พระพี่เลี้ยงของโลก
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๒ ๑๓.๓๐ - ๑๕.๓๐ น.
งานบุญวันอาทิตย์ สภาธรรมกายสากล วัดพระธรรมกาย
ปรับกาย
ตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะ หลับตาเบาๆ พอสบายๆ ผ่อนคลายทุกส่วนของร่างกายของเรา ทั้งเนื้อทั้งตัวให้มีความรู้สึกว่า
สบาย ผ่อนคลายจริง ๆ นะจ๊ะ
ปรับใจ
แล้วก็ทำใจของเรา ให้เบิกบาน ให้แช่มชื่น สะอาด บริสุทธิ์
ผ่องใสไร้กังวลในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ให้ปลด ให้ปล่อย ให้วาง ให้คลายความผูกพันจากทุกสิ่ง
วางใจ
แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งอยู่ในกลางท้องของเราในระดับที่เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ หรือจำง่ายๆ ว่า อยู่ในกลางท้องใน บริเวณที่เรามั่นใจว่า เหนือจากสะดือขึ้นมา
๒ นิ้วมือ
บริกรรมนิมิต
ให้รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ
เบาๆ สบายๆ แล้วก็นึกถึงบริกรรมนิมิต นึกถึงเพชรสักเม็ดหนึ่งที่ใสบริสุทธิ์
กลมรอบตัวเหมือนดวงแก้ว ใสบริสุทธิ์ สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แต่ว่าใสเย็นเหมือนแสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญนะจ๊ะ
ให้นึกอย่างเบาๆ สบายๆ
ผ่อนคลาย ใจเย็นๆ ค่อยๆ นึกเบาๆ อย่างง่ายๆ สบายๆ ใจเย็นๆ ให้ต่อเนื่องกันไป
อย่าให้ใจเผลอไปคิดเรื่องอื่น ให้ใจมาหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ อยู่ที่กลางดวงใสๆ
ที่ใสเหมือนกับเพชร สว่างเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน
บริกรรมภาวนา
พร้อมกับประคองใจด้วยบริกรรมภาวนาในใจเบาๆ
ว่า สัมมาอะระหังๆๆ ตรึกนึกถึงดวงใส ใจหยุดอยู่ในกลางดวงใสๆ อย่างเบาๆ สบายๆ
ใจเย็นๆ ประคองใจกันไปอย่างนี้ จนกว่าใจจะหยุดนิ่งตั้งมั่นอยู่ภายใน
จนกระทั่งถูกส่วน
สภาวธรรมภายใน
พอถูกส่วนก็จะตกศูนย์เข้าไปสู่ภายใน
แล้วก็จะมีดวงธรรมปรากฏเกิดขึ้นในกลางกายแทนบริกรรมนิมิตที่เบื้องต้นเราใช้ยึดเหนี่ยวใจของเราไม่ให้ฟุ้งซ่าน
เมื่อใจหยุดนิ่งถูกส่วน มันก็จะตกศูนย์เหมือนหล่นจากที่สูงลงไป
แล้วก็มีดวงธรรมลอยขึ้นมา เป็นดวงใสๆ ใสยิ่งกว่าเดิม บริสุทธิ์ สะอาด
ใจเกลี้ยงเกลาทีเดียว ที่มาพร้อมกับความสุขอย่างที่เราไม่เคยเจอมาก่อน
ใจจะใส สะอาด บริสุทธิ์ เมื่อดวงธรรมปรากฏเกิดขึ้นที่กลางกาย
ดวงนี้ คือ ดวงปฐมมรรค
หรือ ดวงธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นจุดเริ่มต้นที่จะเดินทางไปสู่อายตนนิพพาน
โดยผ่านเส้นทางสายกลางภายในตรงจุดเล็กๆ กลางดวงใสๆ เป็นแนวดิ่งลงไป แล้วก็ขยายไปรอบตัว
เพราะฉะนั้นเราก็ต้องประคองใจให้หยุดนิ่ง โดยกำหนดบริกรรมภาวนา สัมมาอะระหังๆๆ ควบคู่กันไปกับบริกรรมนิมิตนะจ๊ะ
พระพี่เลี้ยงของโลก
โดยเฉพาะ ว่าที่พระพี่เลี้ยงแสนรูปจำนวน
๑,๕๐๐ รูป ที่เป็นผู้มีบุญ เห็นความสำคัญของงานพระพุทธศาสนา
และทางมาแห่งบุญบารมี ให้โอกาสตัวเองเข้ามาทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่
ในช่วงการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้กลับมาเฟื่องฟูยิ่งกว่าเดิม
เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจารึกลงไปในใจของมวลมนุษยชาติและเทวดาทั้งหลาย
อีกทั้ง จะเป็นผังสำเร็จติดตัวข้ามภพข้ามชาติไปให้เราเห็นในยามที่เราเกิดธรรมจักขุ
ญาณทัสสนะในภพชาติต่อๆ ไป แล้วระลึกนึกย้อนหลัง
จะเห็นภาพเหล่านี้ปรากฏเกิดขึ้น
นำมาซึ่งความปลื้มปีติและภาคภูมิใจเมื่อระลึกถึง และในยามที่เราให้ผู้มีบุญต่างๆ ต่อๆ กันไป ต่างคนต่างก็จะปลื้มกัน
เพราะฉะนั้น
นี่เป็นช่วงของการเตรียมตัวก่อนการบรรพชาอุปสมบทอย่างถูกหลักวิชชาซึ่งหลายๆ
ท่านก็เคยบวชผ่านมาแล้ว ในรุ่นกองพันและกองพลสถาปนา ๗,๐๐๐ ตำบลทั่วไทย
แต่ก็มีอีกหลายๆ ท่าน ที่ยังไม่ได้เคยผ่านการบรรพชาอุปสมบทในรุ่นกองพัน
กองพลสถาปนานั้นก็จะต้องเตรียมเนื้อเตรียมตัวเตรียมใจให้ถูกหลักวิชชา
บวช
๒ ชั้นให้ได้
ผู้ที่เคยผ่านการบรรพชาอุปสมบทมาก็ทบทวนการปฏิบัติธรรม
ฟื้นฟูประสบการณ์ภายในให้เราได้บวช ๒ ชั้น เหมือนอย่างที่เราผ่านมานั่นแหละ แล้วก็ตอกย้ำซ้ำเดิม
ทำให้ดียิ่งกว่าเดิม
ส่วนที่เพิ่งจะมาบวชเป็นครั้งแรก ก็จะได้เตรียมเนื้อเตรียมตัวเตรียมใจบวช ๒ ชั้น คือ ข้างในเราก็เข้าถึงพระภายใน ข้างนอกก็ครองผ้ากาสาวพัสตร์
บวชแบบญัตติจตุตถกรรม เป็นสมมติสงฆ์ภายนอก
ภายในก็เห็นพระภายใน ภายนอกครองผ้ากาสาวพัสตร์
อานิสงส์การบวช ๒ ชั้น
บวช ๒ ชั้นอย่างนี้ได้ ก็มีอานิสงส์ใหญ่
ทั้งแก่ตนเอง แก่บุพการี บิดามารดา หมู่ญาติสนิท มิตรสหายสัมพันธชน
โดยเฉพาะตัวเรา กับบิดามารดาก็จะมีอานิสงส์ใหญ่ ที่บุญนี้ก็จะได้ไปตัดรอนวิบากกรรมหนักเป็นเบา
เบาเป็นหาย ร้ายกลายเป็นดี ปิดประตูอบายภูมิ เปิดประตูสวรรค์ นำตัวเราและบิดามารดาไปสู่เทวโลกอย่างน้อยก็อย่างนี้
เพราะฉะนั้น ทั้งสองประเภทนี้ก็จะได้ตั้งอกตั้งใจ
ใช้วันเวลาทุกอนุวินาทีให้คุ้มกับที่เราได้ตั้งใจมาในคราวนี้ มาเป็นต้นบุญต้นแบบในการบรรพชาอุปสมบท มาเป็นเนื้อนาบุญให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
เป็นอายุพระศาสนาที่จะสืบทอดคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ยืนยาวกันต่อๆ
ไป
จะเป็นผู้ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัย
ปฏิบัติตรงต่อหนทางพระนิพพานไปตามธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระองค์ทำอย่างไรเราก็จะทำอย่างนั้น เราก็จะได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่มีตบะอันยิ่ง
รุ่งเรืองสว่างไสวประดุจพระอาทิตย์ยามเที่ยงวัน หรือพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ
เป็นแหล่งแห่งความบริสุทธิ์ ความสว่างไสว แด่สรรพสัตว์ทั้งปวง
นอกเหนือจากตัวของเราเอง เพราะฉะนั้นจะต้องตั้งใจเตรียมเนื้อเตรียมตัวให้ดี
เรามีเวลาจำกัดในการบวชอย่างช่วงสั้น
ทั้งต้องฝึกฝนตนเอง แล้วก็จะต้องไปเป็นพระพี่เลี้ยงให้กับผู้มีบุญที่จะมาบวชในโครงการบวชพระแสนทุกหมู่บ้านทั่วไทย
ถ้าหากว่า เราเข้าถึงพระในตัวได้ ถึงพระรัตนตรัยในตัว มีสุขอยู่ภายใน มีความสว่าง เป็นชีวิตที่ไม่ขาดแสงสว่างเลยทั้งหลับตาลืมตา
นั่ง นอน ยืน เดิน ไม่ขาดความรู้สึกหรือวิญญาณแห่งความเป็นพระ เป็นสมณะที่เรียกว่า สมณสัญญา ทั้งหลับตาลืมตา นั่ง นอน ยืน เดิน
เป็นผู้ที่ไม่ขาดการเห็น เห็นแจ้งภายใน หลับตาก็เห็น ลืมตาก็เห็นพระภายในชัดใสแจ่มอยู่ตลอดเวลาเลย อย่างนี้ก็จะมีตบะในตัว ที่จะสอนพระน้องชายในรุ่นแสนรูป
สอนทั้งการเป็นต้นแบบ คือ นำทำให้ดูว่า
อยู่เป็นสุขในเพศของสมณะเป็นอย่างไร เนื้อนาบุญมีลักษณะอย่างไร
ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบปฏิบัติตรงต่อหนทางพระนิพพานเป็นไปเพื่อธรรมนั้นเป็นอย่างไร
จะได้เป็นต้นแบบผู้นำ เพราะเราจะต้องอยู่ในสายตาของพระน้องชายตลอดเวลา นอกเหนือจากเพื่อนสหธรรมิกและตัวเอง
อีกทั้งเราก็จะได้แนะได้ คือ ถ่ายทอดความรู้เท่าที่เราจะถ่ายทอดได้ในช่วงเวลาจำกัดให้พระน้องชายแม้มีเวลาน้อยก็เหมือนมีเวลามาก
บวชช่วงสั้นก็ประดุจช่วงยาวราวกับพระเถระที่บวชมายาวนาน มีพรรษกาลมาก
เป็นที่ตั้งแห่งความศรัทธาเลื่อมใสปสาทะของมนุษย์และเทวดาทั้งหลายต่างก็จะปลื้มซึ่งกันและกัน
เราเป็นพระพี่ชายนอกจากปลื้มตัวเอง ยังปลื้มในพระน้องชาย
พระน้องชายก็จะปลื้มทั้งตัวเองที่ทำตามพระพี่ชายได้ และก็จะปลื้มพระพี่ชาย
ต่างก็จะมีศรัทธาปสาทะเลื่อมใสซึ่งกันและกัน
การอยู่เป็นสุขในหมู่สมณะก็จะบังเกิดขึ้น
นั่งก็เป็นสุข ยืนเป็นสุข เดินเป็นสุข นอนอยู่เป็นสุข ทุกกิจวัตรกิจกรรมก็เป็นสุข
เดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืนก็จะผ่านไปอย่างมีความสุข อย่างมีคุณค่าสูงส่ง สมควรแก่การตามระลึกนึกถึง
ภาพเหล่านี้จะไปปรากฏอยู่ในใจ
และจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เราทบทวนนึกถึง ไม่ว่ายามที่เราจะถ่ายทอดให้กับบุคคลอื่นผู้มีบุญที่จะมาในภายหลังก็ตาม
หรือใช้ในยามสำคัญของชีวิตในช่วงที่จะเดินทางไปสู่ปรโลก
ก็จะฉายให้เห็นเป็นกรรมนิมิตถึงภาพแห่งการกระทำสิ่งที่ดี เป็นพระแท้อย่างไร
เนื้อนาบุญอย่างไรแม้ช่วงสั้น ใจก็จะผ่องใส คตินิมิตก็จะสว่าง เราก็จะจากโลกนี้ไปอย่างผู้ที่มีชัยชนะ
ไปสู่เทวโลกอย่างองอาจ สง่างาม เป็นที่โจษขานในหมู่ของเทวดา
จะถูกห้อมล้อมด้วยเหล่าเทวดาทั้งหลาย ผู้เป็นสหายในสรวงสวรรค์นั้น
ในช่วงนี้ ลูกทั้งหลายที่ตั้งใจมาดีแล้ว
จงทิ้งทุกอย่าง ปล่อยวางทุกสิ่ง แล้วก็รวมใจไปหยุดนิ่งๆ นุ่มๆ
ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อย่างเบาๆ สบายๆ วันเวลาที่เหลืออยู่นี้ ให้อยู่ที่ตรงกลาง
ฝึกอยู่จนกว่าจะมั่นคง แม้หลุดบ้างในบางคราว
แต่พอรู้ตัวก็หวนกลับคืนไปที่ศูนย์กลางกายใหม่
ฝึกกันไปอย่างนี้ ประคับประคองไปจนกว่าใจจะตั้งมั่น
เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างกายและใจจนไม่พรากจากกัน นิ่งแน่นสนิทเป็นอันเดียวกัน กายก็เหมือนใจ ใจก็เหมือนกาย ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ แต่ว่าอยู่ด้วยกัน ติดสนิทเป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วก็ใสบริสุทธิ์
ความสำรวมอินทรีย์ก็จะเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติ
แม้ไม่ได้ตั้งใจจะสำรวม เพราะว่าจุดแห่งความสำรวมนั้นเราได้เข้าถึงแล้ว คือ ตำแหน่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่
๗ ที่ใจเราได้ไปครอบครองแล้วเป็นหนึ่งเดียวกัน ความสำรวมในอินทรีย์ในตา หู จมูก
ลิ้น กาย ใจ ก็จะบังเกิดขึ้นเองเป็นอัตโนมัติ เหมือนการหายใจเข้าออกที่เราไม่ต้องนึกถึงเลย
ใจก็จะใสๆ
ความบริสุทธิ์ของใจก็จะขยายมาสู่ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ทำให้อินทรีย์เราผ่องใส
ดูฟ่องเบา ดูนุ่มนวล น่าดู น่ามอง น่าชม แล้วก็จะขยายไปสู่อาภรณ์ คือ ผ้ากาสาวพัสตร์
ทำให้คนมีจิตเลื่อมใส และเข้าใจในคำว่า เป็นผ้าเครื่องหมายแห่งธงชัยพระอรหันต์เป็นอย่างไร
เพราะว่าอินทรีย์ผ่องใสขยายไปสู่อาภรณ์ ขยายไปสู่อาวาส และทุกหนทุกแห่ง
ไปสู่สิ่งแวดล้อม ก็จะขจัดสิ่งที่เป็นมลทินในบรรยากาศให้หมดสิ้นไป
ใครเห็นใจที่เขาขุ่นๆ ก็จะเปลี่ยนเป็นใส ก็จะเลื่อมจะใสขึ้น เป็นเงาขึ้น
กระจ่างขึ้น สัทธาปสาทะก็เกิดขึ้นในยามที่เห็น
การเห็นเป็นมงคลก็เกิดขึ้นในตอนนี้แหละ
ที่ว่า เห็นสมณะเป็นมงคล เมื่อใจมันสงบอยู่ภายใน กายก็สงบ วาจาก็สงบ คำว่า สมณะ ที่แปลว่า ผู้สงบทั้งกาย วาจา ใจ ก็เป็นอัตโนมัติ
แล้วก็จะขยายความสงบสุขนี้ไปสู่ผู้ที่พบเห็น ผู้ที่พบเห็นก็จะเกิดความรู้สึกเป็นสิริเป็นมงคล
ที่เข้ามาสู่ในใจของตัวผ่านการเห็นภาพของสมณะ แล้วความคิดดีๆ ก็จะเกิดขึ้นกับเขา คิดดี พูดดี
ทำดี ความเลื่อมใสในพระรัตนตรัยก็จะเกิดขึ้น ความตั้งมั่นของพระพุทธศาสนาก็ติดตามมา
ความคิดที่จะทำนุบำรุงพระศาสนา หวงแหน ปกป้อง
สืบทอด ก็จะบังเกิดขึ้นเป็นอัตโนมัติแม้ยังไม่ได้พูดกัน ยังไม่ได้คุยกัน แค่เพียงเห็นเท่านั้น
เหมือนพระเจ้าอโศกมหาราชได้เห็นอินทรีย์อันสงบและผ่องใสของสามเณรนิโครธ
แม้ยังไม่ได้พูด ยังไม่ได้สนทนาธรรมกัน ก็เกิดความเลื่อมใสแล้วก็นำมาสู่การสนทนา
นำสู่การปฏิบัติธรรม การไตร่ตรอง การปฏิบัติธรรมนำสู่การบรรลุธรรม
นำสู่การขยายพระพุทธศาสนาภายในประเทศและก็ขยายไปทั่วโลก
เพราะฉะนั้น ลูกทุกคน ว่าที่พระพี่เลี้ยงนี้จึงมีความสำคัญต่อพระพุทธศาสนาและโลกใบนี้ในยามนี้มาก
จงใช้วันเวลาทุกอนุวินาทีนี้ให้เป็นไปอย่างที่ได้กล่าวมานี้
ในช่วงนี้เป็นช่วงแห่งการนำใจกลับมาหยุดนิ่ง
นุ่ม เบาสบาย ให้ลูกหยุดใจไว้ให้ใสๆ
ให้ปลื้มปีติใจ ให้ดีใจไว้เถิดว่า เราตัดสินใจถูกแล้ว และก็ดำเนินชีวิตให้บริสุทธิ์บริบูรณ์นับตั้งแต่บัดนี้ไปเพื่อการประพฤติพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์บริบูรณ์
ส่วนผู้ที่ยังไม่อาจจะบวชเป็นสมณะได้ก็สามารถบวชภายในได้
และก็ไปทำหน้าที่ชวนคนมาบวช หรือทำนุบำรุงสนับสนุนผู้ที่บวชแล้วด้วยจิตอันเลื่อมใส
ด้วยจิตอันผ่องใส มีปีติสุขหล่อเลี้ยงใจตลอดเวลา มีธรรมเป็นเครื่องอยู่เป็นสุขด้วยใจที่สดใส
วาระนี้ แม้ลูกจะไม่ได้เข้าสู่ร่มผ้ากาวสาวพัสตร์ในคราวนี้
ก็ต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมควบคู่กันไป เราก็จะได้บุญเต็มที่
พระศาสนาก็ตั้งมั่น และก็อยู่ยั้งยืนยงคงอยู่คู่โลกนี้ต่อไป
แม้ว่าเราจะหลับตาลาจากโลกนี้ไป เวลาที่เหลืออยู่นี้ให้ลูกทุกคนตั้งใจเจริญสมาธิภาวนาไปอย่างเบา
ๆ สบายๆ ใจเย็นๆ กันนะลูกนะ ต่างคนต่างนั่งกันไปนะจ๊ะ
วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565