ากาสาวพัสตร์ ข้างในก็เข้าถึงพระธรรมกาย ในตัว หลับตา ลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน
ก็เห็นชัดใส แจ่มกระจ่างอยู่กลางกาย มีอานิสงส์มาก ปิดประตูอบาย เปิดประตูสวรรค์ มีสุขในปัจจุบัน
ปิดอบายให้กับทั้งตัวเอง และบิดามารดา โยมพ่อโยมแม่ บุญนี้ยังถึงหมู่ญาติสรรพสัตว์ทั้งหลาย
บวชอย่างนี้จึงจะได้ชื่อว่า เป็นอายุของพระศาสนา คือสืบทอดพระศาสนาให้ยาวไปอีก
อายุพระศาสนา
พระพุทธศาสนาเริ่มต้นตรงนี้ ตรงที่เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว
พุทธรัตนะ คือ ธรรมกาย พระธรรมกายในตัวเริ่มจากตรงนี้
เข้าถึงตรงนี้ได้จึงจะเรียกว่า เป็นอายุพระศาสนา พระศาสนายืนยาวมาอีก เพราะมีคนได้บรรลุธรรมตรงนี้ด้วยตัวเอง
และสามารถถ่ายทอดให้บุคคลอื่นได้รู้ได้เห็นตามไปด้วย อย่างนี้ถึงจะเรียกว่า เป็นอายุพระศาสนา
และได้ชื่อว่า สืบทอดอายุพระศาสนา
อีกทั้ง เป็นเนื้อนาบุญให้แก่มนุษย์และเทวดาด้วย
เป็นเนื้อนาบุญของโลกที่ใครมีความปรารถนาอยากจะมีความสุขและความสำเร็จในชีวิต
ปิดอบายไปสวรรค์ ก็จะต้องมาเชื่อมสายบุญกับพุทธบุตรที่เข้าถึงพระในตัวอย่างนี้
เหมือนเราเสียบปลั๊กกับกระแสไฟกับขั้วปลั๊กสวิตช์อย่างนั้น
กระแสไฟก็ไหลผ่านตั้งแต่โรงไฟฟ้าไล่เรื่อยไปตามสถานีย่อยเข้าไปในบ้าน
กระทั่งถึงหลอดไฟในบ้าน นี่ก็เหมือนกันกระแสธารแห่งบุญจากแหล่งแห่งบุญศักดิ์สิทธิ์ก็ผ่านกายพุทธบุตร
ผ่านองค์พระภายในถึงกาย
แล้วก็เชื่อมไปสู่ใจของญาติโยม นี่จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากทีเดียว
ถ้าเป็นญาติโยม
ก็ได้ชื่อว่า บวชภายใน
มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก ได้ชื่อว่า เป็นอุบาสกอุบาสิกาที่แท้จริง คือ ผู้ที่เข้าไปนั่งใกล้พระรัตนตรัย
เกือบจะเป็นตัวพระรัตนตรัย แม้ข้างในเป็นแล้ว แต่ข้างนอกเกือบ
เพราะเกือบจะเป็นอย่างนี้ เนื่องจากไม่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์ จึงได้ชื่อว่า ไปนั่งใกล้
ไปอยู่ใกล้ๆ
ฝึกหยุดแรกให้ได้
เพราะฉะนั้น หยุดแรก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ถ้าลูกทุกคนตั้งใจฝึกฝน ฝึกอย่างหนัก อย่างถูกหลักวิชชาอย่างนี้ ต้องเข้าถึงอย่างแน่นอน ที่ไม่ถึงมีเพียงประการเดียว คือ เกียจคร้านต่อการฝึกฝน
หรือไม่ให้ความสำคัญตรงนี้ ทำวันหนึ่งหยุด ๗ วัน ทำ ๗ วันหยุดไป ๑ เดือน อย่างนี้
มันก็ไม่ประติดประต่อกัน มาทำที่วัดแล้วกลับไปก็ต้องไปทำต่อที่บ้านให้สม่ำเสมอเป็นกิจวัตรประจำวัน
เหมือนอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟัน
ถ้าอย่างนี้ก็สมความปรารถนาอย่างแน่นอน
เราก็จะได้เป็นพยานในการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะไปบอกเล่าให้กับมวลมนุษยชาติได้ทราบว่า
มีพระรัตนตรัยอยู่ในตัวจริงๆ ตามคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งที่ระลึกได้จริงๆ
มีทุกข์ก็พึ่งท่านได้ สุขก็พึ่งท่านได้ อบอุ่นปลอดภัย สุขทั้งวันทั้งคืน ใจจะใสๆ อย่างนี้ เราก็จะบอกกันต่อๆ กันไปได้ทีเดียว
เด็กดี
V-Star ฟื้นฟูศีลธรรมโลก
ลูกทุกคนก็ต้องหมั่นฝึกหยุดนิ่ง ให้ใจใสๆ
ใจสบาย และยิ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่มีบุญใหญ่ และเป็นภารกิจสำหรับเราที่ได้มาเกิดในชาตินี้ ที่จะต้องฟื้นฟูศีลธรรมให้หวนคืนมาในโลก
จากคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราจะมีส่วนอย่างสำคัญในการสร้างผู้นำในการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
โดยนำเด็กๆ เข้าไปสู่โครงการเด็กดี V-Star ให้มีจิตสำนึกเป็นผู้นำในการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
ซึ่งเราได้ทำต่อเนื่องมา ๓ ครั้งแล้ว นี่ก็เป็นครั้งที่ ๔ ที่เราเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
สร้างเยาวชนรุ่นใหม่เพื่อมวลมนุษยชาติ เพื่อเป็นทางมาแห่งบารมีของเรา
เราก็ทำกันมาแล้ว
และอีกบุญใหญ่หนึ่ง คือ บุญบวชพระแสนรูป โดยเริ่มต้นจากพระพี่เลี้ยง
๑,๕๐๐ กว่ารูปนี้ ซึ่งเป็นภารกิจเร่งด่วนที่เราจะต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันในการทำภารกิจนี้ให้สำเร็จให้ได้ว่า
เกิดกันมาในชาตินี้ยุคของเรา พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองสืบทอดกันคงอยู่คู่โลกไปอีกยาวนาน
ความปีติก็จะไปถึงเราเมื่อเราอยู่ในเทวโลก
เพราะฉะนั้น
ให้ลูกทุกคนนี่ตั้งใจมั่น ฝึกหนักให้ถูกหลักวิชชา เมื่อใจหยุดนิ่งเห็นดวงใส
เห็นกายในกายภายในใส องค์พระใส แผ่นฌานที่รองรับแต่ละกายใสๆ ใสทั้งดวง ทั้งกาย ทั้งฌาน ใสๆ อย่างนี้ สิ่งที่เราตั้งใจไว้ด้วยดีนี้ก็จะสำเร็จเป็นอัศจรรย์
อย่างสะดวกสบาย อย่างง่ายดาย อย่างเกินควรเกินคาด ทำน้อยได้มากได้เป็นอัศจรรย์ เวลาที่เหลืออยู่นี้ให้ลูกทุกคนรวมใจ
หยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ เย็นๆ ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ นะจ๊ะ
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565