อานิสงส์จุดประทีปเป็นพุทธบูชา 530815D รอบบ่าย

อานิสงส์จุดประทีปเป็นพุทธบูชา

วันอาทิตย์ที่  ๑๕  สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ (๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.)

งานบุญวันอาทิตย์ ณ สภาธรรมกายสากล

ปรับกาย

เมื่อเราได้จุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ไปให้ลูกทุกคน นั่งหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะจ๊ะ

 

หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรานะจ๊ะ ทั้งเนื้อทั้งตัวให้มีความรู้สึกว่าสบาย ขยับท่านั่งของเราให้ถูกส่วน ไม่ให้มีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของเรามันเกร็ง แล้วก็ผ่อนคลาย ต้องสบายนะลูกนะ ต้องผ่อนคลาย

 

วางใจ

 

แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ อย่างสบายๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ ให้ใจของเรา หยุดในหยุด นิ่งในนิ่ง ลงไปอย่างง่ายๆ เบาๆ สบายๆ

 

บริกรรมนิมิต

ให้ตรึกนึกถึงดวงใส เอาใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ ที่ใสเหมือนกับเพชร เพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีตำหนิเลย ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ใสบริสุทธิ์ สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แต่ว่าใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างเบาๆ สบายๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ตรงนี้สำคัญนะลูกนะ

 

ความสมหวังในชีวิตไม่ได้อยู่ภายนอก

ต้องนำใจกลับมาหยุดนิ่ง อยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่๗  เพราะว่าเป็นที่บรรลุธรรม เป็นที่รวมของความปรารถนาของเราทั้งหมด ความสมหวังในชีวิต สิ่งที่เราปรารถนานั้น ไม่มีอยู่ภายนอก

 

เราหลงทางกันมานานแล้ว ที่เอาใจส่งออกไปข้างนอก ซึ่งมีแต่เรื่องวุ่นวาย มีปัญหาและแรงกดดัน ไม่เคยเจอความสุขที่แท้จริงเลย เพราะความสุขไม่มีในภายนอก ความรู้แจ้ง เห็นแจ้ง ไม่มีที่ภายนอก นอกศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ จะไม่มี ความบริสุทธิ์หาได้ยากยิ่งในภายนอก

 

เราหลงทางกันมานานแล้ว ที่ไปยึดติดในสิ่งเหล่านั้น ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้น เป็นแค่เครื่องอาศัยชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น สิ่งที่เราแสวงหานั้นอยู่ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ต้องเริ่มต้นที่ตรงนี้ จึงจะไปสู่หนทางที่ถูกต้อง เช่นเดียวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ท่านทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ สมบัติอะไรต่างๆ เหล่านั้น เมื่อท่านถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่า สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ให้ความพึงพอใจอันสูงสุดในชีวิตแก่ท่าน แถมยังมีปัญหาและแรงกดดัน ดังกล่าวนั่นแหละ เกิดมากบ้าง น้อยบ้าง แต่เกิดขึ้นทุกวันตลอดเวลา

 

เมื่อท่านทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง ใจของท่านก็จะกลับมาหยุดนิ่งอยู่ภายในนี่แหละ นิ่งในนิ่งอย่างเดียว ไม่ได้ทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้ นิ่ง นุ่ม อย่างเบาๆ สบายๆ แล้วการเดินทางภายในก็เริ่มเกิดขึ้น

สภาวธรรมภายใน

 

เมื่อใจนิ่งได้ถูกส่วน ก็จะตกศูนย์กลับเข้าไปสู่ภายใน เห็นดวงใส ซึ่งเป็นดวงธรรมดวงแรก ปรากฏเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ เป็นดวงใสๆ อย่างเล็กเท่ากับดวงดาวในอากาศ อย่างกลางก็ขนาดพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ อย่างใหญ่ก็ขนาดพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน หรือยิ่งกว่านั้น แล้วแต่กำลังบารมีที่ไม่เท่าเทียมกัน

 

ธรรมดวงนี้มาพร้อมกับความสุขที่เราไม่เคยเจอ ไม่เคยพบพานมาก่อน สุขที่เกิดจากความบริสุทธิ์ของใจที่หยุดนิ่ง มาพร้อมกับความสว่าง ความสุข สงบ ใส เย็น อยู่ในกลางกาย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำเราเข้าไปสู่ชีวิตภายในที่ประณีต ละเอียดอ่อน สูงส่ง บริสุทธิ์บริบูรณ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงของเรา คือ เข้าถึงพระธรรมกายในตัว ที่ใสบริสุทธิ์ เป็นแก้วใสๆ ใส เย็น สบาย อยู่ในกลางกายนะจ๊ะ

 

เพราะฉะนั้น ให้ใจของเราหยุดนิ่งอย่างเดียว นิ่ง นุ่ม เบา สบาย เดี๋ยวการเห็นก็จะบังเกิดขึ้นเป็นไปตามลำดับ ความสว่างเกิด การเห็นเกิด ภาพเกิด ที่ชัด ใส สว่าง ความรู้สึกที่เป็นอิสรภาพ ปลอดกังวล มีแต่สุขอย่างเดียว ที่เพิ่มปริมาณมากขึ้น เมื่อใจยิ่งหยุดยิ่งนิ่ง ยิ่งดิ่งไม่หยุดยั้งเลย เข้าไปสู่ภายในอย่างสบายๆ ให้ใจนิ่งอย่างนี้นะจ๊ะ

 

ถวายประทีปเป็นพุทธบูชา

 

แล้วเราก็น้อมเอาเปลวประทีป เทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย น้อมไปตั้งไว้ที่กลางกายฐานที่ ๗ ในทำนองเดียวกัน ให้ใจหยุดนิ่ง กระทั่งเห็นประทีปที่เราจุดถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้ชัดแจ่มกระจ่างกลางกาย ตั้งแต่เปลวประทีปเป็นสีส้มอมเหลือง สีทอง กระทั่งใสๆ เราจะได้น้อมนำไปถวายเป็นพุทธบูชา แด่พระธรรมกายของพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ท่านดับขันธปรินิพพานนานมาแล้ว ถอดขันธ์ทุกๆ ขันธ์ ที่ไม่จีรังยั่งยืนออกหมด เหลือแต่ธรรมขันธ์ที่บริสุทธิ์ คือ กายธรรมพระอรหัต หน้าตัก ๒๐ วา สูง ๒๐ วา กายธรรมพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วนในอายตนนิพพาน ที่ท่านเข้านิโรธสมาบัติ สงบนิ่งดิ่งเข้าไปสู่ภายในกลางกายของท่าน อย่างไม่มีอะไรเหนี่ยวรั้ง เสวยบรมสุขที่ยิ่งๆ ขึ้นไป

 

เราจะน้อมเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย ไปถวายเป็นพุทธบูชา ด้วยอานุภาพแห่งมหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน มีพระเดชพระคุณหลวงปู่ของเรา รวมทั้งคุณยายอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกาย ท่านจะได้ประกอบวิชชาธรรมกาย น้อมเปลวประทีปนี้ ทับทวีไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอรหันต์ทั้งหลายดังกล่าวนั้น ทุกๆ พระองค์ นับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน เพื่อเป็นทางมาแห่งบุญบารมีของเรา

 

อานิสงส์การจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชา

 

จะทำให้เรามีดวงปัญญา มีดวงตาที่สดใส มีรัศมีกายที่เจิดจ้า และเป็นทางมาแห่งบุญที่จะช่วยไปตัดรอนวิบากกรรม วิบากมาร อุปสรรคต่างๆ นานาในชีวิต ที่ติดข้ามภพข้ามชาติมากระทั่งถึงปัจจุบันชาติ ที่เราได้พลาดพลั้งด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ จะโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ให้หนักเป็นเบา เบาเป็นหาย ร้ายกลายเป็นดี

 

แล้วก็ตั้งผังใหม่ เซตโปรแกรมชีวิตใหม่ ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่เราได้ทำด้วยตัวเอง ในการจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชา ก็จะตั้งผังใหม่ ให้เราได้มีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีในภพชาติต่อๆ ไป ให้บริสุทธิ์ ให้บริบูรณ์ยิ่งๆ ขึ้นไป

 

ทั้งรูปสมบัติ ทั้งทรัพย์สมบัติ ทั้งคุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผลนิพพาน วิชชาธรรมกาย เกิดมาให้เราระลึกชาติได้ ให้เห็นธรรมะกันตั้งแต่เยาว์วัย ให้ได้สร้างบารมีเรื่อยไปจนกระทั่งหมดอายุขัย ไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

 

ด้วยอานุภาพแห่งบุญจุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ ให้วัตถุอันเลิศบังเกิดกับเรา ให้มีทิพยสมบัติอันโอฬาร มีความตระการตา มีความสว่างไสว ให้ได้บรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้บรรลุธรรมกาย

 

ให้ได้บวช ๒ ชั้นสำหรับพระธรรมทายาทและพุทธบุตรทั้งหลาย ทั้งภิกษุสามเณร ผู้ประพฤติธรรม ให้ผลบุญนี้ถึงแก่บิดามารดา บรรพบุรุษ หมู่ญาติสนิทมิตรสหาย สัมพันธชน ของเรา ที่ท่านมีทุกข์มากก็ให้ทุกข์น้อย ที่ท่านมีทุกข์น้อยก็ให้พ้นทุกข์ ที่ท่านมีสุขน้อยก็ให้สุขมาก ที่มีสุขมากแล้วก็ให้มากยิ่งขึ้นไป

 

ในปัจจุบันชาตินี้ก็ให้ประสบความสำเร็จในชีวิต ในธุรกิจการงาน ในสิ่งที่พึงปรารถนา ให้มีดวงตาเห็นธรรม ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เป็นครอบครัวแก้วครอบครัวธรรมกาย อย่างนี้เป็นต้นนะจ๊ะ

 

แล้วเราก็ทำใจนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ แตะใจของเราไปอย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ ให้ใจใสๆ ให้ใจเย็นๆ

 

กล่าวคำอธิษฐานจิต จุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย

 

ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอนอบน้อมบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และมหาปูชนียาจารย์ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชชาธรรมกาย ด้วยเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย ในพรรษาแห่งการเข้าถึงธรรมนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายจะตั้งใจปฏิบัติธรรม ให้เข้าถึงพระธรรมกาย พร้อมทั้งเร่งสร้างบารมี อย่างเต็มที่เต็มกำลัง

 

ขออานิสงส์แห่งบุญนี้ จงดลบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้ประสบความสำเร็จใน ชีวิต ในธุรกิจหน้าที่การงาน และสิ่งที่พึงปรารถนา ให้มีมหาสมบัติอัศจรรย์ ทันใช้สร้างบารมีในปัจจุบันชาตินี้ อย่างสะดวกสบายอย่างง่ายดาย ให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง มีกำลังใจที่เข้มแข็ง ในการทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร เมื่อไปชักชวนผู้มีบุญใด ให้มาสร้างบารมี มาเป็นประธานกองกฐินสามัคคี ขอให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์

 

ให้เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง มีดวงปัญญาสว่างไสว มีญาณทัสสนะกว้างไกล มีดวงตาแจ่มใส ทั้งมังสจักษุ ทิพยจักษุ ปัญญาจักษุ สมันตจักษุ และธรรม จักษุ

 

ให้ได้บรรลุธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร และคุณยายอาจารย์ มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

 

ให้ความปรารถนาทั้งมวล ของข้าพเจ้าทั้งหลาย จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ ด้วยอานุภาพแห่งพระธรรมกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ จงทุกประการเทอญ นิพพานะ ปัจจโย โหตุ

Add Comment

2553, อานิสงส์ถวายประทีป

วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565

• Share

Related Posts