หนึ่งไม่มีสอง
วันศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๓ (๑๗.๐๐ -
๑๙.๐๐ น.)
งานบุญพิธีวางแผ่นทองอาคาร
๑๐๐ ปีคุณยาย ณ หน้าหอฉันคุณยายฯ
ปรับกาย
เมื่อเราได้สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ต่อจากนี้ไปให้ลูกทุกคน ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ
ให้นั่งขัดสมาธิ โดยเอาขาขวาทับขาซ้าย
มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย
วางไว้บนหน้าตักพอสบายๆ
หลับตาของเราเบาๆ
ค่อนลูก พอสบายๆ ไม่ถึงกับปิดสนิท หลับพอสบายๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายของเรา
ทั้งเนื้อทั้งตัวให้มีความรู้สึกว่า ผ่อนคลาย สบาย
ขยับท่านั่งให้ถูกส่วน
อย่าให้ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายของเรา มันตึง หรือเกร็ง ให้รู้สึกผ่อนคลาย
ปรับใจ
ทำใจของเรา ให้เบิกบาน
ให้แช่มชื่น ให้สะอาด บริสุทธิ์ ผ่องใส ไร้กังวลในทุกสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ให้คลายความผูกพันในทุกสิ่ง จะเป็นเรื่องคน
สัตว์ สิ่งของ ธุรกิจ การงาน บ้านช่อง การศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว
หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้ ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง
วางใจ
รวมใจไปหยุดนิ่งๆ
นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเรา ในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ทำใจใสๆ ใจเย็นๆ ให้ตรึกนึกถึงดวงใส
ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ อย่างเบาๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ใจเย็นๆ
บริกรรมนิมิต
ตรึกนึกถึงดวงใส ใสบริสุทธิ์ประดุจเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว
ไม่มีตำหนิเลย โตเท่ากับแก้วตาของเรา หรือขนาดไหนก็ได้ที่ใจเราชอบ ให้นึกอย่างเบาๆ
สบายๆ สม่ำเสมอ ใจเย็นๆ แล้วก็ผ่อนคลาย นึกแบบผ่อนคลาย นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ
ผ่อนคลาย ใจเย็นๆ
ส่วนใครคุ้นเคยกับการนึกถึงภาพองค์พระ
เราก็นึกถึงองค์พระก็ได้ อย่างเบาๆ สบายๆ ใจเย็นๆ
ส่วนใครที่ใจหยุดนิ่งได้แล้ว
เข้าถึงดวงธรรมใสๆ ก็ดี กายภายในใสๆ ก็ดี หรือองค์พระธรรมกายใสๆ เกตุดอกบัวตูม
ที่นั่งขัดสมาธิหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา เห็นชัดใสแจ่มกระจ่างอยู่ที่กลางกาย
ก็เอาใจหยุดนิ่งอยู่ที่ตรงนี้ อย่างเบาๆ สบายๆ
บริกรรมภาวนา
จะประคองใจด้วยบริกรรมภาวนา
สัมมาอะระหัง ไปด้วยก็ได้ อย่างสบายๆ ใจเย็นๆ ประคองใจไปจนกว่าใจจะหยุดนิ่ง ใจกับศูนย์กลางกายฐานที่
๗ เป็นหนึ่งเดียวกัน นิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ให้ใจใสๆ ใจเย็นๆ
ประสบการณ์ภายใน
ถ้าใจหยุดนิ่งถูกส่วน
ก็จะขยายออกไปเอง จะเป็นดวง เป็นกาย หรือเป็นองค์พระ ก็จะขยายโตใหญ่ออกไปเอง
มาพร้อมกับความสุข ความบริสุทธิ์ของใจเรา จะมาพร้อมๆ กัน คือ เห็นภาพด้วย มีความสุข
ความบริสุทธิ์ไปด้วย ใจจะเกลี้ยงๆ ใสๆ มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจใสๆ เย็นๆ เบาๆ สบายๆ
จะมาพร้อมกันทั้งความสว่าง การเห็น ความสุข ความบริสุทธิ์
ความเบาของกาย และใจใสๆ เย็นๆ
พิธีวางแผ่นทองบรมจักรพรรดิ อาคาร ๑๐๐ ปี คุณยาย
ใจเราจะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
จากการประกอบพิธีวางแผ่นทองบรมจักรพรรดิ
ณ เสาจันทร าอาคาร ๑๐๐ ปี คุณยาย ของเรา
เป็นบุญใหญ่ที่เนื่องด้วยท่านและงานของพระศาสนา ในการขยายวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
นึกน้อมอาราธนาคุณยายอาจารย์
ให้ท่านคุมบุญให้กับเรา บุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น จะส่งผลให้เรามีความสุขความสำเร็จในชีวิต
ทั้งในปัจจุบันชาติและในอนาคต ไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม สมบูรณ์ไปด้วยรูปสมบัติ
ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผล นิพพาน วิชชาธรรมกาย
เมื่อนึกอาราธนาท่าน
ท่านก็น้อมเราไว้ในกลางองค์พระธรรมกายของท่านนับไม่ถ้วน
กำลังคุมบุญให้กับพวกเราทุกๆ คน ที่เป็นลูกหลานท่าน มีความเคารพศรัทธาเลื่อมใสในท่าน
เราก็ทำใจนิ่งๆ นุ่มๆ เบาๆ สบายๆ ใจใสๆ ใจเย็นๆ นะจ๊ะ
คุณยายตามติดปราบมารกับหลวงปู่มาทุกชาติ
คุณยายอาจารย์ของเรา
เป็นบุคคลที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ท่านฝึกตัวของท่าน
สั่งสมบุญบารมีของท่านมาอย่างตลอดต่อเนื่องตั้งแต่ปฐมชาติที่ท่านได้เกิดมาเป็นมนุษย์
เรื่อยมากระทั่งปัจจุบันชาติ นับภพนับชาติไม่ถ้วน
มุ่งปราบมารประหารกิเลส
ให้สิ้นเชื้อ ไม่เหลือเศษ มาตลอดต่อเนื่องไม่ขาดตอนเลย ทำตลอดต่อเนื่องเรื่อยมา ติดตามตามติดปราบมารกับพระเดชพระคุณหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันชาตินี้
ไม่ว่าท่านจะเกิดมาในตระกูลของชนชั้นไหนก็ตาม
ชั้นล่าง ชั้นกลาง ชั้นสูง ในที่สุดท่านก็จะมุ่งเข้ามาสู่การทำวิชชาปราบมาร
อย่างนี้ตลอดเรื่อยมากระทั่งในปัจจุบันชาตินี้ เรื่องราวของท่าน เราก็ได้ทราบกันดีอยู่ในระดับหนึ่งแล้ว
คุณยายเป็นหนึ่งไม่มีสอง
การมุ่งปราบมารของท่านในสมัยปัจจุบันชาตินี้
ท่านมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ ทำอย่างจริงจัง เอาชีวิตเป็นเดิมพัน จนกระทั่งเป็นที่ประจักษ์ของหมู่คณะนักรบกองทัพธรรมทั้งหลายในยุคนั้น
และเป็นที่ประจักษ์แก่พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร จนได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งไม่มีสอง ท่านพูดครั้งเดียว แล้วก็ไม่ได้กล่าวอีกเลย
การกล่าวของพระเดชพระคุณหลวงปู่
พระผู้ปราบมาร แม้เพียงประโยคสั้นๆ แต่มีความสำคัญมาก เพราะการกล่าวนั้น ไม่เพียงได้ยินแค่ในโรงงานทำวิชชา แต่ได้ยินกันไปทั่วธาตุทั่วธรรมทีเดียว
ปกติของพระเดชพระคุณหลวงปู่
ใจของท่านจะไปหยุดนิ่งอยู่ในสมรภูมิรบที่ปะทะกับพญามารตลอดเวลา
ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ลึกซึ้งนัก คำกล่าวประโยคนี้ จะได้ยินไปทั่วทุกหนทุกแห่งที่รู้ญาณทัสสนะของท่านไปถึง
ความละเอียดของใจของท่านไปถึง
ที่เราพอจะเข้าใจได้ก็คือ
ในหมู่ของนักรบกองทัพธรรมในโรงงานทำวิชชา ถ้าภาคละเอียดก็ตั้งแต่พวกกายละเอียดทั้งหลาย
ตั้งแต่ภุมมเทวา รุกขเทวา อากาศเทวา ชาวสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์
ยามา ดุสิตา นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี พรหมทุกชั้น อรูปพรหมทั้งหมด พระนิพพาน ทั้งนิพพานถอดกาย
นิพพานไม่ถอดกาย เป็นเรื่องราวลึกซึ้งเกินที่จะกล่าวในเวลาช่วงสั้นๆ ได้
รบกับพญามารไปถึงไหน ก็ได้ยินไปถึงนั่น จึงเป็นถ้อยคำอันประเสริฐ ที่กล่าวโดยบุคคลอันเลิศ
ที่หาได้ยากยิ่งในธาตุในธรรม
มโนปณิธานของคุณยาย
ก็ยิ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นมโนปณิธานของคุณยายอาจารย์ของเราให้หนักแน่นเพิ่มขึ้นไปอีก
ปกติท่านก็มุ่งมั่นอยู่แล้วที่จะไปปราบมาร
ประหารกิเลสให้สิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ แต่ก็หนักแน่นเพิ่มขึ้น จนทำให้ท่านเกิดมหาปีติ ประดุจดั่งพระผู้มีพระภาคเจ้าในคราวยกย่องสรรเสริญพระอริยสาวกว่า
เป็นเลิศหรือเป็นเอตทัคคะในทางใดทางหนึ่ง
เช่น เลิศด้วยฤทธิ์ เลิศด้วยดวงปัญญา เลิศด้วยตาทิพย์ เป็นต้น มหาปีติก็ย่อมเกิดขึ้นกับพระอริยสาวกที่ได้รับการยกย่องนั้น
คุณยายอาจารย์ของเราก็เป็นประดุจอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการเริงร่า เพราะปกติท่านเป็นคนเรียบง่ายทั้งภายนอกและภายใน
ดำเนินชีวิตเรียบง่ายมาตลอด เป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ใจหยุดอย่างเรียบง่าย มีความอาจหาญ ร่าเริงเบิกบานในธรรมตลอด
ท่านมักจะกล่าวด้วยความปีติ หรือเปล่งอุทาน ในท่ามกลางลูกหลานผู้ใกล้ชิด หรือที่ท่านคุ้นเคยว่า “ใครจะไปนิพพานก็ไปเถอะ ยายอนุโมทนาด้วย
แต่ยายจะไปปราบมาร ไปให้ถึงที่สุดของพญามาร” ถ้าพูดเป็นภาษาที่เราพอจะเข้าใจ คือ ท่านยินดีที่ใครจะไปนิพพาน
หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ พ้นการเวียนว่านตายเกิดในวัฏสงสาร ชีวิตก็ปลอดภัยมากกว่าอยู่ในภพทั้ง ๓ เสวยบรมสุขในอายตนนิพพาน
ส่วนของคุณยายนั้น แม้การมาเกิดแต่ละครั้งจะยากลำบาก ตามประสาผู้มาเกิดในวัฏสงสาร เป็นกายมนุษย์ ท่านก็ยินดี แล้วก็ใช้ชีวิตที่มีกายมนุษย์อยู่ทุกอนุวินาที เป็นไปเพื่อการสร้างบารมีทั้งหยาบและละเอียด โดยเฉพาะการปราบมารซ้ำๆ อย่างนี้ นับภพนับชาติไม่ถ้วน ท่านก็ยินดี มุ่งมั่นอย่างแน่วแน่
ตามติดยาย
เราเป็นลูกหลานของท่าน
ก็ต้องเดินตามรอยของท่าน
ท่านทำอย่างไรเราก็ทำอย่างนั้น ซึ่งก็สรุปได้ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ว่า “ละชั่ว
ทำความดี ทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส” ด้วยการหยุดนิ่งอยู่ภายใน
ทำอย่างนี้เรื่อยไป
ถ้าใครแน่วแน่ที่จะไปกับท่าน
ก็ต้องมุ่งมั่นสร้างบารมีให้เต็มที่เต็มกำลัง ถ้าใครเห็น ว่า มันยาวนาน เวลาก็ไม่มีกำหนด จะเข้าสู่อายตนนิพพานก่อนก็ได้
เมื่อบารมีเต็มเปี่ยม ก็แล้วแต่เราจะเลือกไปตามจริตอัธยาศัยของเรา
แต่ ณ วันนี้ เราได้อยู่ในเฉพาะหน้าของท่าน
กำลังจะทำสิ่งที่สำคัญที่เนื่องด้วยท่าน
คือ การบูชาธรรมท่าน ด้วยการช่วยกันสร้างอาคารในวาระครบรอบ
๑๐๐ ปี ของท่าน เอาไว้เป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พุทธศาสนา วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
ตามมโนปณิธานที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านตั้งผังเอาไว้
ณ วันนี้ เราต้องเอาบุญให้เต็มที่
ทำกาย วาจา ใจของเราให้ใสๆ ให้บริสุทธิ์ ด้วยการหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
อย่าง เบาๆ สบายๆ หยุดนิ่งเรื่อยไป เพื่อชำระกายวาจาใจของเราให้ใส สะอาด บริสุทธิ์
จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับบุญใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น ให้ลูกหยุดอยู่ในศูนย์กลางกายอย่างสบาย
นึกถึงแผ่นทองบรมจักรพรรดิไว้ในกลางกายของเรา ซึ่งมีดวงใสๆ หรือองค์พระใสๆ
หรือคุณยายของเราใสๆ ต่างคนต่างนั่งกันไปเงียบๆ นะจ๊ะ
(ปฏิบัติธรรม)
(พิธีวางแผ่นทองอาคาร
๑๐๐ ปีคุณยาย และกล่าวคำอธิษฐานจิต)
วันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565