การศึกษาวิชชาธรรมกาย
วันอาทิตย์ที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๓ ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล
วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย
- ปรับใจ - วางใจ
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนา หลับตาเบาๆ
พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้มีความรู้สึกว่า สบาย
ผ่อนคลายจริงๆ แล้วก็ปล่อยวางทุกสิ่ง
รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกาย ฐานที่ ๗ อย่างเบาๆ สบายๆ
บริกรรมนิมิต
ให้เราตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ
อย่างสบายๆ ใครที่ตรึกนึกถึงองค์พระได้รู้สึกสบาย เราก็ตรึกนึกถึงองค์พระไป
เพื่อให้ใจมารวมหยุดนิ่งนุ่มเบาสบายที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
พอใจหยุดนิ่งถูกส่วนจริงๆ แล้ว มันก็จะเปลี่ยนสภาวะจากหยาบไปสู่สภาวะละเอียด
กายก็จะโล่ง โปร่ง เบาสบาย
ตัวก็รู้สึกขยายใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างสบาย ส่วนตัวหายไป เหลือแต่ดวงใสๆ
องค์พระใสๆ ติดอยู่ตรงกลางกาย
สภาวธรรมภายใน
เราก็ทำแค่หยุดนิ่งนุ่มเบาสบายอย่างเดียว
นิ่งในนิ่ง นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ
พอถูกส่วน ไม่ตึง ไม่หย่อน สบายๆ ก็จะปล่อยวางนิมิต บริกรรมนิมิตที่เรากำหนดนึกในตอนแรก
เพื่อดึงใจให้มาหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จะปล่อย แล้วก็ตกศูนย์ไปข้างใน
คราวนี้ดวงธรรมที่มีอยู่แล้วภายในก็เกิดขึ้นจริง
คล้ายๆ กันกับบริกรรมนิมิตดวงใส แต่ว่าแตกต่างกันมาก คล้ายกันที่กลม แต่ว่าความใส ความบริสุทธิ์
ความสุขมันแตกต่างกัน
ตอนแรกที่กำหนดเป็นบริกรรมนิมิต
แม้เราทำใจสบาย ผ่อนคลาย แต่ความสุขจริงๆ มันก็ยังไม่เกิด มันอยู่ในระดับไม่สุขไม่ทุกข์
คือ ดีกว่าปกติในชีวิตประจำวันหน่อยหนึ่ง ก่อนที่เราจะรวมใจมาหยุดนิ่งอย่างนี้เท่านั้น
แต่ถ้าตกศูนย์เข้าไปข้างใน ตอนนี้ความสุขที่แท้จริงก็เกิดขึ้นพร้อมกับดวงใสที่ใสละเอียดบริสุทธิ์
สว่างในระดับหนึ่งเกิดขึ้นมา จะเป็นดวงใสๆ ที่เรียกว่า
ดวงปฐมมรรค ใจก็จะนิ่งนุ่ม เบาสบาย อยู่กลางดวงนั้นเอง
หยุดนิ่งอย่างเดียว
หน้าที่ของเรา คือ หยุดนิ่งอย่างเดียว
ด้วยการดูเฉยๆ อย่างสบายๆ ดูไปเรื่อยๆ จนกว่าดวงหรือกายภายในจะบังเกิดขึ้น
เหมือนดังที่ได้กล่าวเมื่อเช้านี้ เพราะสิ่งเหล่านี้มีอยู่แล้วในตัว
เป็นแต่เพียงเราต้องเข้าให้ถึง จะเข้าถึงได้ ใจก็ต้องละเอียดเท่ากับสิ่งที่มีอยู่แล้วภายใน
ด้วยการทำใจให้หยุดให้นิ่งอย่างเดียว ทำเหมือนไม่ได้ทำอย่างนั้นแหละ ต้องเฉยๆ นิ่งๆ
นุ่มๆ เบาๆ สบาย
ฝึกอย่างนี้ซ้ำๆ ทำทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
แล้วบุญเก่าของเราจะได้ช่องส่งผล ทำให้สักวันหนึ่งมันก็จะชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้นมาเอง
จะแจ่มกระจ่างอยู่ที่กลางกาย กลางอวกาศโล่งๆ กว้างๆ กลางดวง กลางกาย กลางองค์พระใสๆ
ที่ใสทั้งฌาน ทั้งกาย แผ่นที่รองรับกายมันจะใส
ฝึกซ้ำๆ
จนเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระภายใน
ถ้าเราฝึกซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ มันก็ชำนาญยิ่งขึ้น
ยิ่งชัดขึ้น ใสขึ้น สว่างขึ้น จนกระทั่งใจไปติดกับองค์พระภายในเป็นใจเดียวกัน ในตำแหน่งเดียวกันที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ติดกันเลย
เมื่อใจสนิทกัน กายก็จะสนิทกัน กายจะสนิทเมื่อใจสนิทติดกับใจของท่าน
ใจจะใส กายของเราก็จะเปลี่ยนสภาวะเป็นกายของท่าน ท่านก็จะเป็นเรา เราก็จะเป็นท่าน ใจท่านคือใจเรา
ใจเราคือใจท่าน ใจตรงกันติดกันในตำแหน่งเดียวกัน
เมื่อเราฝึกชำนาญจะเป็นอย่างนั้นเลย
ความรู้สึกเป็นพระจะเกิดขึ้น ไม่ว่ากายหยาบจะเป็นโยม แต่กายภายในก็เป็นพระเนื่องมาถึงกายหยาบ
ถ้าเป็นพุทธบุตรก็เป็นพระทั้งข้างนอกทั้งข้างใน ใจจะใส แล้วท่านก็จะยกเข้าหมู่เข้าพวกท่าน
เหมือนฝูงนกอยู่ฝูงนก ฝูงเนื้ออยู่ฝูงเนื้อ
ฝูงปลาก็อยู่ในหมู่ปลา มนุษย์ก็อยู่ในหมู่มนุษย์ พระก็อยู่ในหมู่พระ พระภายในก็อยู่ในหมู่ของพระภายใน
เมื่อใจของเรากับท่านเป็นหนึ่งเดียวกัน ท่านยอมรับเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน คือ สภาวะใจของเราต้องละเอียด สะอาด บริสุทธิ์เท่ากับใจของท่าน
กายของท่านก็จะสวมสนิทเป็นเนื้อหนังเดียวกันกับกายหยาบของเรา
ท่านก็จะยกเราเข้าหมู่เข้าพวกท่าน แล้วการศึกษาวิชชาธรรมกายก็เกิดขึ้น
การศึกษาวิชชาธรรมกาย
วิชชาธรรมกายต้องเรียนด้วยธรรมกาย
กายอื่นเรียนไม่ได้ เป็นวิชชาขององค์พระภายใน
จะศึกษาเรียนรู้เข้าไปเรื่อยๆ เข้าสู่ความเป็นบุคคลอันประเสริฐ บริสุทธิ์สูงส่งขึ้นไปเรื่อยๆ
สิ่งที่เป็นความลับของชีวิตก็จะค่อยๆ
ทยอยเปิดเผยขึ้นมาเรื่อยๆ ความสงสัยในใจเราก็ค่อยๆ
ถูกทำลายไปและค่อยๆ หายสงสัยเหมือนถูกลบเลือนความสงสัยให้ค่อยๆ
เจือจางลงหมดไปทีละเรื่องไปตามลำดับเรื่อยๆ
การเรียนรู้ภายในด้วยการเห็นด้วยภาพก็จะบังเกิดขึ้น
ศึกษาเรียนรู้ภายใน เป็นผู้รู้ที่เกิดจากการเห็น เห็นแจ้ง
รู้แจ้งก็เกิดจากการเห็นแจ้งภายในจะบังเกิดขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างละมุนละไม
ใจของเราก็จะยิ่งมีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจ มีแต่ความนิ่งที่แน่นเข้าไปเรื่อยๆ
หนักขึ้นไปเรื่อยๆ นิ่งแน่นหนักขึ้น ใจก็ใสละเอียดหนักขึ้นไปเรื่อยๆ
บริสุทธิ์หนักขึ้น การเห็นก็กว้างขึ้น กว้างไกล ลึก รอบตัว
เห็นถึงไหนก็รู้ถึงนั่น การเห็นในสิ่งที่ถูกต้องก็เกิดขึ้น
การเห็นในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็หมดไป ภาพลวงตาต่างๆ ในชีวิตของมนุษย์แบบชาวโลกก็ค่อยๆ
ถูกลบเลือนไปเรื่อยๆ เมื่อภาพแห่งความจริงปรากฏเกิดขึ้นจากการเห็นภายในเมื่อใจหยุดนิ่ง
ใจก็จะใส ละเอียด เยือกเย็น นุ่มนวลและก็มีพลังขึ้นไปเรื่อยๆ
การกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้เพื่ออยากจะรู้เพิ่มขึ้นก็เกิดขึ้นมาตามลำดับ
เป็นความรู้คู่ความสุข ความบริสุทธิ์ ความปีติเบิกบานก็บังเกิดขึ้นทันทีเลย สิ่งที่เราเคยระลึกไม่ได้ แม้ในปัจจุบันชาตินี้
บางเดือน บางปี บางเวลาเรายังระลึกไม่ได้ สิ่งที่ผ่านมาในอดีตชาติก็ยิ่งถูกบดบังไป
ยิ่งระลึกไม่ได้ แต่เมื่อการเห็นบังเกิดขึ้นภายใน ด้วยแสงสว่างภายในอันเกิดจากความบริสุทธิ์เพราะใจหยุดนิ่ง
อีกทั้งเห็นด้วยตาธรรมกายซึ่งเป็นธรรมจักขุ
จักขุของธรรมกายที่มีความเห็นแตกต่างจากการเห็นของอรูปพรหม
พรหม หรือกายทิพย์ ตลอดจนกระทั่งมนุษย์ทั้งหลาย
คือ เห็นได้รอบตัวก็เกิด ทำให้การระลึกเพราะภาพเกิดจากการเห็น ก็เกิดขึ้นมาใหม่
สิ่งที่ลบเลือนไป ลืมไป ก็หวนคืนมาใหม่ แจ่มแจ้งขึ้น เห็นชัดขึ้นไปเรื่อยๆ
มาพร้อมกับความสุข สนุกสนาน บุญบันเทิง
ปีติสุขหล่อเลี้ยงใจในการที่เห็นแจ้งได้ รู้แจ้งได้
และก็มาพร้อมกับธรรมสังเวชที่เกิดขึ้น
เป็นการเห็นที่ประกอบไปด้วยสติและปัญญา เป็นมหาสติ
มหาปัญญา ที่ยามใดเห็นว่า ชีวิตที่ผ่านมาในอดีตที่ได้ดำเนินชีวิตผิดพลาดก็เกิดการเสียดายโอกาสในสิ่งเหล่านั้น
ความคิดที่จะปรับปรุงแก้ไขใหม่ก็เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน
เมื่อทบทวนกันไปเรื่อยๆ อย่างนั้น การเห็นก็ยิ่งขยายกว้างขึ้น
ใจก็ยิ่งหยุด นิ่งแน่นขึ้น แน่นหนักเข้าไปอีก สว่างไสว
สิ่งเหล่านั้นมาพร้อมกับสิ่งปกติในชีวิตประจำวันของเรา ในยามที่เราได้เห็น ได้ยิน
ได้ดม ได้ลิ้มรส สัมผัสถูกต้อง ก็คล้ายๆ กันอย่างนั้นแหละ แต่ว่าละเอียดประณีตกว่าเพราะเป็นการเห็น
ได้ยิน ได้ดม ได้ลิ้มรส ถูกต้องสัมผัสที่ประณีตกว่า กว้างขวางกว่า เพราะประกอบไปด้วยสติและปัญญาอันบริสุทธิ์เนื่องจากใจหยุดนิ่ง
เห็นด้วยธรรมจักขุของธรรมกาย รู้ด้วยญาณทัสสนะธรรมกาย
จักขุ
ญาณ ปัญญา วิชชา แสงสว่างก็จะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ
กัน เราก็จะรู้เรื่องราวของตัวเราเอง จนกระทั่งกระตุ้นเตือนให้อยากรู้เรื่องที่กว้างขึ้นไปเรื่อยๆ
ก็จะกระตุ้นเตือนไปเรื่อยๆ ก็ศึกษาเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ
ใจหยุดนี่แหละ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้เกิดการศึกษาเรียนรู้แล้วก็พัฒนาตัวของเราให้ดีขึ้นไปได้
อีกทั้งใจก็จะมุ่งเข้าไปสู่จุดที่สำคัญ คือ การมุ่งต่อการดับทุกข์ หลุดพ้น ปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสรภาพจากกิเลสอาสวะ และก็จะสาวขึ้นไปเรื่อยๆ
เพราะฉะนั้น ใจหยุดนิ่งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ลูกทุกคนต้องเอาใจใส่ ศึกษาฝึกฝนทำซ้ำๆ
ไปทุกวันควบคู่กับชีวิตประจำวัน และการสร้างบารมีที่เราจะทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร
เป็นผู้ให้แสงสว่างต่อมวลมนุษยชาติ
อธิษฐานจิต
ให้ลูกใจหยุดนิ่งนุ่มเบาสบาย แล้วเราก็รวมใจกันอธิษฐานจิตในใจ
ให้โครงการบวชแสนรูปนี้ ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์ ผู้มีบุญจะอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตาม ก็ขอให้ออกมา ที่ยังไม่มาก็ขอให้มา
ที่มาแล้วก็ให้อยู่เป็นสุข ให้ตั้งใจมาบวชเรียน บวชแล้วก็บำเพ็ญสมณธรรม
เรียนรู้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายิ่งๆ ขึ้นไป
ให้การบวชในโครงการแสนรูปให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์
จะพูดจากับใครด้วยความรักและปรารถนาดีนี้ ก็ให้ประสบความสำเร็จ
ให้วาจาศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์ มีเดช มีอานุภาพ ที่จะไปชักชวนใครให้มาบวชก็ให้สำเร็จทุกรายไปเลย
เป็นอัศจรรย์ และก็ให้ชีวิตประจำวันของเราก็นำไปสู่ความสุขและความสำเร็จในทุกสิ่งที่ตั้งใจไว้ด้วยดีแล้วนี่
ใจเราก็นิ่งแล้วก็อธิษฐานอย่างนี้ไปอย่างสบายๆ
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565